กลางเดือน มีนาคม 2566 Carallstyle หนึ่งในสื่อมวลชนที่ได้รับโอกาสร่วมทดสอบสมรรถนะของน้องเล็กในตระกูลรถอเนกประสงค์ของฮอนด้า นั้นคือเจ้า “ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่” โดยมีหมุดหมายเพื่อสร้างวันพิเศษไปกับยนตรกรรมเอสยูวีอเนกประสงค์ 5 ที่นั่ง บนเส้นทาง จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่อำเภอศรีราชา บางพระ จ.ชลบุรี ก่อนจะเดินทางกลับโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ลัดเลาะเลียบอ่าวไทย ผ่าน บางพลี บางปู สมุทรปราการ รวมระยะทางไป-กลับกว่า 250 กิโลเมตร สำหรับผมเป็นการเจอกับ WR – V ครั้งที่สองหลังจากพบกันครั้งแรกในวันเปิดตัวที่สยาม สแควร์
ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบรับกระแสความนิยมและการเติบโตตามความต้องการกลุ่มรถเอสยูวีในปัจจุบันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยฮอนด้า ให้กำเนิด WR – V เพื่อเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายและสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ให้ตลาดเอสยูวีอีกครั้ง Honda WR – V โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตลุคเท่เก๋มีสไตล์ แต่ก็แผงความแข็งแกร่งไว้ด้วย และยังให้ความรู้สึกสดใสสะท้อนความทันสมัย ตามวิถึชีวิตยุคใหม่ ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเบาะนั่งด้านหลังแถว 2 ปรับพับได้ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์
บอกตามตรงว่าแรกๆ ผมคิดว่าวันนั้นจะได้ลองขับ Honda BR – V แบบ 5 ที่นั่ง !! (หมายความว่าก่อนขับ ผมคิดเอาเองว่าฮอนด้านำรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง มาย่นย่อขนาดให้เหลือ 5 ที่นั่ง เท่านั้น) แต่เมื่อได้ข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังรวมถึงเมื่อได้ขับด้วยตัวเอง ทำให้ได้รับรู้ว่า มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลย แม้ Honda WR – V จะใช้ชิ้นส่วนบางอย่าง รวมถึงชุดขับเคลื่อนร่วมกับ BR – V ทว่า WR – V ได้รับการสร้างขึ้นในแบบฉบับของตัวเองโดยเฉพาะ มีความกระชับกระเชงคล่องตัวว่าพี่น้องรวมตระกูลอย่างชัดเจน ทั้งช่วงล่าง รวมถึงระบบบังคับเลี้ยวจูนไว้ในแบบที่วัยรุ่นชอบ วัยเก๋าที่ใจยังแจ๋วก็ไม่ปฏิเสธความจิ๊ดจ๊าด ของ Honda WR – V
นับเป็นรถอเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัดหนึ่งเดียวที่มีอยู่ในตลาดบ้านเราขณะนี้ WR – V สามารถตอบสนองการขับได้สนุกทันใจในหลากหลายรูปแบบเส้นทางที่ได้ทดลองขับ ทั้งบนไฮเวย์ท่ามกลางสภาพการจราจรคับคั่ง การขับเคลื่อนไปบนเส้นทางหลวงชนบทรอบๆ อ่างเก็บน้ำบางพระ การขับอยู่ในเส้นทางตรอก ซอก ซอยของชุมชนในต่างจังหวัด รวมถึงในเมืองใหญ่ ด้วยพลังเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ผสานเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่อง CVT ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ขณะเดียวกันก็ยังมีอัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20 ขับขี่ปลอดภัยมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทั้ง 2 รุ่นย่อย RS / SV และเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยอื่น ๆ* ที่พร้อมตอบทุกการใช้งานที่หลากหลาย ให้เราสามารถมีวันพิเศษที่สร้างเองได้ทุกวัน
สรุปว่า Honda WR–V เป็นรถอเนกประสงค์ขนาดรัดขนาดแท้ที่ห่างหายไปจากตลาดรถในบ้านเราเป็นเวลาพอสมควร เหมาะกับวัยรุ่น วัยเริ่มต้นทำงาน หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์แบบกระชับที่ใช้งานง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน ขับง่าย คล่องตัว ให้ทัศนวิสัยที่กว้างไกลกว่ารถยนต์นั่ง บำรุงรักษาสะดวก เรียกว่าเรียบง่ายแต่เร้าใจ
Honda WR–V เปิดตัวมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี** ดอกเบี้ย 2.29%** และฟรี Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท** เมื่อจองและรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566** ลูกค้าที่สนใจสามารถสัมผัส “ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่” ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป และงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44
ในระหว่างเส้นทางการทดสอบจากกรุงเทพฯ สู่ จ.ชลบุรี เรายังได้สัมผัสกับฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ทำงานได้อย่างแม่นยำ ซึ่งรวมอยู่ใน เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่มีในทุกรุ่นย่อยทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ(Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ* อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) ถุงลม 6 ตำแหน่ง ในรุ่น RS เป็นต้น
สำหรับความโดดเด่นไม่เหมือนใคร จากการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว สไตล์สปอร์ตเอสยูวี มาพร้อมกระจังหน้าโครเมียม มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ ไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED sequential และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคันกับรุ่น RS ที่มาพร้อมกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ RS ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขอบ 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย แต่ยังคงไว้ซึ่งความสดใสด้วยวัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่งแถบสีเงิน มือจับประตูด้านในสีเงิน วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีน้ำเงิน พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำเงิน เบาะนั่งด้านหลังแถว 2 ปรับพับได้ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์
ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว* อาทิ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมระบบทำความเย็นเร็วและโหมดทิศทางลมเพื่อความสะดวกสบาย ที่วางแก้ว 6 ตำแหน่ง ที่แขวนของในพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย เป็นต้น
ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น RS ราคา 869,000 บาท
- รุ่น SV ราคา 799,000 บาท
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (ทูโทน) (เฉพาะรุ่น RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า
เสริมความสปอร์ตและพรีเมียมในสไตล์รถ SUV อีกขั้น ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) ที่มาพร้อมแนวคิด “Sporty & Premium” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วตกแต่งฝากระโปรงท้าย ราคา 1,900 บาท คิ้วกันสาด ราคา 2,500 บาท ฟิล์มตกแต่งเสาประตูหลัง ราคา 1,300 บาท ฟิล์มสะท้อนแสงข้างประตู ราคา 1,250 บาท ปลอกท่อไอเสียสเตนเลส ราคา 600 บาท เป็นต้น หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่
- Modulo Sport Package ราคา 14,990 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง
มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี** ดอกเบี้ย 2.29%** และฟรี Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท** เมื่อจองและรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566**
ลูกค้าที่สนใจสามารถมาสัมผัส ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023 ครั้งที่ 44 ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 – 2 เมษายน 2566 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรือชมรายละเอียดผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th/wrv
ลูกค้าสามารถทดลองขับ ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ โดยลูกค้าที่ลงทะเบียนและร่วมกิจกรรมทดลองขับทาง www.honda.co.th/testdrive ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 – 31 มีนาคม 2566 จะได้รับฟรีบัตรของขวัญโลตัสมูลค่า 200 บาท**
หมายเหตุ
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
– สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (ทูโทน) เพิ่ม 10,000 บาท สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) และ สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท