CAR ALL STYLE
คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

TESTDRIVE

ทดลองขับ Hybrid SUV รุ่นใหม่ “ALL-NEW TOYOTA YARIS CROSS – Move To The Max”

หลังจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัว “ALL-NEW YARIS CROSS” ที่ผสมผสานการใช้งานในสไตล์ “URBAN x ADVENTURE” ตอบสนองการขับขี่ในเมืองที่คล่องตัว สนุกสนาน และสะดวกสบาย โดดเด่นด้วยฟังก์ชันการใช้งานครบครัน พร้อมเปิดตัวศิลปิน อิ้งค์ วรันธร เปานิล และ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล  2 พรีเซ็นเตอร์สื่อสารภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ให้โดนใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ผมและเพื่อนๆ สื่อมวลชนมีโอกาสร่วมทดลองขับรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดจากโตโยต้า

ALL-NEW YARIS CROSS  ผลิตภัณฑ์ล่าสุดในตระกูล Yaris Series ก่อนหน้านี้ โตโยต้านำเสนอ YARIS Hatchback ในประเทศไทยครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2548 ตามด้วยการแนะนำรถยนต์ ECO Sedan YARIS ATIV ในปี พ.ศ. 2560 ทั้งสองรุ่นนี้ครองใจคนหนุ่มสาว และขยายฐานลูกค้าโตโยต้าทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ยอดผลิตสะสมของ YARIS ในประเทศไทยปัจจุบันมีจำนวนมากถึงกว่า 1 ล้านคัน ในขณะที่ยอดจำหน่ายสะสมในประเทศของ YARIS อยู่ที่กว่า 630,000 คัน ยิ่งไปกว่านั้นโครงการ YARIS และ YARIS ATIV ยังมีส่วนส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทยและที่สำคัญมีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตภายในประเทศถึงกว่า 80%

ล่าสุดภายใต้ซีรีส์ YARIS โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยนำเสนอยนตรกรรมที่ผสานความเป็น Compact car ที่สอดรับกับสภาพชีวิตคนเมืองอย่างดี ALL-NEW YARIS CROSS โดย SUV ไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะตอบสนองความต้องการที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มรถยนต์ประเภทนี้  และรถรุ่นนี้ยังผลิตภายใต้คุณภาพมาตรฐานของโตโยต้า ณ โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งน่าจะสร้างความตื่นเต้น เร้าใจ ให้กับหนุ่มสาวที่กำลังมองหายานยนต์ที่เหมาะกับกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ด้วยการพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์  Urban x Adventure

ระหว่างงานเปิดตัว ALL-NEW YARIS CROSS มร.โทรุ อุดะ หัวหน้าวิศวกร กล่าวว่า “ในขั้นตอนการพัฒนา เราคำนึงถึงกิจกรรม สถานที่ และความรู้สึกหลากหลายที่จะสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย เราพบปะพูดคุยกับผู้ใช้รถตัวจริงในหลายพื้นที่ เพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้า และทำการรวบรวมไอเดียของทีมงานว่าจะสามารถสร้างรถยนต์ที่เหนือความคาดหวังได้อย่างไร กระทั่งได้ข้อสรุปว่า YARIS CROSS คือคำตอบที่เรามองหา และพัฒนาด้วยมุมมองที่สดใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น โดยการรวม 2 คอนเซ็ปท์เข้าไว้ด้วยกัน นั่นคือ “Youthful” และ “Fun-to-drive” รวมถึงความอเนกประสงค์ และสมรรถนะของรถ Crossover จุดประสงค์ของเราก็คือการสร้างรถยนต์ที่ผสมผสานความคล่องแคล่วของ Compact SUV เข้ากับความแข็งแกร่งของ High-end SUV ไว้อย่างลงตัว สิ่งที่ได้ก็คือรถยนต์ที่มีความโดดเด่น แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ตอบสนองการเดินทางของคนรุ่นใหม่ และครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์กระฉับกระเฉง รวมไปถึงประสบการณ์การขับขี่ที่ภาคภูมิใจ

ด้วยคุณสมบัติเพียบพร้อมกับราคาที่เหมาะสม ผสานกับสมรรถนะจากทีได้ลองขับผมมีความเชื่อว่า YARIS CROSS จะสร้างกระแส ให้กับตลาดรถ Compact SUV โดยการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีรถที่ต้องสนองการใช้งานได้หลากหลายรูแบบ อีกทั้งเอง YARIS CROSS มีขนาดตัวรถที่พอเหมาะ พร้อมสเปคครบครัน ในราคาที่จัดว่าเป็นเจ้าของได้ไม่ยากเกินเอื้อม ดีไซน์โดนเด่นทั้งภายนอก และภายใน ให้การขับขี่ที่คล่องตัว และมีอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 26.3 กม. / ลิตร ด้วยระบบโตโยต้าไฮบริด ที่ได้รับการพัฒนาอีกขั้น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense ที่มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ All-Speed ให้ความมั่นใจและปลอดภัยในการขับขี่ รวมไปถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมอบความสบายตลอดการเดินทาง 

และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความแตกต่างไม่ซ้ำใคร โตโยต้ายังมีชุดอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือกอีก 2 แพ็กเกจ ได้แก่ Urban Sport ชุดเล็ก 3 ชิ้น สไตล์สปอร์ต และ Modellista เน้นสปอร์ตหรู ซึ่งทั้ง 2 ชุดสามารถผ่อนชำระรวมกับตัวรถได้อีกด้วย

 

ALL-NEW YARIS CROSS  มาพร้อมนิยาม Move to the Max มูฟชีวิตไปให้สุดๆ

ภายนอกออกแบบในสไตล์ SOLID x DYNAMIC สะท้อนความแข็งแรง ตอบสนองไลฟ์สไตล์แอคทิฟ พร้อมเดินทางไปทุกพื้นที่ เสริมความทันสมัยด้วยเส้นสายรอบตัวรถ สะท้อนภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ พร้อมสีภายนอกให้เลือก 6 สี และตัวเลือกหลังคาดำ โดย ALL-NEW YARIS CROSS แบ่งการตลาดเป็น 3 รุ่นย่อย และสีภายใน 2 สี เทา – ดำ ขึ้นอยู่กับสีภายนอก สำหรับสีภายนอก คือ สีขาว Platinum White Pearl สีดำ Attitude Black Metallic สีเงิน Metal Stream Metallic สีเทา Urban Metal สีแดง Spicy Scarlet   และสีน้ำเงิน Dark Turquoise สีภายนอกแบบทูโทน หลังคาดำ สีขาว-ดำ Platinum White Pearl/Black Roof*  สีเงิน-ดำ Metal Stream Metallic/Black Roof* สีแดง-ดำ Spicy Scarlet/Black Roof** สีน้ำเงิน-ดำ Dark Turquoise/Black Roof**

ภายในห้องโดยสารแบบ ROOMY x SPORTY เน้นภาพรวมห้องโดยสารกว้างสบายตา โดยใช้หลักเส้นนำสายตาที่เป็นเส้นตรงแนวนอนลากยาวบริเวณคอนโซลด้านหน้าต่อเนื่องถึงแผงบุประตูด้านใน เสริมความสปอร์ตด้วยการออกแบบที่นั่งฝั่งผู้ขับขี่ให้มีดีไซน์แบ่งโซนควบคุมการขับที่ชัดเจน Driver-Oriented Cockpit เพิ่มความพรีเมียมด้วยการตกแต่งภายในด้วยวัสดุบุนุ่มในแต่ละจุดสัมผัส รวมถึงวัสดุหุ้มเบาะนั่ง พร้อมเทคโนโลยี QUOLE MODULE ® ช่วยลดการสะสมความร้อนบนผิวสัมผัส และไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารปรับได้ 14 เฉดสี ปรับความสว่างได้ 4 ระดับ และจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ MID ขนาด 7 นิ้ว ที่ให้ข้อมูลการขับอย่างชัดเจน รองรับทุกการใช้งาน เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมตัวกรองฝุ่น PM 2.5 ลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย

ด้านสมรรถนะการขับขี่ ตรงนี้ต้องขอบอกว่าเป็นจุดเด่นของ Yaris Cross เมื่อได้สัมผัสแบบใช้งานในชีวิตประจำวันเดินทางไปกลับจากกรุงเทพฯ – หัวหิน บอกได้เลยว่าไม่ใช้รถแรงประเภทจิ๊ดจ๊าดได้ใจสาย Performance แต่ก็ไม่ได้อึดอาดตั้งแต่ออกตัว โดยเฉพาะในช่วงความเร็วเดินทาง 70 – 120 กม./ชม. เติมปุ๊บมาปั๊บ ด้วยแหล่งพลังงานแบบลูกผสมจากเครื่องยนต์เบนซินรหัส 2NR-VEX ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i  ที่สามารถใช้เชื้อเพลิง E20 ได้ ทำงานสลับปรับเปลี่ยนแบบราบรื่นแทบจะไร้รอบต่อ กับ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร 2 ตัว  ที่เป็นทั้งมอเตอร์และเจนนอเรเตอร์ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ให้อัตราเร่งอย่างพอเพียง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อัตราการปล่อย CO2 ต่ำ ที่สำคัญให้อัตาการประหยัดน้ำมันเกินกว่า 20 กม./ลิตร ในทุกสภาพการขับขี่  ครั้งนี้ โตโยต้า เลือกใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน แรงดันไฟฟ้า 177.6 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 4.3 แอมแปร์ – ชั่วโมง ให้กับ TOYOTA Yaris cross จึงจัดเป็นรถอเนกประสงค์ ขับเคลื่อนล้อหน้าที่มีดีแบบรอบด้านเมื่อพิจารณากับราคาค่าตัว สรุปว่าสมควรล่ะครับที่ตลาดจะรถเมืองไทยจะว้าวุ้นกันเลยทีเดียว

 ประกอบกับช่วงล่างที่นุ่มหนึบนั่งสบาย และด้วยความสูงใต้ท้องรถระดับ 210 มม. ให้ทัศนวิสัยการมองเห็นในแบบรถอเนกประสงค์ ขับง่ายและมั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับภาพเส้นทางและอากาศที่แปรปรวน ด้านอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานมีให้ครบครันตั้งแต่ตัวเริ่มต้นเกรด SMART ทั้งระบบการควบคุมการทรงตัว Vehicle Stability Control ระบบป้องกันการหมุนฟรีของล้อ Traction Control System ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณเตือนกะระยะด้านหลัง ไฟหน้าและไฟท้าย แบบ LED และ LED – DRL  เขยิบขึ้นมาเป็นเกรด PREMIUM สิ่งที่แตกต่างเพิ่มเติม เช่นราวหลังคา สีทูโทนของล้อขนาด 17 นิ้ว ยาง 215/60R 17  เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC แบบ All Speed ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSM & RCTA รวมถึงกล้องมองภาพด้านหน้า ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

ส่วนตัวท๊อป PREMIUM LUXURY คุณจะได้ออฟชั่นแบบจัดเต็ม ตั้งแต่ Panoramic Roof พร้อมม่านกันแสงปรับเลื่อนด้วยไฟฟ้า ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว กับยาง 215/55 R18 ประตูท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อม Kick Activated อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless charger กล้องมองภาพรอบคัน PVM ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง TPMS ไฟส่องสว่างบริเวณประตูคู่หน้า Welcome Lamp ลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง และกล้องบันทึกภาพด้านหลัง สัญญาณเตือนกะระยะหน้า-หลัง 4 จุด พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยทันสมัยมากมายจาก Toyota Safety Sense

** ราคา HEV SMART **

789,000 บาท

สีพิเศษ +7,000 บาท

  • Dark Turquoise
  • Platinum White Pearl
  • Spicy Scarlet

รุ่น HEV PREMIUM

** ราคา HEV PREMIUM **

849,000 บาท

สีพิเศษ +12,000 บาท

  • Platinum White Pearl / Black Roof

 สีพิเศษ +8,000 บาท

  • Metal Stream Metallic / Black Roof

 สีพิเศษ +7,000 บาท

  • Dark Turquoise
  • Platinum White Pearl
  • Spicy Scarlet

 

รุ่น HEV PREMIUM LUXURY 

** ราคา HEV PREMIUM LUXURY **

899,000 บาท

 

สีพิเศษ +12,000 บาท

  • Dark Turquoise / Black Roof
  • Platinum White Pearl / Black Roof
  • Spicy Scarlet / Black Roof

 สีพิเศษ +8,000 บาท

  • Metal Stream Metallic / Black Roof

 สีพิเศษ +7,000 บาท

  • Dark Turquoise
  • Platinum White Pearl
  • Spicy Scarlet

 * เฉพาะรุ่น HEV PREMIUM และ HEV PREMIUM LUXURY

** เฉพาะรุ่น HEV PREMIUM LUXURY

** *สำหรับสีพิเศษ    

  • สี Dark Turquoise (Black Roof), สี Platinum White Pearl (Black Roof), สี Spicy Scarlet (Black Roof) เพิ่ม 12,000 บาท
  • สี Metal Stream Metallic (Black Roof) เพิ่ม 8,000 บาท
  • สี Dark Turquoise, สี Platinum White Pearl, สี Spicy Scarlet  เพิ่ม 7,000 บาท                               

**** เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

 เสริมความโดดเด่นเหนือใครด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ

  • URBAN SPORT สไตล์สปอร์ตพรีเมียม             ราคา    15,200 บาท
  • MODELLISTA สไตล์สปอร์ตลักชูรี                    ราคา    22,900 บาท 

รวมข่าวในหมวดเดียวกัน

ทดสอบสมรรถนะ “ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่” พิสูจน์ความคุ้มค่าน่าใช้ของซิตี้คาร์ 5 ประตูสุดฮอต! แรงเกินคลาส ประหยัดน้ำมันเกินคุ้ม มั่นใจด้วย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ตลอดเส้นทางกรุงเทพฯ – พัทยา

Read More »