คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

TESTDRIVE

สัมผัส นิสสัน อัลเมร่า รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ MY 2023

นิสสัน อัลเมร่า นับเป็นรถยนต์ซีดาน 4 ประตูขนาดกะทัดรัด ที่สามารถทำยอดจำได้ดีที่สุดของ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่โมเดลแรกจนถึงโมเดลถัดมาในปัจจุบัน จากคุณสมบัติที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปได้เกือบทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาที่เหมาะสม ล่าสุดช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา นิสสันทำการยกระดับปรับปรุงด้านรูปลักษณ์ ตลอดจนการตกแต่งภายในอัลเมร่า ให้มีความแตกต่างสดใสมากขึ้น ช่วงเวลาก่อนหน้านั้นเพียงเล็กน้อยเราได้มีโอกาสสัมผัสกับ นิสสัน อัลเมร่า ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ กับแบบพอหอมปากหอมคอ ตอกย้ำความประทับใจที่เคยมีในอดีตด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย

ภายใต้การขับขี่ในสถานีต่างๆ ที่จัดไว้แบบสบายๆ ระลึกความหลังกับชุดขับเคลื่อนเดิมเมื่อ 3 ปีก่อน กระทั้งรวมถึงล้อยาง แน่นอนว่าด้วยสมรรถนะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แล้วสิ่งที่เปลี่ยนแปลงใหม่จะทำให้ นิสสัน อัลเมร่า ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ สดใส ซาบซ่า พร้อมเดินหน้าทำตลาดแข่งขันกับขาโจ๋ขาใหญ่ต่อไปได้อย่างไร เราจึงสรุปให้ได้ทราบดังนี้     

5 จุดเด่นของ อัลเมร่า รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่

  • ปรับโฉมใหม่ เพิ่มลุคโมเดิร์นให้กับด้านหน้ารถ ด้วยแนวคิดการออกแบบ V-motion สะท้อนความลื่นไหลปราดเปรียว สะดุดตาแม้จะมองจากกระยะไกล มาพร้อมสีใหม่แบบทูโทน “เกรย์ สกาย เพิร์ล หลังคาสีดำ” ทันสมัยล้ำยุคแฝงกลิ่นอายความสนุกน่าค้นหา
  • เครื่องยนต์ 0 ลิตร เทอร์โบ ให้สมรรถนะเร้าใจ แต่ประหยัดเชื้อเพลิงอย่างน่าประทับใจ และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ ให้ประสบการณ์การขับขี่อย่างพอเพียงรอบด้าน
  • อีกขั้นกับเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยใหม่ระดับพรีเมียม อาทิ เซนเซอร์ตรวจสอบลมยาง ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ และเทคโนโลยีเตือนเมื่อออกนอกช่องทาง
  • ใหม่! แอปพลิเคชัน NissanConnect Services ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสื่อสาร และควบคุมรถได้จากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน เพิ่มความสะดวก ปลอดภัย และขอความช่วยเหลือได้ทันทีเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน
  • เติมความทันสมัยในห้องโดยสารดีไซน์โมเดิร์น เพิ่มความสะดวกกับ Wireless Charger และเทคโนโลยี Cruise Control ที่ช่วยยกระดับนิสสัน อัลเมร่า ไปอีกขั้น

 

นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ตอบสนองความต้องการของทุกไลฟ์สไตล์ โดยยังคงรักษาจุดแข็งของสปอร์ตซีดานที่คล่องตัว ตอบโจทย์ของผู้ขับขี่ในทุกด้าน นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ จะสร้างประสบการณ์ในการเดินทางที่ประทับใจ ทั้งกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย 

ดีไซน์โมเดิร์น ด้วย V-Motion แบบใหม่

ดีไซน์ด้านหน้าของนิสสัน อัลเมร่า ใหม่ โมเดิร์นยิ่งขึ้น สื่อถึงแนวคิดการออกแบบรถยนต์ในอนาคตของนิสสันอย่างชัดเจน โดยยังคงรักษาสมดุลของรูปลักษณ์ทันสมัย กับความสปอร์ตปราดเปรียว ทีมดีไซเนอร์ของนิสสันได้ปรับโฉมอัลเมร่า ใหม่ ให้ดูสะดุดตาแม้จะมองจากระยะไกล ด้านหน้ารถโดดเด่น มีเอกลักษณ์ชัดเจนยิ่งขึ้น

แนวคิดการดีไซน์แบบ V-Motion ที่เห็นในกระจังหน้าของนิสสัน อัลเมร่า รุ่นก่อนหน้านี้ ถูกปรับใหม่ให้ชัดเจน โดดเด่นมากขึ้น รายละเอียดตั้งแต่กระจังหน้า กระโปรงหน้า ไปจนถึงเสาหลังคาคู่แรก ถูกปรับให้มีความลื่นไหลสื่อถึงพลัง พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้า ตามแนวคิดการดีไซน์ V-Motion แบบใหม่ หรือ Next Generation V-Motion

ทีมดีไซเนอร์ของนิสสันเพิ่มลูกเล่นด้านรูปลักษณ์ให้แก่ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่างด้วยการเพิ่มสีเทา เกรย์ สกาย เพิร์ล (Gray Sky Pearl) ที่ซ่อนความน่าสนใจ สีเทาใหม่นี้จะเปลี่ยนเฉดไปได้มากมายขึ้นกับช่วงเวลา แสงและมุมมอง โดยจะออกเงาเฉดสีม่วง เมื่อมองในขณะที่แสงน้อย แต่จะออกโทนสีฟ้ามากขึ้นถ้าอยู่ในที่ที่มีแสงแดดจัด และเมื่อมองจากระยะไกล จะเห็นเป็นสีทึบ แต่ถ้าเข้ามาใกล้จะมองเห็นเงาประกายมุกที่ซ่อนอยู่ ซึ่งทำให้สีของภายนอกเสมือนมีสีเหลือบหลายเฉด นอกจากนี้ในช่วงที่เฉดสีดูเข้มขึ้น จะช่วยเน้นรูปลักษณ์ของรถที่ออกแนวสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ทำให้นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ดูมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังจะมองเห็นคอนเซปต์ดีไซน์แบบ V-motion ต่อเนื่องมายังภายในตัวรถ เช่นการตกแต่งแผงคอนโซลหน้า ซึ่งเป็นรูปปีกที่สยายออกพร้อมวัสดุสีน้ำเงินเข้ม (ในรุ่น V และ VL) ตลอดแนวแดชบอร์ด เพิ่มความเก๋ ทันสมัย เสริมอารมณ์สปอร์ตให้กับห้องโดยสาร

ชุดขับเคลื่อนยังคงไว้เช่นเดิม พอเพียง และให้ความประหยัดอย่างน่าประทับใจ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นิสสัน อัลเมร่า ครองใจหลายคน จากเครื่องยนต์รวมถึงระบบส่งกำลังที่พอเหมาะและยังประหยัดอย่างน่าทึ่ง  ซึ่งจุดเด่นนี้ยังคงส่งต่อมายังนิสสัน อัลเมร่า รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ เบนซินรหัส HRA0 ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า (Ps) และแรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร (Nm) ให้แรงบิดต่อเนื่อง (flat torque) นอกจากนี้ยังมีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากประสิทธิภาพแล้ว เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร บล๊อคนี้ ยังมีนวัตกรรมทางเทคนิคมากมาย เช่น ลูกสูบแบบ Delta Cylinder Head หัวฉีดแบบ Central Injector และ Turbocharger ที่การควบคุมไอเสียด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเทคโนโลยีเคลือบบนกระบอกสูบแบบ Mirror Bore Coating เช่นเดียวกับที่ใช้ในรถซูเปอร์สปอร์ตอย่าง Nissan GT-R ซึ่งเพิ่มความทนทาน ช่วยลดการสึกหรอ และน้ำหนักของกระบอกสูบ ในขณะที่ปรับปรุงเรื่องการระบายความร้อน และการเผาไหม้ได้ดียิ่งขึ้น

ระบบเกียร์แบบ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่องทันใจ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และปลอดภัยเมื่อต้องเร่งแซง  ทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิงได้น่าทึ่งในอัตรา 23.3 กิโลเมตร/ลิตร*

NissanConnect Services เชื่อมต่อคุณกับรถเป็นหนึ่งเดียว

นิสสันยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่ใช้งาน อัลเมร่า โฉบปรับปรุงใหม่ MY 2023 ด้วย NissanConnect Services** แอปพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมหรือสั่งการรถได้จากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน รวมทั้งขอความช่วยเหลือได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ทั้งยังให้ความอุ่นใจเพิ่มขึ้นด้วยฟังก์ชัน SOS ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในเซ็กเมนท์นี้ ที่มีการติดตั้งระบบติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉินไว้กับตัวรถ ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจว่าจะมีผู้คอยช่วยเหลือตลอดเวลา เพียงกดปุ่ม SOS ภายในรถ ระบบจะติดต่อกับศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์ เพื่อประสานงานและส่งความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ NissanConnect Services ยังเตรียมรถให้พร้อมสำหรับทุกการเดินทาง ด้วยระบบสั่งการระยะไกลต่างๆ ได้แก่ ระบบตรวจสอบสถานะการล็อกประตู สั่งล็อก หรือปลดล็อกรถยนต์ระยะไกล ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล  ระบบสั่งกะพริบไฟหน้า และสั่งระบบแตรระยะไกล  ที่ช่วยให้ค้นหาตำแหน่งของรถได้สะดวกแม้ในลานจอดรถที่มีรถแน่นขนัด  และ  My Car Finder หรือระบบค้นหาตำแหน่งรถ ซึ่งฟังก์ชันนี้จะช่วยค้นหา และนำทางไปยังรถได้ในทันที

แอปพลิเคชันนี้ ยังช่วยแจ้งเตือนสถานะของรถได้ด้วย เช่น ตรวจเช็กได้ว่ารถล็อกหรือยัง หรือมีความผิดปกติกับรถหรือไม่ การแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดการบำรุงรักษาตามระยะ และการเตือนเมื่อใช้ความเร็วเกินกำหนด เป็นต้น รวมทั้งยังสามารถดูระยะทาง และระยะเวลาที่ใช้รถซึ่งดูได้ละเอียดระดับรายวัน รายเดือน หรือรายปี  นอกจากนี้ NissanConnect Services ยังช่วยดูแลความปลอดภัยของรถ เช่น เมื่อสัญญาณกันขโมยทำงาน แอปพลิเคชันนี้จะแจ้งไปยังเจ้าของรถทันที ทำให้สามารถจัดการได้ทันท่วงที  หรือเมื่อรถออกนอกพื้นที่ที่กำหนด แอปพลิเคชันจะแจ้งเจ้าของรถทันที ทำให้สามารถติดตามตำแหน่งของรถได้ตลอดเวลา

นิสสัน ได้มอบสิทธิพิเศษในการใช้บริการ NissanConnect Services เป็นระยะเวลา 3 ปี แก่เจ้าของรถนิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ทุกคน เมื่อพ้นกำหนด 3 ปีไปแล้ว ยังสามารถสมัคร และซื้อบริการนี้เพิ่มเติมได้ เพื่อให้สามารถใช้ และรับประโยชน์จากบริการนี้ได้อย่างต่อเนื่อง

ปลอดภัยทุกการเดินทาง กับเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ใน 360° SAFETY SHIELD

นิสสันยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยใน นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ไปอีกขั้น ด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ เพื่อตอกย้ำจุดยืนของนิสสัน อัลเมร่า ที่มีคุณสมบัติต่างๆ ครบถ้วน นับเป็นครั้งแรกในเซกเมนท์นี้ที่นิสสันได้นำเทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System – TPMS) ทำให้เจ้าของรถสามารถเห็นได้ว่าแรงดันลมยางแต่ละเส้นมีแรงดันลมยางเท่าไร และจะเตือนเมื่อลมยางต่ำหรือสูงกว่ากำหนด ทำให้เจ้าของรถสามารถควบคุมรถได้เต็มประสิทธิภาพ ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist – HBA) จะปรับไฟหน้าจากไฟสูงเป็นไฟต่ำทันทีเมื่อเซนเซอร์ตรวจจับได้ว่ามีรถสวนมา นอกจากนี้ การปรับไฟสูง-ต่ำบ่อยๆ ยังช่วยให้ตรวจจับได้ว่ามีคนเดินเท้าในบริเวณนั้นหรือไม่ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้ยิ่งขึ้น และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW) ที่จะส่งสัญญาณเตือนด้วยไฟกะพริบและการสั่นที่พวงมาลัยเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถโดยไม่ได้ตั้งใจ

นอกจากนี้ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ยังคงมีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ให้การปกป้องรอบคัน ได้แก่ เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) ซึ่งจะเตือนเมื่อตรวจพบวัตถุกำลังเคลื่อนที่เข้ามาทางด้านหลังขณะกำลังถอยรถ  กล้องมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitoring – IAVM) ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD)  เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW) ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)  และระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)

รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ให้การปกป้อง ได้แก่ เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts) ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุดทุกรุ่นย่อย  ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC) ที่ช่วยให้รถทรงตัวได้อย่างมั่นคง  ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Braking System – ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake Force Distribution – EBD) และเสริมแรงเบรก (Brake Assist)

ห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบาย ฟังก์ชันครบ

นิสสัน อัลเมร่า MY2023 มาพร้อมฟีเจอร์ครบครันที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charger*** ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนยุคดิจิทัล ช่วยให้ชาร์จอุปกรณ์สื่อสารได้รวดเร็ว และสะดวกแบบไร้สาย และกุญแจรีโมทอัจฉริยะดีไซน์ใหม่

นิสสัน อัลเมร่า รุ่นปรับปรุงโฉมล่าสุด ยังคงรักษาจุดเด่นเรื่องความกว้างขวางนั่งสบายสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง และพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังที่จุของได้มาก มีพื้นที่ช่วงเข่าทั้งสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า และด้านหลังที่มีระยะห่างนั่งสบาย เบาะนั่งคู่หน้า QUOLE MODURE ไม่สะสมความร้อนแม้ในการเดินทางไกลในเกรดท๊อป ส่วนที่เก็บสัมภาระทางด้านหลัง ออกแบบมาให้กว้างขวาง สามารถบรรจุของชิ้นใหญ่ เช่น ถุงกอล์ฟ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้สบาย ตอบสนองความต้องการให้สามารถใช้ชีวิตได้สะดวกสบาย

NissanConnect ระบบอินโฟเทนเมนต์ล่าสุดจากนิสสัน รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟนทั้งระบบ Android Auto*** และ Apple CarPlay รวมทั้งยังสามารถใช้ระบบนำทางผ่าน Google Map ได้สะดวกบนจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เครื่องเสียง และระบบสั่งงานด้วยเสียง เพิ่มความสุนทรีย์ในการเดินทาง

นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ มี 4 รุ่น ให้เลือกได้แก่ E, EL, V และ VL และมีทั้งแบบสีเดียวทั้งคัน (ทุกรุ่น) และสีทูโทน (เฉพาะรุ่น VL)

  • สีขาว สตอร์ม ไวท์ (Storm White): ทุกรุ่น
  • สีแดง เรเดียนท์ เรด (Radiant Red): รุ่น VL, V, EL
  • สีดำ แบล็ค สตาร์ (Black Star): ทุกรุ่น
  • สีเทา กัน เมทาลิค (Gun Metallic): ทุกรุ่น
  • สีน้ำเงิน ไนท์ บลู (Night Blue): รุ่น VL, V และ EL
  • สีเทา เกรย์ สกาย เพิร์ล (Gray Sky Pearl): รุ่น VL และV
  • และสีทูโทนสำหรับรุ่น VL : สีเทา เกรย์ สกาย เพิร์ล หลังคาสีดำเงา,  สีเทา กัน เมทาลิค หลังคาสีดำเงา, และสีขาว สตอร์ม ไวท์ หลังคาสีดำเงา 

 

เพื่อให้แฟนๆ อัพเกรดความสปอร์ตอีกขั้น นิสสันได้จัดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษให้ลูกค้าเลือกติดตั้งเพื่อสร้างบุคลิกและสไตล์ส่วนตัวได้อย่างชัดเจน ได้แก่  ชุดแต่ง Ignite Package ที่เพิ่มลุคสปอร์ตด้วยชุดสเกิร์ตหน้า ชุดสเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง ชุดสเกิร์ตรอบคันถูกตกแต่งด้วยสีเดียวกับตัวถังตัดกับสีดำเงา เสริมด้วยสปอยเลอร์หลังสีดำเงาทรง Ducktail ชุดแต่ง Iconic Package เติมความเท่ด้วยกระจังหน้าสีดำ ชุดตกแต่งหลังคาทรงครีบฉลาม ชุดแป้นวางเท้าแบบสปอร์ต พรมปูพื้น และคิ้วบันได สเเตนเลส  ชุดแต่ง Ultimate Package เน้นยกระดับความสปอร์ต มาพร้อมชุดแต่งภายนอกด้วยชุดสเกิร์ตด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง พร้อมสปอยเลอร์หลังทรง Ducktail นอกจากนี้ ยังมีกระจังหน้าและชุดตกแต่งหลังคาทรงครีบฉลามสีดำ พร้อมด้วยชุดตกแต่งภายในสไตล์สปอร์ต ได้แก่ ชุดแป้นวางเท้าแบบสปอร์ต พรมปูพื้น และคิ้วบันไดสเตนเลส   อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ Stylish Package ทั้งหมดนี้จะเติมความสปอร์ตภายในห้องโดยสารมากขึ้นด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ที่บริเวณแผงประตู และขอบประตูสีเงิน

อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษของแท้จากนิสสัน จะมีการรับประกันคุณภาพนาน 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร 

* จากการทดสอบตามมาตรฐาน UNECE Reg 101 Rev.2, NEDC Mode (หรือผสม)  

** เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

*** เฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับ

รวมข่าวในหมวดเดียวกัน

ฮอนด้า ตอกย้ำความแข็งแกร่งไลน์อัปเอสยูวี ชวนพิสูจน์สมรรถนะการขับขี่ของขุมพลังการขับเคลื่อนที่แตกต่างลงตัวกับการใช้งานจริงทุกไลฟ์สไตล์ บนเส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

Read More »