
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมผู้บริหารบางจากฯ ร่วมแสดงความยินดีและต้อนรับ “เติ้น” ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ นักแข่ง Formula 3 ซึ่งนำถ้วยรางวัลจากการแข่งขันมาแสดงความขอบคุณ บริษัท บางจากฯ ที่สนับสนุนการลงแข่งขันรายการ FIA – Formula 3 มาตลอดระยะเวลา 2 ปี และปีนี้ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย โดยเป็นนักแข่งไทยคนแรกที่ได้รับชัยชนะอันดับ 1 ในศึกความเร็วระดับเวิลด์คลาส FIA – Formula 3 Championship ฤดูกาล 2025 ณ สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงเป็นความสำเร็จของนักแข่ง แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยที่พัฒนาไปอีกระดับแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทยในเวทีโลก
บางจากฯ เป็นแบรนด์พลังงานไทยที่พัฒนานวัตกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงมาอย่างต่อเนื่องด้วยแนวคิด Greenovative Product โดยมีโรงกลั่นน้ำมันมาตรฐานระดับโลก เป็นองค์กรแรกและองค์กรเดียวของประเทศไทยจากภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับรางวัลด้านการบริหารจัดการระดับสูงสุด Global Performance Excellence Award ระดับ World Class พัฒนาคุณสมบัติพิเศษและควบคุมคุณภาพการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูง เช่น บางจากไฮพรีเมียม 97 พรีเมียมแก๊สโซฮอล์ออกเทนสูงกว่า 97 และ บางจากไฮพรีเมียมดีเซล S ที่มีค่าซีเทนสูงเหนือมาตรฐาน เพื่อตอบสนองเทคโนโลยียานยนต์ที่พัฒนาไม่หยุดยั้ง ด้วยแนวคิดดังกล่าว บางจากฯ จึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศักยภาพของคนไทยในทุกโอกาส รวมถึงการสนับสนุนทีมแข่งรถ AAS Motorsport สู่สนามแข่งระดับโลก เพราะมั่นใจศักยภาพของคนไทย ว่าหากมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ เช่นเดียวกับที่บางจากฯ ที่ใช้นวัตกรรมพัฒนาจนได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงของคนไทยที่มีมาตรฐานระดับโลกเช่นเดียวกัน
เกี่ยวกับบางจากฯ
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินงานใน 5 ธุรกิจหลัก คือ 1) กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ผู้นำด้านการกลั่นน้ำมันของประเทศ ด้วยกำลังการผลิตรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน จากโรงกลั่นน้ำมันแบบ Complex Refinery มาตรฐานระดับโลก 2 แห่ง คือโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนงและโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขยายสู่ธุรกิจการค้าน้ำมันผ่านบริษัทบีซีพี เทรดดิ้ง (BCPT) และต่อยอดเครือข่ายธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิง ผ่านบริษัทกรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ (BFPL) รวมถึงลงทุนในธุรกิจเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF ผ่านบริษัทบีเอสจีเอฟ (BSGF) 2) กลุ่มธุรกิจการตลาด ส่งมอบ Greenovative Experience ผ่านเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,200 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ non-oil เช่น กาแฟอินทนิล ร้าน Lemon Green น้ำมันหล่อลื่น FURIO EV Charger รวมทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรด้านอาหารหลากหลายและนำระบบดิจิทัลมาส่งมอบประสบการณ์ทันสมัย สะดวก ปลอดภัย ให้กับผู้ใช้บริการ 3) กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด และการนำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการการใช้พลังงานของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย บมจ. บีซีพีจี ผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค 4) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการภายใต้ บมจ. บีบีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ของประเทศและขยายสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง 5) กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์ ที่เป็นที่ยอมรับว่ามีมาตรฐานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับธุรกิจแนวใหม่ เช่น ธุรกิจ Battery as a Service สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Winnonie และได้จัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจใหม่ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้ง Carbon Markets Club เพื่อส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวิกฤตสภาวะภูมิอากาศและการซื้อขายคาร์บอนเครดิต และร่วมก่อตั้งภาคีเครือข่ายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งอนาคต SynBio Consortium