CAR ALL STYLE
คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

TESTDRIVE

“ออล-นิว ไทรทัน” ปฏิวัตทุกขีดจำกัด ประหยัดเกิดคาด พิสูจน์แล้ว ขับจริง เส้นทางจริง กรุงเทพฯ - เสียมเรียบ กัมพูชา

กรกฎาคม 2566 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดตัว ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทันหรือ แอล 200 (L200) รถกระบะขนาด 1 ตัน ที่ได้รับการสร้างสรรค์ใหม่ทั้งคัน และเปิดตัวครั้งแรกแบบเวิลด์พรีเมียร์ที่ประเทศไทย

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัวรถกระบะรุ่นแรกเมื่อ 46 ปีที่ผ่านมา โดยผลิตรถกระบะมาแล้วกว่า 5.6 ล้านคัน ครอบคลุมทั้งหมด 5 เจนเนอเรชั่น วางจำหน่ายใน 150 ประเทศทั่วโลก โดย ออล-นิว ไทรทัน เป็นรถกระบะเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคันเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน พร้อมทั้งการพัฒนาเฟรม หรือแชสซีส์ใหม่ ช่วงล่างใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ภายใต้แนวคิด“พลังแกร่งคู่ใจสายลุย” (Power for Adventure)

ออล-นิว ไทรทัน ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งคันโดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั้งโครงสร้างเมกาเฟรม ช่วงล่างที่มอบการควบคุมที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น ห้องโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบาย พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ Hyper Power เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น

มิตซูบิชิ ไทรทัน ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่แรกของโลก สร้างสรรค์เพื่อเอาชนะความท้าทายของสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา โดย ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ประกอบด้วยรุ่นย่อยต่างๆ ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถกระบะทั้งการใช้งานแบบรถส่วนตัว และการใช้งานเชิงพาณิชย์

สำหรับตลาดประเทศไทย ออล-นิว ไทรทัน เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ โชว์รูมมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั่วประเทศ โดยเริ่มต้นในราคา  

รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 699,000 บาท

รุ่นดับเบิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 820,000 บาท

รุ่นดับเบิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,016,000 บาท

วันที่ 9 – 10 พฤษภาคม 2567 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดกิจกรรมทดสอบขับประหยัดน้ำมัน “ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน” ปฏิวัติทุกขีดจำกัด ประหยัดเกินคาด เส้นทางกรุงเทพฯ – เสียมเรียบ กัมพูชา โดยมีมิตซูบิชิ ไทรทัน หลากหลายรุ่นกว่า 15 คัน เป็นพระเอกของงานนี้ มีทั้งสื่อมวลชนไทย สื่อมวลชนกัมพูชา และลูกค้ามิตซูบิชิ ตัวจริง ร่วมขับทดสอบเดินทางไกลแบบใช้งานจริง ท่ามกลางสภาพการจราจรที่แตกต่างทั้งหนาแน่นในเมือง ว้าวุ่นเมื่อผ่านชุมชนและด่านผ่านแดน ร่วมถึงการใช้ความเร็วเดินทางระหว่างเมืองตลอดเส้นทางกว่า 390 กิโลเมตร โดยมีมิตซูบิชิ ไทรทัน ทั้ง 3 รูปแบบตัวถัง รวมในภารกิจท้าทายครั้งนี้

รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ Active ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน – เมตร  ราคาจำหน่าย 599,000 บาท

รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ Pro ให้กำลัง 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน – เมตร  ราคาจำหน่าย 609,000 บาท

รุ่นเมก้า แค็บ Pro ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน – เมตร  ราคาจำหน่าย 682,000 บาท

รุ่นดับเบิ้ล แค็บ Ultra AT ให้กำลัง 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน – เมตร ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,207,000 บาท

โดยมีกฎ กติกา มารยาท ดังนี้ “ซีล” ระบบปรับอากาศ (Manual ความแรงลมเบอร์ 2, ความเย็น1/2 / Automatic อุณหภูมิ 25 องศา) “ซีล” จุกเติมลมยาง / “ลมยาง” เติมไว้ตามมาตรฐานที่ระบุด้านข้างประตู ในแต่ละรุ่น “ซีล” ฝาถังน้ำมัน และเซ็นชื่อกำกับ โดยกรรมการ / “น้ำมัน” เติมถึงคอถัง Set Trip A / B เป็น 00 (ปรับ DNF ทันที หากกด Reset)  ค่า AVG ปรับเป็น Manual เท่านั้น ความเร็วเฉลี่ย “ฝั่งไทย” ใช้ 90 –100 กม./ชม. / “ฝั่งกัมพูชา” เขตเมือง 40 กม./ชม. นอกเมือง 60 –80 กม./ชม.  ให้เวลาเดินทางในช่วงแรก ระยะทาง 227 กม. จาก จุดสตาร์ท กรุงเทพฯ – จุดพักรับประทานกลางวัน  (โดยมีกรรมการบันทึกเวลา และเลขไมล์ ODO ใน Time Card โดยใช้เวลาช่วงแรกต้องไม่เกิน 3.30 ชั่วโมง) การเดินทางในช่วงที่ 2 ระยะทาง 155 กม. จาก ด่านกัมพูชา – PTT Gas Station (Seang Nam)  (บันทึกเวลาบันทึกเวลาใน Time Card เวลาเดินทางตั้งแต่ด่านกัมพูชา – PTT Gas Station (Seang Nam) ต้องไม่เกิน 3.30ชั่วโมง) ถึงจุด Finish @ PTT Gas Station (Seang Nam) ระยะทางรวมต้อง ไม่ “มากกว่า 400 กม. หรือ น้อยกว่า 380 กม.”  ถึงจุด Finish กรรมการตรวจเช็คจุดที่มีการ “ซีล” ปิดไว้ จากนั้นเติมน้ำมันกลับถึงคอถังเช่นเดียวกับที่เต็มไว้ก่อนออกสตาร์ท โดยใช้หัวจ่ายเดียวกันทั้งหมด แล้วตรวจวัดอัตราสิ้นเปลือง จากปริมาณน น้ำมันที่เติมกลับเข้าไปจนเต็มเพื่อหาผู้ที่ขับขี่ได้ประหยัดสูงสุด

ไฮไลท์ของมิตซูบิชิ ไทรทัน

ออล-นิว ไทรทัน มีตัวถังให้เลือกหลากหลายรูปแบบ รองรับความต้องการใช้งานที่แตกต่างกันของทุกลุ่มตลาดรถกระบะในประเทศไทย ตัวถังดับเบิ้ล แค็บ มาพร้อมเบาะ 2 แถว มอบทั้งความสะดวกสบายแบบรถเอสยูวีและความอเนกประสงค์แบบรถกระบะ ขณะที่ตัวถังซิงเกิ้ล แค็บ (ตอนเดียว) มีเบาะคู่หน้า และตัวถังเมกะ แค็บ (ตอนครึ่งแค็บเปิดได้) มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ช่วยให้ปรับเอนเบาะคู่หน้าได้สะดวกขึ้น ด้วยตัวถังที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบ 2.4 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อมอบพละกำลังและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โครงสร้างรถ เมกาเฟรมใหม่ รวมถึงช่วงล่าง และชิ้นส่วนอื่นๆ ได้รับพัฒนาขึ้นใหม่จากเทคโนโลยี เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่พร้อมด้วยฟีเจอร์ต่างๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ รวมถึงระบบความปลอดภัยครบครัน

เมกาเฟรม  (Mega Frame) และเครื่องยนต์ใหม่! ไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า

โครงสร้างรถยนต์แบบขั้นบันไดที่พัฒนาขึ้นใหม่ มีคานขวางที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เพิ่มความแข็งแกร่งทุกมิติ ทั้งการต้านทานแรงดัด (Bending Rigidity) และเสริมความแข็งแกร่งเชิงบิด (Torsional Rigidity) โดยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High-tensile Steel) ในอัตราส่วนที่สูงขึ้น ไม่เพียงมอบสมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบายมากกว่าเดิม ออล-นิว ไทรทัน ยังมีความแข็งแรงสมบุกสมบัน พร้อมรองรับการบรรทุกหนัก ทั้งยังช่วยรับและกระจายแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ ช่วยปกป้องให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

เครื่องยนต์คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ใหม่ พัฒนาให้มีพละกำลังทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ด้วยพละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร พร้อมติดตั้งระบบเทอร์โบแปรผัน VG Turbo ที่ช่วยควบคุมแรงดันอากาศให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ มอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้เต็มสมมรรถนะ

ออล-นิว ไทรทัน ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport และระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์) ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกสบาย

ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ด้วยช่วงล่างที่พัฒนาใหม่ และเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์

ช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ด้วยโครงสร้างปีกนกสองชั้นที่ด้านหน้าซึ่งมีความทนทานแข็งแกร่งและยืดหยุ่น แท่นยึดคานบนของรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) และขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง (2WD High Rider) ได้รับการปรับตำแหน่งยึดเกาะให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มช่วงชักอีก 20 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนและความนุ่มนวลในการขับขี่ ช่วงล่างด้านหลังมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมความแข็งแกร่งโดยใช้แหนบแผ่นซ้อนที่ได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบากว่าเดิม พร้อมด้วยโช้คอัพที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

ถึงแม้ตัวถังของ ออล-นิว ไทรทัน จะมีขนาดใหญ่บึกบึนยิ่งขึ้น แต่ยังคงรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพื่อให้ควบคุมได้คล่องตัวและเสริมทัศนวิสัยในการขับขี่ให้สะดวกและปลอดภัยขึ้นด้วยการออกแบบฝากระโปรงที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นสายขอบฝากระโปรง เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย

แนวคิดการออกแบบ “บีสท์ โหมด” [Beast Mode]

ออล-นิว ไทรทัน ผสมผสานความปราดเปรียวเข้ากับการออกแบบที่แข็งแกร่งของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อสร้างสรรค์รูปลักษณ์อันโดดเด่นสะดุดตาพร้อมกับสะท้อนความบึกบึนและทรงพลังแบบฉบับรถกระบะที่แท้จริง

การออกแบบด้านหน้าตัวรถอันเป็นเอกลักษณ์ ไดนามิค ชิลด์ (Dynamic Shield) สะท้อนถึงสมรรถนะอันทรงพลัง เสริมความอุ่นใจในการปกป้องผู้โดยสารและตัวรถ ให้ความมั่นใจสูงสุด ยกระดับให้ ออล-นิว ไทรทัน เป็นรถกระบะที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งทรงพลัง จากการออกแบบกระจังหน้าและซุ้มล้อแบบสามมิติที่ดุดัน พร้อมกันชนหน้าที่ออกแบบเพื่อเน้นย้ำรูปทรงสะท้อนถึงพลังที่อัดแน่น เสริมด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยวดุจสายตาเหยี่ยว ผสานกับไฟส่องสว่างหน้า แบบสามมิติ ด้วยการออกแบบทั้งหมดนี้ทำให้ออล-นิว ไทรทัน เป็นกระบะที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวพร้อมสะกดทุกสายตา ขณะที่กระบะท้ายได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ตอบรับทุกการใช้งาน มั่นใจทุกการบรรทุกได้อย่างเต็มพิกัด ทุกอณูของการออกแบบได้สะท้อนความแข็งแกร่ง จากด้านหน้าจรดท้าย เสริมด้วยไฟท้ายรูปตัว T (T-shaped LED) ทั้งสองฝั่ง แสดงถึงความกว้างขวาง พร้อมสะท้อนความหนักแน่นแข็งแกร่ง

ทุกองค์ประกอบของตัวรถได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้งานอเนกประสงค์ ด้วยห้องโดยสารและสปอยเลอร์ท้ายที่เพิ่มความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ สะดวกสบายด้วยบันไดข้างกว้างขึ้น ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น

การออกแบบภายในห้องโดยสารและแผงควบคุม ภายใต้แนวคิด Horizontal Axis ด้วยเส้นตรงแนวราบและรูปทรงที่แข็งแกร่ง คำนึงถึงประสบการณ์ในการใช้งานด้วยความใส่ใจทุกรายละเอียด พร้อมเส้นสายรูปทรงเรขาคณิต และใช้วัสดุคุณภาพ ตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่ม ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกถึงการปกป้อง เสริมความสะดวกสบายในการใช้งานหลากหลายรูปแบบ และตกแต่งด้วยโครเมียมในหลายส่วนเพื่อสร้างบรรยากาศทันสมัย เติมเต็มความใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างประณีต

นอกจากนี้ ออล-นิว ไทรทัน ยังได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับจอแสดงผลที่มองเห็นได้ชัดเจน โดยชุดมาตรวัดและสวิตช์ควบคุมต่างๆ ได้รับการออกแบบให้มองเห็นได้อย่างโดดเด่น และควบคุมได้สะดวกง่ายดายแม้ในขณะที่สวมถุงมือหนา ทั้งพวงมาลัย ก้านจับ และมือจับเปิดประตู ล้วนได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “มิตซูบิชิ ทัช” (Mitsubishi Touch) ซึ่งมุ่งเน้นที่ความสะดวกสบายในการหยิบจับได้อย่างกระชับมือ

แผงคอนโซลกลางของรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีช่องวางแก้วน้ำที่รองรับแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบ พร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มิลลิลิตร ได้มากถึง 4 ขวด และเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแบบมืออาชีพ โดยในทุกพื้นที่ ทั้งกล่องเก็บของด้านหน้า ช่องวางสมาร์ทโฟน และช่องเก็บของขนาดเล็กอื่นๆ มีความกว้างขวางที่ใช้งานได้สะดวกง่ายดายแม้ในขณะที่สวมถุงมือ นอกจากนี้ แผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่อง USB-A และ USB-C สำหรับการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ

ยกระดับสมรรถนะรถกระบะ

ในส่วนกระบะตอนท้าย ได้รับการออกแบบให้ระยะความสูงของกระบะจากพื้น ต่ำลงจากรุ่นก่อน 45 มิลลิเมตร อยู่ที่ 820 มิลลิเมตร พร้อมขยายพื้นที่ด้านบนของมุมกันชนหลังให้ใหญ่ขึ้น และเสริมความแข็งแรงด้วยเฟรมเพื่อให้วางเท้าและก้าวขึ้นกระบะได้อย่างสะดวกมากขึ้น

เบาะนั่งคู่หน้าได้รับการออกแบบให้ช่วยหนุนแผ่นหลังส่วนล่าง ขณะที่พื้นที่ช่วงไหล่มีรูปทรงเปิดกว้างเพื่อความสบายในการขยับตัว ช่วยลดความเหนื่อยเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ ระยะของเบาะที่ตรงกับตำแหน่งสะโพกได้รับการขยับสูงขึ้น เพื่อช่วยปรับสรีระขณะขับขี่ให้อยู่ในท่าตรงโดยยังคงความคล่องตัวสะดวกสบายตามหลักสรีระศาสตร์ ทั้งพัฒนาเพิ่มทัศนวิสัยให้มองเห็นเส้นทางได้สะดวกจากภายในห้องโดยสาร นอกจากนี้ การเข้าและออกจากห้องโดยสารทำได้ง่ายขึ้นด้วยการออกแบบเสาด้านหน้าใหม่ ที่เป็นแนวตรงมากขึ้น ช่วยให้เปิดประตูได้กว้างขึ้น และเพิ่มพื้นที่บันไดข้างให้ใหญ่ขึ้น ลดโอกาสลื่นไถล ใช้งานได้สะดวกกว่าเดิม

ระหว่าง 2 วันเต็มที่มีโอกาสได้ร่วมเดินทางกับชาวคณะมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กับการทดสอบขับแบบประหยัดน้ำมันกับ “ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน” ปฏิวัติทุกขีดจำกัด ประหยัดเกินคาด เส้นทางสุดท้าทายจากย่านเลียบด่วนรามอินทรา กรุงเทพฯ มุ่งหน้าทิศบูรพา ผ่านฉะเชิงเทรา พนมสารคาม สระแก้ว วัฒนานคร อัญญะประเทศ ผ่านด่านข้ามแดนปอยเปต กระทั้งถึงเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา โดยผมมีคุณโก้ เกียรติสยาม เกิดทรัพย์ จาก DrivingPlace.com ร่วมเป็นบัดดี้คู่ใจกันตลอดเส้นทาง ครั้งนี้เราประจำการอยู่ในรถสองประตูสองที่นั่ง ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ Pro (Hyper Power Engine) ให้กำลัง 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน – เมตร ที่จะเป็นรถกระบะบรรทุกที่ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายมาก ด้วยเบาะที่นั่งแยก คอนโซลกลางมีช่องว่างแก้วน้ำ มีช่องไว้ของที่แผงแดชบอร์ด พร้อมหน้าจอขนาด 10 นิ้ว ที่ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางและมอบสาระบันเทิงและเชื่อมต่อได้ครบถ้วน สำคัญที่สุดคือชุดขับเคลื่อนที่ให้พลังกำลังได้อย่างไม่ย่อท้อและพิสูจน์แล้วว่าประหยัดน้ำมันจริงๆ

สำหรับผลอัตราประหยัดเชื้อเพลิงที่สื่อมวลชนไทยได้สัมผัสและพิสูจน์แล้ว ทั้ง 3 รุ่น แตกต่างกันตามแต่ละรูปแบบตัวถัง และพิกัดความแรงของเครื่องยนต์มีดังนี้

ออล-นิว ไทรทัน รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ Pro ให้กำลัง 184 แรงม้า เกียร์ธรรมดา Hyper Power  อัตราประหยัดน้ำมันดีที่สุด 22.46 กิโลเมตรต่อลิตร

ออล-นิว ไทรทัน รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ Active ให้กำลัง 150 แรงม้า เกียร์ธรรมดา อัตราประหยัดน้ำมันดีที่สุด 24.71 กิโลเมตรต่อลิตร

ออล-นิว ไทรทันรุ่นเมก้า แค็บ Pro ให้กำลัง 150 แรงม้า เกียร์ธรรมดา อัตราประหยัดน้ำมันดีที่สุด 22.58 กิโลเมตรต่อลิตร