CAR ALL STYLE
คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

TESTDRIVE

ลองขับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค วี 6 แตกต่างอย่างเร้าใจ

กลางเดือนมีนาคา 2567 ผมและเพื่อนสื่อมวลชน มีโอกาสทดลองขับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร เทอร์โบ วี 6 ซึ่งนับเป็นรถกระบะรุ่นย่อยใหม่ล่าสุดที่ออกมาแสดงบทบาทของฟอร์ดในการสร้างปรากฏการณ์ใหม่และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมามอบให้กับผู้ขับขี่ชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร วี 6 สำหรับผู้ที่กำลังมองหาทางเลือกในการใช้รถกระบะอเนกประสงค์ที่มีสมรรถนะในการขับขี่สูงขึ้นอีกขั้น พร้อมตอบโจทย์การใช้งาน และไลฟ์สไตล์ได้หลากหลายรูปแบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นใช้ในการทำงาน หรือการใช้ชีวิตกับครอบครัวรวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนสันทนาการ พร้อมเป็นรถคู่ใจในทุกเส้นทางของชีวิต

ครั้งนี้เราขึ้นไปลองของกันถึง พื้นที่ขุนเขาดอยสูงในจังหวัดเชียงใหม่ แดนดินที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติงดงาม โดยมีที่หมายหลักคือบริเวณอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ทว่าเส้นทางที่เราใช้เดินทางต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ก็เรามากับตัวท๊อปของวงการรถกระบะ แม้ว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของการเดินทางจะอยู่บนเส้นทางออนโรด ทว่าก็เป็นทางถนนเรียบที่หาทางตรงได้ยาก นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยทางคดโค้งที่เล่นระดับขึ้นลงต่อเนื่องเกือบตลอดเวลา และเมื่อถึงเส้นทางฝุ่นที่ผมขอเรียกว่าทางแบบครอสโรด ผิวทางเป็นลูกรังแข็งและเต็มไปด้วยฝุ่นหนา แต่อุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงก็ทำให้เราได้รับรู้ถึงสมรระนะของชุดขับเคลื่อนใหม่พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ 4A ที่ฟอร์ดพึ่งจะนำมาใช้กับเรนเจอร์ ไวลด์แทรค ซึ่งเมื่อทำงานรวมกับอีก 6 โหมดการขับขี่ ก็ยิ่งทำให้เรื่องยากลำบาก เป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับการเดินทางอย่างมั่นใจจริงๆ

หัวใจของความแตกต่างครั้งนี้ก็คือการยกระดับรถกระบะเรนเจอร์ไปอีกขั้น ด้วยขุมพลังใหม่เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร วี 6 สูบ เทอร์โบ เป็นเครื่องยนต์บล๊อกที่ได้รับความนิยมมายาวนานในต่างประเทศ ได้รับการพัฒนามาถึงจุดที่มีความเสถียรและทนทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำลังและแรงบิดมากขึ้น รวมถึงเพื่อการลากจูง และการขับขี่แบบออฟโรด ให้พละกำลังสูงสุด 250 แรงม้า ที่ 3,250 รอบต่อนาที ที่สำคัญคือให้แรงบิดสูงสุดถึง 600 นิวตันเมตร ความกว้างกระบอกสูบ 84 มม. ช่วงชัก 90 มม. ปริมาตรความจุ 2,993 ซี.ซี. เพลาลูกเบี้ยวเหนือฝาสูบคู่ (DOHC) อัตราส่วนการอัด: 16.0:1 มีลำดับการจุดระเบิด: 1-4-2-5-3-6  ฉีดเชื้อเพลิงแบบ Direct ด้วยหัวฉีด Bosch Piezo แรงดันในรางหัวฉีด 2000 บาร์ แรงดันเทอร์โบชาร์จสูงสุด 2.8 บาร์ 4 วาล์วต่อกระบอกสูบ ฝาสูบอะลูมิเนียม เสื้อสูบรูปตัว V เหล็กหล่อแกรไฟต์ขั้นตอนเดียวกระบอกสูบ 2 แถวจัดวางเข้าหากันไว้ที่ 60 องศา อ่างนํ้ามันเครื่องแบบชิ้นเดียวเป็นการหล่อแรงดันสูงจากอะลูมิเนียม ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรล ใช้สายพานไทม์มิ่งขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยว เทอร์โบชาร์จเจอร์แปรผันควบคุมการทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อจับคู่การทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter คุณก็จะโลดแล่นได้ดังใจแบบที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากรถกระบะประเภทเดียวกัน

ขณะเดียวกันฟอร์ดก็ยังเติมเต็มสมรรถนะการขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ 4A 4WD และมีตัวเลือกโหมดการขับขี่ 6 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ (Normal), โหมดประหยัด (Eco), โหมดลากจูง (Tow/Haul), โหมดถนนลื่น (Slippery), โหมดโคลนและหิน (Mud/Ruts) และโหมดทราย (Sand) มอบสมรรถนะที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางบนทุกสภาพผิวทางวิ่ง พร้อมกับล้ออัลลอย 20 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ และยางขนาด 255/55 R20

สรุปรายการการทดลองขับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.0 ลิตร วี 6 เทอร์โบ ตลอดเส้นทางสุดท้าทายทั้งออนและออฟโรด ที่เหมาะสมแล้วสำหรับการค้นหาสมรรถนะที่แรงแบบหนักหนา กำลังทุกเรียกมาใช้ได้อย่างต่อเนื่อง และรู้ว่ายังมีเหลือให้เติมเต็มหากเมื่อตกอยู่ให้สถานการณ์คับขัน พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าให้น้ำหนักและองศาการบังคับเลี้ยวได้อย่างแม่นยำ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ในระดับ 6.8 – 10 กม./ ลิตร ด้วยราคาที่เปิดมา 1,519,000 บาท แบบพอเหมาะพอเจาะไม่สูงลิบเหมือนแรปเตอร์ และไม่ห่างจาก เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 2.0 ลิตร เกินไป ใครที่กำลังมองหารถกระบะท๊อปคลาสแบบจัดหนักล่ะก็ใช่เลย…

อีกทั้งยังมีฟิวเจอร์เพื่อการใช้อเนกประสงค์ เรนเจอร์ ไวลด์แทรค วี 6 มีระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) ควบคุมการเปิดไฟส่องสว่างภายนอกตัวรถ เมื่อต้องการแสงสว่างในการทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเวลากลางคืนหรือแสงน้อย ได้แก่ ไฟหน้า ไฟส่องพื้นจากกระจกข้างรถ ไฟในกระบะท้าย และไฟส่องแผ่นป้ายทะเบียน โดยสามารถเลือกเปิดปิดเฉพาะบางโซน หรือทุกโซนพร้อมกันได้ผ่านหน้าจอ SYNC

อีกจุดที่ทำให้การขับขี่ควบคุมลงตัวคือระบบช่วงล่าง ที่ยังคงใช้โครงสร้างหลักแบบเดิมคือกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นพร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง พร้อมโช้คอัพแบบโมโนทูบ และระบบกันสะเทือนหลังแบบแหนบซ้อน พร้อมโช้คอัพโมโนทูบเช่นกัน จุดที่มีความเปลี่ยนแปลงคือใช้ชิ้นส่วนที่เรียกว่าคอม้า หรือ knuckle เปลี่ยนจากเหล็กมาเป็นอลูมิเนียม ช่วยให้เกิดความคล่องตัวเหมาะกับขุมพลังที่เพิ่มขึ้น การหยุดหรือการชะลอความเร็วของรถทำได้ชะงักนักด้วยดิสก์เบรกหน้าและหลัง พร้อมครีบระบายความร้อน ให้ฟิลที่นุ่มนวลแต่แน่นอนและยังลุยได้หนักขึ้นด้วยดิฟล็อกหลังแบบไฟฟ้า

ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค มีมิติตัวรถ สูง 1,884 มม. กว้าง 1,918 มม. และยาว 5,370 มม. ไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ ระบบไฟสูงป้องกันแสงแยงตารถที่สวนมา และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ  ไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวันแบบ LED รูปตัว C ไฟตัดหมอก และไฟท้ายแบบแอลอีดี พร้อมไฟส่องสว่างข้างตัวรถติดตั้งไว้ที่ด้านล่างกระจกมองข้าง กระจังหน้าพิเศษแบบ Wildtrak รวมถึงสปอร์ตบาร์ ราวหลังคา และระบบช่วยเปิดปิดฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift

สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายอุปกรณ์ และการตกแต่งที่มีความเป็นเอกลักษณ์แบบ Wildtrak โดยเฉพาะ สัมผัสได้ตั้งแต่เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง แท่นชาร์จไร้สาย กุญแจรีโมทอัจฉริยะ พร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่องต่อ USB แอมเบียนไลด์ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร พวงมาลัยไฟฟ้าพร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และระบบความปลอดภัย

การเชื่อมต่อระบสาระบันเทิงภายในรถฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.0 ลิตร ดีเซล วี 6 มาพร้อมอุปกรณ์เมากมาย อาทิ  หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto ที่ได้รับการพัฒนาให้สะดวกรวดเร็วไปอีกขั้น เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 8 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ ระบบ FordPass Connect ช่องต่อ USB 4 จุด ลำโพง 6 ตำแหน่ง

อุปกรณ์ความปลอดภัย ถุงลมนิรภัย 7 จุด ได้แก่ คู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง กล้องมองหลังขณะถอยจอด พร้อมกล้องมองรอบคัน 360 องศา ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation)  ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ auto brake hold

ทั้งยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะครบครัน ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop & Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Alert) ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System – BLIS® with cross-traffic alert) กล้องมองรอบคัน 360 องศา ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steering Assist)

ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.0 ลิตร วี 6 มีสีภายนอกให้เลือก 4 สี ได้แก่

  • สีขาว อาร์คติค ไวท์
  • สีเทา เมทิเออร์ เกรย์
  • สีเหลือง ลักซ์ เยลโลว์
  • สีดำ แอบโซลูท แบล็ค

ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.0 ลิตร วี 6 เปิดให้จองผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ www.ford.co.th โดยเริ่มจองได้ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป

รวมข่าวในหมวดเดียวกัน

ทดสอบสมรรถนะ “ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่” พิสูจน์ความคุ้มค่าน่าใช้ของซิตี้คาร์ 5 ประตูสุดฮอต! แรงเกินคลาส ประหยัดน้ำมันเกินคุ้ม มั่นใจด้วย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ตลอดเส้นทางกรุงเทพฯ – พัทยา

Read More »