CAR ALL STYLE
คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

TESTDRIVE

ลองขับ SUZUKI XL7 HYBRID อีกทางเลือกของรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง

นับตั้งแต่การเปิดตัว SUZUKI XL7 รถอเนกประสงค์ในกลุ่ม MPV สไตล์ครอสโอเวอร์คันล่าสุดของ ซูซูกิ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา SUZUKI XL7 ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ใช้รถครอบครัว รวมถึงผู้นิยมการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะมาจากทั้งการออกแบบที่สปอร์ตดุดันขึ้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มีความคล่องตัวภายในเมือง และที่สำคัญสามารถนำพาผู้โดยสารไปได้มากถึง 7 ที่นั่ง และการวางระดับราคาที่ทำให้ SUZUKI XL7 มีความคุ้มค่า เป็นความคิดเห็นส่วนหนึ่งของนายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้มาร่วมกิจกรรมทดสอบในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา

ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์สันดาปภายในสู่ยุครถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อร่วมส่งเสริมให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอน ซูซูกิ มีแผนหลาย ๆ อย่างเพื่อรักษากลุ่มลูกค้า และผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ซูซูกิ ด้วยการเสริมสร้างเครือข่ายการขาย และภาพลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึงขยายฐานตลาดรถยนต์นั่งให้มีความหลากหลายทั้งนวัตกรรมการออกแบบ รูปแบบและเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนที่หลากหลายให้เหมาะกับความต้องการของตลาด และไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถ ตลอดจนปฏิบัติตามนโยบายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของสังคมไทยอย่างมีขั้นตอน

สำหรับ NEW SUZUKI XL7 HYBRID ที่เราได้ทดสอบในวันนั้น ระหว่างเส้นทางไปกลับ กรุงเทพฯ ราชบุรี สวนผึ้ง จัดเป็นรถยนต์อีก 1 รุ่น ที่ซูซูกิตั้งใจนำเสนอเทคโนโลยี HYBRID ในแบบที่ที่เห็นว่าเหมาะสมกับสภาพสังคมในเวลานี้ ทว่าการอัปเดทล่าสุดก็ทำให้ XL7 มีประสิทธิภาพในการขับขี่ทีดีขึ้น และมีค่าใช้จ่ายในกำรบำรุงรักษาไม่สูง และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเพื่อตอบแทนลูกค้าด้วยความจริงใจ NEW SUZUKI XL7 HYBRID จึงมาพร้อมด้วยอุปกรณ์ครบครัน และคุ้มค่า สำหรับผู้บริโภคชาวไทย

SUZUKI XL7 HYBRID แตกต่างกับ SUZUKI XL7 รุ่นเดิมอย่างไรบ้าง ที่เห็นได้เริ่มจากกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ให้มุมมองด้านหน้ามีความพรีเมียมมากขึ้น ส่วนที่ชัดเจนกว่าอยู่ทางด้านหลังโดยออกแบบแนวเส้นโครเมียมคาดในแนวนอน Chrome Back Garnish โดยยกระดับให้สูงโดดเด่นยิ่งขื้น พร้อมสัญลักษณ์ HYBRID ครั้งนี้ XL7 ยังมาพร้อมระบบไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ และฟังก์ชัน Guide Me ที่ทำงานส่องสว่างอัตโนมัติเพื่อส่งคุณเข้าบ้าน และเมื่อเดินเข้าหาตัวรถ ให้ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย

ระบบ  Idling STOP สตาร์ทและดับเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อรถหยุดสนิท ( มีสวิทช์ปิดหากไม่ประสงค์ใช้งาน ) ระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติหรือ Cruise Control ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางไกล รวมถึงโหมดแสดงการทำงานของระบบ HYBRID ผ่านชุดจอ MID (Multi Information Display) ทีแสดงข้อมูลได้ครบครันสารพัดอย่างชัดเจน พร้อมหน้าจอสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android ระบบพับและกางกระจกมองข้างอัตโนมัติ

เมื่อได้ลองสมรรถนะของ SUZUKI XL7 HYBRID  สรุปได้ว่า เป็นรถอเนกประสงค์ที่ใช้งานง่าย ขับขี่สบายในความเร็วเดินทางปกติ ช่วงล่างนุ่มสบาย การควบคุมทิศทางจากพวงมาลัยเหมาะเจาะกับสไตล์ของรถ เบรกทำได้ดี กำลังเครื่องยนต์ที่สอดผสานกับมอเตอร์สนับสนุนให้ขับเคลื่อนได้อย่างน่าพอใจ ไม่จำเป็นต้องใช้คันเร่งมากเกินไปซึ่งจะส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

ห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบายทั้ง 7 ที่นั่ง โดยคำนึงถึงการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง สามารถโดยสารกันได้หลายคน พร้อมกับพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวางเหมาะกับการใช้งานของครอบครัว น่าเสียดายที่มีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยล้ำสมัยติดตัวมาน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับรถประเภทเดียวกัน โดยโครงสร้างของระบบพื้นฐานที่ให้มาถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

SUZUKI XL7 Hybrid เป็นรถอเนกประสงค์ที่มีสมรรถนะในการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันใช้งานได้ทั้งในและนอกเมืองโดยเฉพาะนอกเมืองประหยัดถึง 19.2 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน Eco Sticker) ด้วยเทคโนโลยีระบบไฮบริดที่พัฒนาให้ช่วยเสริมประสิทธิภาพการขับขี่ ทั้งในเมืองที่ต้องออกตัวสลับหยุดนิ่งบ่อยๆ และการเดินทางไกลที่ให้การเร่งแซงดียิ่งขึ้น ด้วยชิ้นส่วนของทั้งระบบที่ราคาไม่แพง ทำให้ SUZUKI XL7 HYBRID เป็น MPV Crossover ที่มาพร้อมเทคโนโลยี HYBRID ที่ดูแลรักษาง่าย อะไหล่และค่าดูแลรักษาระยะยาวที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับระบบไฮบริดแบบอื่นๆ เหมาะสำหรับช่วงรอการเปลี่ยนผ่านสู่รถ EV เต็มรูปแบบ

จุดเด่นในระบบ SUZUKI HYBRID  เครื่องยนต์รับภาระในช่วงการออกตัว และเร่งแซงน้อยลงทำให้การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น กินน้ำมันน้อยลง จากการเสริมแรงของมอเตอร์ ISG (Integrated Starter Generator) ที่ใช้แรงดันไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ Battery Lithium 10Ah 12V ( ของเดิม 6 Ah ) ช่วยเสริมการทำงานของเครื่องยนต์  รวมทั้งช่วงกันเครื่องยนต์กลับมาทำงานอย่างรวดเร็วและนิ่งเงียบไม่สั่นสะเทือนในระบบ Idling Stop

มอเตอร์ช่วยเสริมแรงหรือ ISG (Integrated Starter Generator) ถูกออกแบบให้มีแรงบิดสูงถึง 50 N-m หรือกว่า 36% ของแรงบิดเครื่องยนต์ ในทันทีที่เริ่มกดคันเร่ง และเสริมกำลังอย่างต่อเนื่องระหว่าง 1,000-3,900 รอบต่อนาที ก่อนเครื่องยนต์จะทำงานถึงจุดที่มีแรงบิดสูงสุด 138 N-m ที่ 4,400 รอบต่อนาที และแรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ช่วยให้รถออกตัวดี ตอบสนองในแต่ละย่านความเร็วรอบของเครื่องยนต์ ได้ดีขึ้นกว่าเดิม 

ระบบ SUZUKI HYBRID ตั้งใจให้เป็นรถไฮบริดที่ดูแลง่าย ไม่จุกจิก หากแบตเตอรรี่ Li-on ขัดข้องหรือเสียหาย รถยนต์คันนี้ก็ยังสามารถขับเคลื่อนได้ตามปกติ (ซึ่งจะแตกต่างจากระบบ Hybrid อื่นๆ ที่รถยนต์อาจหยุดการทำงาน ให้ไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้  อีกทั้งแบตเตอรี่ Li-on วางอยู่ในตำแหน่งที่สูงทำให้ปลอดภัยจากสภาพการใช้งานในสภาวะที่ระหว่างทางอาจมีน้ำท่วมขัง หรือเส้นทางทุรกันดาร และแบตเตอรี่ Li-on ยังมีขนาดเล็ก น้ำหนักโดยประมาณ 7 กิโลกรัม ทำให้น้ำหนักรวมของรถเพิ่มขึ้นไม่มากนัก  ค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งาน ในการเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ในอนาคต ของ XL7 HYBRID จะมีราคาซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่ที่ถูกกว่า ลดความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ภัยธรรมชาติ หรือเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายของแบตเตอรี่และระบบไฮบริด หากต้องเปลี่ยนทั้งระบบก่อนถึงระยะเสื่อมสภาพหรือเหตุที่นอกเหนือการรับประกัน

SUZUKI XL7 Hybrid จึงนับเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีสมรรถนะในการขับขี่ที่งานได้อย่างหลากหลายทั้งในและนอกเมืองโดยเฉพาะกับครอบครัวที่ต้องการความมั่นคงในการใช้ยานพาหนะที่เรียบง่าย ประหยัด อย่างมีสไตล์

รวมข่าวในหมวดเดียวกัน

ทดสอบสมรรถนะ “ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่” พิสูจน์ความคุ้มค่าน่าใช้ของซิตี้คาร์ 5 ประตูสุดฮอต! แรงเกินคลาส ประหยัดน้ำมันเกินคุ้ม มั่นใจด้วย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ตลอดเส้นทางกรุงเทพฯ – พัทยา

Read More »