กลางเดือน ตุลาคม 2567 เกรท วอลล์ มอเตอร์ ย้ำประเทศไทย เป็นพื้นที่ยุทธศาตรที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาสู่ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ล่าสุด ได้เร่งเดินหน้ามุ่งสู่เป้าหมายนี้ผ่านแนวคิด Local Excellence to Global Success ด้วยการเสริมศักยภาพให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นแบบรอบด้าน ผ่านการปรับกลยุทธ์เพื่อเร่งเครื่องมุ่งสู่เป้าหมาย 4 ด้าน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมขั้นสูงที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย, บริการหลังการขายที่ครอบคลุม รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ, การขยายเครือข่ายและการบริหารผู้จัดจำหน่ายเพื่อการขายที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงการขยายธุรกิจฟลีทและรถยนต์ใช้แล้วภายใต้ GWM Certified Pre-Owned (CPO) และการสร้างแบรนด์ให้แตกต่างสู่การเป็นแบรนด์ในใจของคนไทยและคนทั่วโลก เพื่อมุ่งสู่ปลายทางแห่งความสำเร็จทั้งระดับภูมิภาคและบนเวทีโลก เพื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 อย่างแข็งแกร่งและเต็มภาคภูมิ ภายใต้การนำทัพโดย ปาร์คเกอร์ ฉี ประธาน และ เจมส์ หยาง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลาดต่างประเทศ ร่วมกับ วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธาน และ ไมเคิล ฉง กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย)
ปาร์คเกอร์ ฉี
ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลาดต่างประเทศ
ปาร์คเกอร์ ฉี เข้ามามีส่วนร่วมกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในตลาดต่างประเทศมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี กับการพัฒนาและนำพา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในทุกยุคสมัย เพรียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์ตลอดทั้งกระบวนการการขยายธุรกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไปสู่ตลาดโลก จากความเชี่ยวชาญ และศักยภาพ รวมถึงประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานกว่าสองทศวรรษในอุตสาหกรรมยานยนต์ นำไปสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านการจัดการเชิงกลยุทธ์ การทำการตลาด และกิจการธุรกิจระหว่างประเทศ สู่ผลงานการดำเนินงานและการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในตลาดต่างประเทศจวบจนปัจจุบัน
ปาร์คเกอร์ ฉี เป็นส่วนสำคัญในการนำพา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ก้าวไปข้างหน้าสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่สัญชาติจีนอันดับต้นๆ ของโลก และมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งในการผลักดันประเทศไทยให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่พวงมาลัยขวาไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ผ่านการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดำเนินธุรกิจภายในประเทศไทยด้วยกลยุทธ์ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมขั้นสูงที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย, การบริการหลังการขายที่ครอบคลุม รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ, การขยายเครือข่ายและการบริหารผู้จัดจำหน่ายเพื่อการขายที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงธุรกิจฟลีทและ GWM Certified Pre-Owned และการสร้างแบรนด์ให้แตกต่างสู่การเป็นแบรนด์ในใจของคนไทยและคนทั่วโลก เพื่อมุ่งสู่ปลายทางแห่งความสำเร็จผ่านแนวคิด Local Excellence to Global Success หรือ ความเป็นเลิศในท้องถิ่นสู่ความสำเร็จระดับโลก เพื่อเดินหน้าเติบโตคู่กับคนไทยและประเทศไทยในระยะยาวเพื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 อย่างแข็งแกร่งและเต็มภาคภูมิของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ภายใต้การนำทัพของ ปาร์คเกอร์ ฉี ร่วมกับคณะผู้บริหารทุกท่าน
ภายใต้สถานการณ์ในตลาดรถยนต์ที่แข่งขันสูงอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย รวมถึงความท้าทายจากปัจจัยภายนอกต่างๆ ทั่วโลกนั้น Great Wall Motors International หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อกำกับ ดูแล และบริหารธุรกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในตลาดต่างประเทศทั่วโลก ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการดำเนินธุรกิจ สู่การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตอกย้ำการเป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำระดับโลก พร้อมเดินหน้าเติบโตคู่กับคนไทยและประเทศไทยในระยะยาว
ปาร์คเกอร์ ฉี ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลาดต่างประเทศ กล่าว “ประเทศไทยเป็นประเทศยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการขยายธุรกิจสู่ระดับโลกภายใต้กลยุทธ์ “Ecological Globalization” เนื่องจากเป็นพื้นที่เปี่ยมด้วยศักยภาพสูงในหลายๆด้าน ทั้งภูมิประเทศ ทรัพยากรธรรมชาติ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน ความพร้อมของห่วงโซ่อุปทาน และทรัพยากรบุคคลที่มีทักษะความรู้ความสามารถ ที่เอื้อต่อการเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและการดำเนินธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ นอกจากนี้ เรามีการนำพันธมิตรของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมาลงทุนในประเทศไทย สร้างระบบนิเวศยานยนต์พลังงานใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ผมมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าภายใต้การดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Local Excellence to Global Success จะทำให้การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและการก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าด้วยความมั่นคงและยั่งยืน ที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ลงทุนในประเทศไทยไปแล้วกว่า 12,000 ล้านบาท และภายในอีก 3 ปีข้างหน้านี้เราจะลงทุนเพิ่ม รวมแล้วเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นกว่า 23,000 ล้านบาท เพื่อรองรับตลาด นอกเหนือไปจากการส่งมอบนวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าชาวไทยแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงสนับสนุนการจ้างงานในท้องถิ่น รวมถึงการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ และทีมผู้บริหารและพนักงานในประเทศไทย เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและมั่นคงร่วมกัน”
“บทบาทต่อจากนี้ของเรา คือ การผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาสู่ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญเชิงกลยุทธ์ผ่านการลงทุนระยะยาว รวมถึงปรับเปลี่ยนการดำเนินงานหลากหลายด้านผ่านกลยุทธ์ด้านต่าง ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการแข่งขันสูง ผมขอยืนยันว่าเราจะยังคงดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในระยะยาว นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ยอดเยี่ยมให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับในตลาดโลก หลังจากประสบผลสำเร็จในการจำหน่ายแล้วกว่า 14 ล้านคันทั่วโลก Great Wall Motors International ตั้งเป้ายอดจำหน่ายในต่างประเทศที่ 1 ล้านคัน ภายในปี พ.ศ. 2573 นี้ โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายน 2567 เราทำยอดขายในตลาดต่างประเทศได้ถึง 316,000 คัน เติบโตจากปีที่แล้วถึง 22.17%” ปาร์คเกอร์ ฉี กล่าวปิดท้าย
ด้าน เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เตรียมปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่เข้มข้นในปัจจุบัน ผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ ภายใต้แนวคิด Local Excellence to Global Success เพื่อปรับปรุงการดำเนินงาน สร้างการเติบโต ขยายฐานลูกค้า รวมถึงขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาสู่ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ประกอบด้วย
- กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ (Product Strategy) ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมขั้นสูงที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภค เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งเน้นการปรับตำแหน่งการตลาดของผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการปรับแผนผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยอย่างแท้จริง ในราคาที่เหมาะสมที่แข่งขันได้ นอกจากนี้ ยังเตรียมนำผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของประเภทเครื่องยนต์ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ผ่านการรับฟังเสียงของผู้บริโภค (User-Centric) เพื่อนำไปพัฒนาและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี พ.ศ. 2568 เกรท วอลล์ มอเตอร์ เตรียมเปิดตัว HAVAL H6 HEV และ PHEV ไมเนอร์เชนจ์ รวมถึง GWM TANK ในเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งภายใต้กลยุทธ์เดียวกันนี้ และภายในงาน Motor Expo 2024 ปลายปีนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะนำนวัตกรรมใหม่ มาจัดแสดง พร้อมสร้างเสียงฮือฮาถึง 2 รุ่น ตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่ม SUV ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้โรงงานอัจฉริยะที่จังหวัดระยอง เป็นศูนย์กลางของการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาระดับโลก
- กลยุทธ์ด้านการบริการหลังการขาย (After-Sales Service Strategy) เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตั้งเป้าหมายในการส่งมอบบริการหลังการขายที่รวดเร็ว ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการบริหารจัดการอะไหล่ที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการสร้างศูนย์กระจายอะไหล่ขนาดใหญ่สำหรับตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศจีนซึ่งจะมีพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร รวมถึงการเพิ่มจำนวนการเก็บชิ้นส่วนอะไหล่กว่า 1,000 SKUs ในประเทศไทย โดยมี Part fill rate ที่ 97% รวมถึงการพัฒนาโครงการศูนย์สีและซ่อมตัวถังที่ได้มาตรฐานครบวงจร (Certified Body & Paint) ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และขยายสู่ต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการผ่าน GWM Smart Service เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและอุ่นใจให้กับลูกค้าในการใช้งาน ให้รองรับการใช้งานที่หลากหลายและครบถ้วนมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเร่งพัฒนาความรู้และความสามารถของช่างเทคนิคอย่างเข้มข้น ผ่านหลักสูตรที่เข้มข้นของศูนย์ฝึกอบรม (GWM Training Center) ที่ได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถมอบบริการที่ดีและมีคุณภาพให้แก่ลูกค้า รวมถึงการรับฟังเสียงของลูกค้าเพื่อนำไปปรับปรุงบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีและความพึงพอใจสูงสุดในทุกครั้งที่ใช้บริการ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในการเป็นเจ้าของรถยนต์ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์
- กลยุทธ์ด้านการขาย (Sales Strategy) ผ่านการสร้างการเติบโตและการบริหารเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายเพื่อการขายที่มีประสิทธิภาพ โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งเน้นการทำงานพูดคุยกับพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาการดำเนินงานให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตและการแข่งขันที่สูงขึ้นในของตลาด นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมุ่งมั่นในการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นพร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพันธมิตรผู้จำหน่าย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด โดยในปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีพาร์ทเนอร์ สโตร์ ครอบคลุมทั่วประเทศทั้งหมด 70 แห่ง นอกเหนือไปจากนี้ ยังร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในฐานะ Authorized Fleet Partner ทั่วประเทศ เพื่อเดินหน้าขยายธุรกิจฟลีทให้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งบริษัทรถเช่า ลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) และการเข้าร่วมประมูลของหน่วยงานภาครัฐ ยิ่งไปกว่านั้น เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะขยายธุรกิจรถยนต์ใช้แล้วภายใต้ GWM Certified Pre-Owned (CPO) เป็นบริการซื้อขายรถยนต์ใช้แล้วที่ผ่านการรับรองคุณภาพจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่กำลังมองหารถยนต์ใช้แล้วคุณภาพดีที่ได้มาตรฐานอีกด้วย
- กลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์ (Brand Building) ให้แตกต่างสู่การเป็นแบรนด์ในใจของคนไทยและทั่วโลก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เน้นการสร้างแบรนด์ในระยะยาวโดยมีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (User-Centric) ผ่านกิจกรรมระดับโลกต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะขยายการรับรู้ของแบรนด์เพื่อเข้าถึงและสร้างการจดจำในกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ได้มากยิ่งขึ้น ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดให้มีความทันสมัยและสร้างความแตกต่างมากยิ่งขึ้น ผ่านการสื่อสารเทคโนโลยีอันล้ำสมัยต่าง ๆ ที่มอบทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทั้งที่เป็น First-in-class และ Best-in-class ด้านกิจกรรมเพื่อสังคม เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมให้มากยิ่งขึ้น สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเข้าไปมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยังคงมุ่งมั่นในการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าเดิม ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณค่าและจงรักภักดีกับแบรนด์โดยส่งเสริมการแบ่งปันประสบการณ์ที่ดีที่มีต่อแบรนด์สู่เพื่อน ครอบครัว และบุคคลรอบข้าง สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น นำไปสู่การเติบโตของชุมชนผู้ใช้งานของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ อย่างยั่งยืนในอนาคต
นอกจากกลยุทธ์ทั้ง 4 ด้าน เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้มีความฉับไวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านโครงสร้างองค์กรที่เอื้อต่อการตัดสินใจ เพื่อสอดรับกับการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน ประกอบกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของทีมผู้บริหารและทีมงานที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมแล้วที่จะขับเคลื่อนให้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) มุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่วางไว้ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างแข็งแกร่ง พร้อมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ สู่ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำของโลก และเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และไม่หยุดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และส่งมอบนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
เกี่ยวกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์
ในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) หรือ GWM เป็นผู้ผลิตรถเอสยูวีและรถกระบะระดับโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ในเมืองเป่าติ้ง ประเทศจีน และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ในปี 2546 และ 2565 ตามลำดับ อีกทั้งยังมีพนักงานมากกว่า 70,000 คนทั่วโลก ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในประเทศจีนที่มียอดการผลิตและยอดขายมากกว่าหนึ่งล้านคันในตลอดระยะเวลา 8 ปี มีเครือข่ายการขายครอบคลุมกว่า 1,000 แห่งใน 170 ประเทศในหลายภูมิภาค โดยมียอดขายสะสมในต่างประเทศมากกว่า 1,400,000 คัน นอกจากนี้ ยังสามารถทำยอดขายในต่างประเทศได้สูงถึง 300,000 คันในปี 2566