คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

LIFE & MOTOR SPORTS

เจาะเทคโนโลยีดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ และเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ใน NEW GWM TANK 300 DIESEL เบื้องหลังสมรรถนะทรงพลัง ประหยัดและคุ้มค่า

GWM จัดงาน GWM DIESEL TECH NIGHT” เจาะลึกเทคโนโลยีดีเซล 2.4T เจนฯ ล่าสุด

พร้อมเปิดตัว “TANKER CLUB” คอมมูนิตี้คนรัก GWM TANK ในไทยอย่างเป็นทางการ

 

9 มิถุนายน 2568 GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งาน (All Users)” ล่าสุด เผยเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุดแบบเจาะลึก ในงาน “GWM DIESEL TECH NIGHT” พิสูจน์ที่มาของความสำเร็จของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ในประเทศไทย นำทีมโดย เจมส์ หยาง รองประธาน GWM ตลาดต่างประเทศ มิคาเล สกอตติ ผู้อำนวยการด้านระบบส่งกำลังและแพลตฟอร์มใหม่ GWM สำนักงานใหญ่ นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานฝ่ายการตลาด และ เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) พร้อมด้วยทีมผู้บริหารจาก GWM (Thailand) พร้อมกันนี้ GWM (Thailand) ได้ประกาศเปิดตัว TANKER CLUB คอมมูนิตี้สำหรับเหล่าคนรัก GWM TANK ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ สู่การเป็นพื้นที่สำหรับผู้ใช้งานจริงทั่วประเทศเพื่อทำกิจกรรม พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมกันสร้างคอมมูนิตี้ที่เข้มแข็ง สร้างสรรค์ และยั่งยืนในระยะยาว โดยมีเหล่า “TANKER” หรือผู้ใช้ GWM TANK เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากเพื่อร่วมเฉลิมฉลองการส่งมอบ NEW GWM TANK 300 DIESEL ไปแล้วมากกว่า 1,000 คันในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และจะมีการส่งมอบได้ครบ 2,000 คันภายในเดือนมิถุนายนนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นตั้งใจในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสู่มือลูกค้าชาวไทยอย่างครบถ้วนและสมบูรณ์

เจมส์ หยาง รองประธาน GWM ตลาดต่างประเทศ กล่าวว่า “GWM DIESEL TECH NIGHT ไม่ใช่แค่งานเปิดตัวเครื่องยนต์รุ่นใหม่ แต่เป็นเวทีที่เราตั้งใจจะถ่ายทอดให้ทุกคนได้เห็นถึงความมุ่งมั่นเบื้องหลังการพัฒนาเทคโนโลยีดีเซลของ GWM ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา เราทราบดีว่าการจะพาแบรนด์สัญชาติจีนไปสู่ระดับโลกนั้น ไม่ใช่เรื่องของกระแสหรือโชคชะตา แต่คือการเดินหน้าด้วยแนวคิดระยะยาวและการลงทุนในนวัตกรรมที่ GWM มุ่งมั่นเสมอมา รวมถึงการที่ GWM ยังเชื่อว่าเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องของการอวดโชว์ แต่คือความสามารถในการแก้ปัญหาให้ผู้ใช้ได้ เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันล่าสุดของ GWM นี้คือผลลัพธ์ของหลักการนั้น เพราะเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน ควบคุมมลพิษและเสียงรบกวนได้ดี พร้อมลุยทุกสภาพแวดล้อม สุดท้ายนี้ ผมอยากขอบคุณทุกเสียงสนับสนุนที่ร่วมเป็นแรงผลักดันให้ GWM กลายเป็นแบรนด์ที่ผู้คนในกว่า 170 ประเทศทั่วโลกไว้ใจ เราจะยังคงยึดมั่นในคุณภาพ และบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพราะสำหรับเรา GWM ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือการเดินทางของความเชื่อและวิสัยทัศน์ที่ไปไกลอย่างยั่งยืน”

หนึ่งในที่มาของความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ในไทย คือ เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T รุ่นล่าสุด ที่พัฒนาตลอดระยะเวลามาอย่างยาวนาน GWM พัฒนาเครื่องยนต์กว่า 50 รุ่น ครอบคลุม 6 แพลตฟอร์มหลัก วางจำหน่ายในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก

 

ภายในงาน มิคาเล สกอตติ ผู้อำนวยการด้านระบบส่งกำลังและแพลตฟอร์มใหม่ GWM สำนักงานใหญ่ ได้เผย 5 จุดเด่นของนวัตกรรมเครื่องยนต์ 2.4T ที่สร้างความสำเร็จทั้งในไทยและระดับโลก โดยกว่า 20 ปี ที่ GWM ทุ่มเททรัพยากรในการวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างขุมพลังที่ไม่ใช่แค่ ‘แรง’ แต่ต้อง ‘ล้ำหน้า’ และ ‘ยั่งยืน’ GWM เชื่อว่า ระบบส่งกำลังไม่ใช่เพียงแค่หัวใจของรถยนต์ แต่คือแก่นแท้ของประสบการณ์การขับขี่ เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T รุ่นล่าสุดใน NEW GWM TANK 300 DIESEL คือผลลัพธ์ของความมุ่งมั่นนั้น ที่ผสานเทคโนโลยีเทอร์โบ ระบบควบคุมอุณหภูมิขั้นสูง และการออกแบบที่ผ่านการทดสอบอย่างยาวนานทั่วโลก เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ถึงสมรรถนะ ความประหยัด นิ่งเงียบ นุ่มนวล และความทนทานในทุกเส้นทาง

โดย 5 จุดเด่นของนวัตกรรมเครื่องยนต์ 2.4T ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของรุ่นนี้ทั้งในไทยและระดับโลก ประกอบด้วย

  • การทดสอบสุดโหดรวมระยะทางกว่า 6 ล้านกิโลเมตร เพื่อยืนยันความทนทานในทุกสภาพอากาศ โดยเฉพาะในภูมิอากาศร้อนอย่างประเทศไทย มาพร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูง เช่น พัดลมกำลังสูง 850 วัตต์ และระบบควบคุมอุณหภูมิ Off-Road Thermal Management Mode เทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิแบบใหม่ครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ช่วยป้องกันความร้อนสะสมและเพิ่มเสถียรภาพของเครื่องยนต์ เพิ่มระยะเวลาการทำงานต่อเนื่องได้มากขึ้นถึง 30% ผ่านการทดสอบอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การทดสอบสภาวะช็อกจากความร้อน (Thermal Shock) นานถึง 300 ชั่วโมง การทดสอบการทำงานเต็มกำลังและรอบสูงสุด (Full-Speed, Full-Load) นานถึง 500 ชั่วโมง การทดสอบการรับโหลดสลับไปมา (Alternating Load) นานถึง 650 ชั่วโมง รวมถึงการทดสอบบนสภาพถนน 76 รูปแบบ และในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันสุดขั้วจากทั่วโลก รวมระยะทางการทดสอบมากถึง 6 ล้านกิโลเมตร หรือเทียบเท่ากับการขับรถรอบโลกถึง 150 รอบ พร้อมการรับประกันแบบไร้กังวลนานถึง 8 ปี หรือ 1,000,000 กิโลเมตร สำหรับลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ
  • เทอร์โบชาร์จเจอร์ควบคุมด้วยสมองกลอิเล็กทรอนิกส์ หนึ่งในความลับสำคัญของเครื่องยนต์ดีเซล 4T นี้คือ “เทอร์โบชาร์จเจอร์” ที่มาพร้อมกับ “สมองกล” แอคทูเอเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถปรับทิศทางและปริมาณการไหลของอากาศภายในระบบเทอร์โบได้อย่างชาญฉลาด โดยตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของรอบเครื่องยนต์และตอบสนองได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเหยียบคันเร่งเบา ๆ หรือต้องการพลังแบบรวดเร็วทันใจ ระบบนี้จะส่งแรงขับทันที ทำให้หมดปัญหาอาการหน่วงของเทอร์โบแบบเดิม ๆนอกจากนี้ GWM ยังได้ออกแบบใบพัดเทอร์โบและช่องทางไหลเวียนอากาศใหม่ทั้งหมด ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการอัดอากาศเพิ่มขึ้นประมาณ 20% อากาศสามารถไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้อย่างแม่นยำและสมบูรณ์แบบ ทำให้การผสมกับเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพสูง ปลดปล่อยพลังได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในรอบต่ำ สมรรถนะยังคงทรงพลังและมั่นคง โดยให้แรงบิดเพิ่มขึ้นถึง 30% แม้เพียงแค่ 1,000 รอบต่อนาที ก็สามารถปล่อยแรงบิดสูงที่ 260 นิวตันเมตร
  • ฝ่าทุกสภาวะถนนได้อย่างมั่นใจตลอดทั้งเส้นทางด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT) ที่ออกแบบด้วยอัตราทดเกียร์ต่ำและช่วงเกียร์กว้าง มอบการขับขี่ที่ราบรื่น (อัตราทดเกียร์ที่ 1 อยู่ที่288) จับคู่กับแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตรจากเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T มอบการส่งกำลังต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องพลังขับที่ไม่เพียงพอ มั่นใจแม้ขับบนถนนลื่นหรือพื้นทราย โดยไม่รู้สึกถึงแรงหน่วง ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างราบรื่นและผ่อนคลายยิ่งขึ้น
  • แรง ประหยัด พร้อมการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น! ด้วยการปฏิวัติเครื่องดีเซลด้วยระบบคอมมอนเรลเจเนอเรชันใหม่ เครื่องยนต์ดีเซล 4T มาพร้อมกับ ระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ สามารถควบคุมจังหวะ ปริมาณ และแรงดันของการฉีดเชื้อเพลิงอย่างแม่นยำ เพื่อให้เครื่องยนต์คงประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้ทุกสภาวะการทำงาน และระบบคอมมอนเรลแรงดันสูงในตัวที่ระดับ 2,000 บาร์ ทำให้เชื้อเพลิงถูกทำให้เป็นละอองละเอียดสูง อีกทั้งระบบคอมมอนเรลแรงดันสูงยังทำงานร่วมกับหัวฉีดแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็วสูงที่สามารถฉีดได้หลายครั้งในรอบเดียว ด้วยความเร็วสูงในการฉีดนี้ทำให้เชื้อเพลิงถูกแบ่งออกเป็นหยดเล็กละเอียด ทำให้เกิดการผสมระหว่างเชื้อเพลิงกับอากาศที่สม่ำเสมอและการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเชื้อเพลิงถูกเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ มลพิษที่เกิดจากไอเสียของเครื่องยนต์จึงลดลง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ GWM ยังใช้ปั๊มน้ำมันเครื่องแบบปรับอัตราการไหลได้ (Variable Displacement Oil Pump) ที่ปรับปริมาณการไหลของน้ำมันให้เหมาะสมกับสภาพการทำงานของเครื่องยนต์แบบเรียลไทม์ เมื่อขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ปั๊มจะส่งน้ำมันไปหล่อลื่นอย่างพอเหมาะในแต่ละจุด และเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง ปั๊มจะผ่อนกำลังเพื่อลดการสูญเสียพลังงานจากการทำงานของปั๊มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เทคโนโลยีความเงียบระดับพรีเมียม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น GWM ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่เน้นความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร กับ “7 นวัตกรรมแห่งความเงียบ” อาทิ การออกแบบลดแรงสั่นสะเทือนของท่อเชื้อเพลิงแรงดันสูง การวางตำแหน่งสายพานและรอกให้รักษาแรงตึงและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับแต่งรูปแบบการสั่น (Modal Tuning) เพื่อหลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือนจากคลื่นความถี่ซ้อนทับกัน การใช้ปั๊มน้ำมันเครื่องแบบเฟืองโซ่ที่อยู่ภายในเครื่อง การใช้เพลาลูกเบี้ยวแบบขนานพร้อมเฟืองพิเศษลดเสียงกระแทกของกลไกภายใน การติดตั้งเฟืองเพลาสมดุล (Balance Shaft) ไว้ด้านท้ายของเพลาข้อเหวี่ยง หรือแม้แต่การใช้วัสดุดูดซับเสียงรอบระบบเชื้อเพลิง นอกจากนี้ GWM ยังลงทุนกว่า 150 ล้านบาทในประเทศจีน เพื่อสร้างห้องทดสอบเสียงแบบ 4 ล้อ และห้องกึ่งไร้เสียงสะท้อน (Half-Anechoic Chambers) รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลของ GWM ได้ผ่านการทดสอบ NVH อย่างครอบคลุมกว่า 10 รายการ ทั้งในระดับชิ้นส่วนและทั้งคัน การใช้ห้องทดสอบนี้ทำให้สามารถตรวจสอบความเงียบได้แบบรอบด้าน และทำให้ระดับความเงียบของรุ่นดีเซลใกล้เคียงกับรถเครื่องยนต์เบนซิน

 

ภายในงานยังได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “TANKER CLUB” ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการประกาศจุดเริ่มต้นของคอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน GWM TANK ในไทย ภายใต้แนวคิดสำคัญในการสร้างพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างกิจกรรม ความผูกพัน และแรงบันดาลใจของผู้ใช้งานจริง หรือเหล่า “TANKER” ทั่วประเทศ ซึ่ง TANKER CLUB จะดำเนินการโดยผู้ใช้จริงและทำเพื่อผู้ใช้จริงเท่านั้น โดย GWM (Thailand) จะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการทำกิจกรรมของคลับเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้ผลิตภัณฑ์ การสนับสนุนการจัดกิจกรรม การให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ หรือการเป็นสะพานเชื่อมสู่โอกาสในการร่วมกิจกรรมกับ TANKER CLUB ประเทศอื่น ๆ หรือการร่วมกิจกรรมระดับโลกของ GWM การก่อตั้งคอมมูนิตี้ TANKER CLUB นี้ ตั้งอยู่บนวัฒนธรรมและความเชื่อ รวมถึงจิตวิญญาณของผู้ใช้งาน GWM TANK หรือ TANKER SPIRIT ที่สะท้อนถึงความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ชอบเหมือนใคร (Independent) เปี่ยมไปด้วยความรัก (Love) รักอิสระ (Freedom) รักการผจญภัย (adventurous) แอ็กทีฟและมีพลังเต็มเปี่ยมที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ (Active & Passionate) และที่สำคัญที่สุดคือมีจิตใจที่พร้อมช่วยเหลือผู้อื่น (Good at Heart)

เวยน์ โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวปิดท้ายว่า “ผมขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่มาร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่ได้ส่งมอบไปแล้วมากกว่า 1,000 คัน และเราจะส่งมอบครบ 2,000 คันภายในเดือนมิถุนายนนี้  ประเทศไทยคือศูนย์กลางสำคัญของ GWM ในภูมิภาคพวงมาลัยขวา และเรายืนยันเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “In Thailand, For Thailand” โดยเรามีความเชื่อว่าการใช้ระบบขับเคลื่อนหลากหลายรูปแบบ (Multiple Powertrains) คือทางออกที่ดีที่สุดในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย จากพื้นฐานของตลาดในประเทศไทยยังคงอยู่ที่เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และดีเซล ซึ่งมีห่วงโซ่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีส่วนช่วยสร้าง GDP ถึง 12% และล่าสุดกับ NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่มีการพัฒนาขึ้นเพื่อให้เหมาะสำหรับคนไทย ทั้งระบบขับเคลื่อน ระบบช่วงล่าง เกียร์ และเครื่องยนต์ เรามั่นใจว่าเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ใหม่ คือความลงตัวระหว่างสมรรถนะ ความเงียบ และความประหยัด เพื่อสร้างมาตรฐานของรถยนต์ดีเซลในไทย ขอบคุณทุกท่านที่ให้การตอบรับอย่างอบอุ่น และขอต้อนรับพี่น้องชาว TANKER ในไทยเข้าสู่ GWM FAMILY อย่างเป็นทางการ เราจะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งมอบบริการที่ดี เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า พาร์ทเนอร์ และสังคมไทยในระยะยาว”

 

ร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่กับ NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แอปพลิเคชัน GWM เว็บไซต์ https://www.gwm.co.th/ หรือ GWM Contact Center หมายเลข 02-668-8888  

 

การพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลของ GWM

GWM มุ่งมั่นพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลมาอย่างยาวนาน โดยได้ทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดที่มีเพื่อให้การพัฒนานี้ก้าวไกลกว่าที่เคย โดยเฉพาะในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่ GWM ได้ลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในระดับโครงสร้าง หนึ่งในหัวใจสำคัญคือการจัดตั้งห้องปฏิบัติการด้านเครื่องยนต์แบบครบวงจร ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 2,500 ล้านบาท ห้องแล็บเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงแค่อุปกรณ์ทันสมัย แต่ยังมีรายละเอียดที่สะท้อนความใส่ใจ ทั้งในด้านความแม่นยำของอุปกรณ์ทดสอบ ความเข้มงวดของกระบวนการ และการออกแบบสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการวิจัยขั้นสูง ปัจจุบัน GWM มีศักยภาพในการพัฒนาเครื่องยนต์ในระดับแมทริกซ์ครอบคลุมรถยนต์ GWM ทุกรุ่น โดยมี 6 แพลตฟอร์มหลัก รวมถึงมีเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินรวมกว่า 50 รุ่น ไม่เพียงเท่านี้ สำหรับการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ที่อยู่ในรถยนต์ NEW GWM TANK 300 DIESEL เพียงรุ่นเดียว GWM ได้ทุ่มเม็ดเงินการลงทุนไปแล้วกว่า 1 พันล้านบาท นอกจากนี้ ความสำเร็จของเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์ GWM รุ่นอื่น ๆ นั้นยังได้ถูกพิสูจน์และการันตีด้วยผู้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเกือบ 2 ล้านคนในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก รวมถึงเป็นที่นิยมในประเทศออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ ชิลี ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐเอมิเรตส์

ทดสอบความแกร่งของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ใน NEW GWM TANK 300 DIESEL

  • พร้อมลุยทุกสภาพอากาศร้อน: เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อนตลอดปี ทำให้ผู้ใช้รถกังวลเรื่องเครื่องยนต์ร้อนเกินไป GWM พัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล 4T ใหม่ เพื่อรองรับสภาพอากาศร้อนโดยเฉพาะ
  • ระบบจัดการความร้อนขั้นสูง:
    • ติดตั้งพัดลมระบายความร้อน ขนาด 850 วัตต์ (เทียบเท่า “เครื่องปรับอากาศพลังซูเปอร์”)
    • มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ Off-Road Thermal Management Mode (ครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์)
    • ช่วยป้องกันความร้อนสะสม ลดการดรอปสมรรถนะของเครื่องยนต์
    • เพิ่มความสามารถในการทำงานต่อเนื่อง มากขึ้นถึง 30% ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ มีเสถียรภาพในระยะยาว

การทดสอบสมรรถนะเครื่องยนต์แบบเข้มข้น

  • Thermal Shock Test: ทดสอบสภาวะช็อกจากอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงสูงถึง 300 ชั่วโมง
  • Full-Speed, Full-Load Test: ทดสอบและจำลองการทำงานหนักต่อเนื่องที่รอบสูงสุดและโหลดเต็ม 500 ชั่วโมง
  • Alternating Load Test: ทดสอบความทนทานต่อโหลดสลับไปมา นาน 650 ชั่วโมง
  • Real-world Road & Climate Testing: ทดสอบบนถนน 76 รูปแบบทั่วโลก ครอบคลุมสภาพแวดล้อมสุดขั้วหลากหลายภูมิภาค
  • ระยะทางรวมการทดสอบมากถึง 6 ล้านกิโลเมตร เทียบเท่าการขับรถรอบโลก 150 รอบ

 

การรับประกันที่เหนือกว่า: GWM มั่นใจในคุณภาพเครื่องยนต์มอบการรับประกันแบบไร้กังวลนานถึง 8 ปี หรือ 1,000,000 กิโลเมตร

สมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ใน NEW GWM TANK 300 DIESEL: พลังเต็มสปีดตั้งแต่รอบต่ำ

  • กำลังสูงสุด: 135 กิโลวัตต์ (184 แรงม้า) ที่ 3,600 รอบ/นาที
  • แรงบิดสูง (รอบต่ำ): 260 นิวตันเมตร
  • แรงบิดสูงสุดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque): 480 นิวตันเมตร ที่ 1,500–2,500 รอบ/นาที
  • อัตราเร่ง: 0-100 กม./ชม. ภายใน 11 วินาที
  • ขับขี่ได้คล่องตัวแม้ในเส้นทางท้าทาย
  • ประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วยแรงบิดสูงตั้งแต่รอบต่ำ
  • ระบบช่วงล่างแข็งแรง มั่นคง รองรับการขับขี่สมบุกสมบัน
  • ระบบหล่อเย็นขั้นสูง: ทั้ง Transmission Oil Cooler ช่วยระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ และ Intercooler รักษาสมรรถนะในระยะยาว
  • พร้อมรับมือสภาพการใช้งานหนัก: ปีนเขา เดินทางไกล หรือใช้เครื่องยนต์หนักต่อเนื่องโดยไม่ลดทอนพลัง
  • เทอร์โบอัจฉริยะ: ตอบสนองฉับไว ไม่มีหน่วงด้วยระบบ Smart Turbocharger มาพร้อม แอคทูเอเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ตรวจจับรอบเครื่องยนต์และตอบสนองแบบ เรียลไทม์ เหยียบคันเร่งเบาหรือแรง ก็ ส่งแรงขับได้ทันที พร้อมแก้ปัญหา “เทอร์โบหน่วง” ที่มักพบในระบบเก่า
  • การออกแบบระบบอากาศใหม่: ใบพัดเทอร์โบและช่องอากาศ ออกแบบใหม่ทั้งหมด เพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศขึ้นประมาณ 20% โดยอากาศไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้แม่นยำและสมบูรณ์ ช่วยให้การผสมเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพสูงสุด ปลดปล่อยพลังได้เต็มที่ โดยเฉพาะในรอบต่ำ
  • แรงบิดเพิ่มขึ้นในรอบต่ำ: แม้เพียง 1,000 รอบ/นาที ก็ให้แรงบิดสูงถึง 260 นิวตันเมตร โดยให้สมรรถนะทรงพลังตั้งแต่รอบแรก “เหมือนเสียงกระซิบที่แฝงพลังระเบิด”

 

เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT): ขับมั่นใจ ทุกสภาพถนน

  • ประสิทธิภาพการทำงานของเกียร์
    • ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT) ออกแบบด้วย: อัตราทดเกียร์ต่ำ และมีช่วงเกียร์กว้างถึง 843
    • ช่วยให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ 9 ได้ตั้งแต่ความเร็ว 90 กม./ชม.
    • ปรับการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมกับสภาพถนนและการขับขี่
    • ทำงานสอดคล้องกับเครื่องยนต์ ช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น
  • ขับลุยบนพื้นถนนลื่นได้อย่างมั่นใจ โดยทำงานร่วมกับแรงบิดสูงสุดจากเครื่องยนต์ดีเซล 4T (480 นิวตันเมตร)เหมาะกับถนนลื่น เช่น พื้นเปียกในฤดูฝน พื้นทราย หรือดินนุ่ม และไม่ต้องเร่งคันเร่งแรง เนื่องด้วยเครื่องยนต์ส่งพลัง สม่ำเสมอไปยังล้อทั้ง 4
  • สมรรถนะที่ตอบสนองทุกจังหวะ:
    • การเปลี่ยนเกียร์ ราบรื่น ไม่มีสะดุด
    • ลดความรู้สึก “หน่วง” หรือ “เฉื่อย” ของรถ
    • ช่วยให้ผู้ขับ ผ่อนคลายมากขึ้น สามารถโฟกัสกับการควบคุมพวงมาลัยได้เต็มที่

 

เครื่องเงียบ แรง ประหยัด GWM ปฏิวัติเครื่องยนต์ดีเซลด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

  • เทคโนโลยีคอมมอนเรลเจเนอเรชันใหม่: ใช้ระบบ ฉีดเชื้อเพลิงแบบอิเล็กทรอนิกส์ เสมือน “สมองอัจฉริยะ” ควบคุม จังหวะ / ปริมาณ / แรงดัน การฉีดอย่างแม่นยำ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงาน เต็มประสิทธิภาพในทุกสภาวะ
  • มาพร้อม ระบบคอมมอนเรลแรงดันสูง ระดับ 2,000 บาร์: ฉีดเชื้อเพลิงเป็นละอองละเอียดสูง คล้ายเกลือโปรยบนขนมปัง ทำงานร่วมกับหัวฉีดแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็วสูง ที่ฉีดได้หลายครั้งต่อรอบ ส่งผลให้เชื้อเพลิงผสมกับอากาศได้อย่างสม่ำเสมอ → เผาไหม้สมบูรณ์
  • ประสิทธิภาพสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: โดยการเผาไหม้สมบูรณ์ ช่วยลดการปล่อยมลพิษทางไอเสียทั้งนี้ เครื่องยนต์ทำงานเงียบขึ้น เพิ่มความสบายในการขับขี่ และประหยัดน้ำมันอย่างเห็นได้ชัด
  • ระบบปั๊มน้ำมันเครื่องแบบอัจฉริยะ (Variable Displacement Oil Pump) ปรับอัตราการไหลตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์: เปรียบเหมือน “พ่อบ้านฉลาด” ที่รู้จักประหยัดพลังงานอย่างเหมาะสม
    • ความเร็วต่ำ → ปั๊มส่งน้ำมันเพียงพอเพื่อหล่อลื่น
    • ความเร็วสูง → ปั๊มลดกำลังเพื่อลดการสูญเสียพลังงาน

 

แรงแต่เงียบ ด้วยนวัตกรรมระดับโลก! ผสานพลังเครื่องยนต์ดีเซลกับเทคโนโลยีความเงียบ

เพื่อการเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ดีกว่าที่เคยมีมา GWM ได้พัฒนาเทคโนโลยี NVH (Noise, Vibration, Harshness) ที่เน้นความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร GWM จึงได้พัฒนา “7 เทคนิคแห่งความเงียบ” ได้แก่

  • การออกแบบลดแรงสั่นสะเทือนของท่อเชื้อเพลิงแรงดันสูง (High-Pressure Fuel Pipe Vibration Damping Design) ทิศทางและจุดยึดของท่อน้ำมันแรงดันสูงได้รับการออกแบบใหม่ให้เหมาะสมและมั่นคงยิ่งขึ้น ช่วยลดเสียงสะท้อนและแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการเปลี่ยนแรงดันของหัวฉีดและปั๊มเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซล เพิ่มความเงียบและความนุ่มนวลขณะขับขี่
  • วัสดุดูดซับเสียงรอบระบบเชื้อเพลิง (Passive Noise Reduction) GWM ใช้ฉนวนกันเสียงชั้นดีหุ้มบริเวณหัวฉีดและปั๊มเชื้อเพลิง เพื่อดูดซับเสียงที่เกิดจากการฉีดเชื้อเพลิงแรงดันสูง และลดเสียงคล้ายการกระแทกเบา ๆ ที่อาจได้ยินจากห้องโดยสาร ให้เสียงที่เงียบไม่รบกวนทั้งสมาชิกในบ้านและเพื่อนบ้านรอบข้าง
  • การออกแบบระบบไทม์มิ่งที่ปรับปรุงใหม่ (Optimized Timing System Design) GWM มีการออกแบบและปรับระบบไทม์มิ่งใหม่ทั้งสายพานและลูกรอกเพื่อลดเสียงรบกวนระหว่างทำงาน พร้อมติดตั้งฝาครอบเครื่องยนต์วัสดุผสม พลาสติกด้านบนช่วยยืดหยุ่น อะลูมิเนียมด้านล่างช่วยดูดซับเสียงสะท้อน โดยเฉพาะเสียงความถี่สูง เช่น ขณะขับในอุโมงค์หรือที่จอดรถใต้ดิน
  • เพลาลูกเบี้ยวแบบขนานพร้อมเฟืองพิเศษ ลดเสียงกระแทกของกลไกภายใน (Parallel Camshaft Coupling with Anti-Backlash Gears) เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้กับ NEW GWM TANK 300 DIESEL ใช้เพลาขนานและเฟืองที่ออกแบบพิเศษ (Anti-Backlash Gears) เพื่อลดเสียงและแรงกระแทกภายใน จึงทำให้เสียงกลไกขณะเร่งเครื่องนุ่มนวลขึ้นกว่าเครื่องยนต์ดีเซลแบบทั่วไป
  • เพลาสมดุลแบบใหม่ ติดตั้งด้านท้ายเครื่องยนต์เพื่อลดแรงสะเทือนจากการหมุน (Rear-End Gear Drive for Balance Shaft) เครื่องยนต์ดีเซลมักมีแรงสั่นสะเทือนจากการหมุนของเพลาข้อเหวี่ยง ซึ่งอาจส่งไปถึงพวงมาลัยหรือพื้นรถ GWM แก้ปัญหานี้ด้วยการติดตั้งเฟืองเพลาสมดุล (Balance Shaft) ไว้ด้านท้ายของเพลาข้อเหวี่ยง เพื่อควบคุมแรงสั่นให้สมดุลมากที่สุด ทำให้พวงมาลัยนิ่งและจับถนัดมือมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเกร็งมือหรือขยับมือบ่อย ๆ
  • การออกแบบให้หลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือนร่วมกันของชิ้นส่วน (Component Modal Frequency Avoidance) NEW GWM TANK 300 DIESEL มีการออกแบบชิ้นส่วนเครื่องยนต์ให้หลีกเลี่ยงความถี่สั่นสะเทือนซ้ำซ้อน ชิ้นส่วนอย่างเสื้อสูบ ฝาสูบ และข้อเหวี่ยงได้รับการออกแบบให้มีค่าความถี่ที่ต่างกัน เพื่อลดโอกาสการเกิดเสียงหรือแรงสั่นสะเทือนที่เสริมกันจนเกิดเป็นเสียงรบกวนในห้องโดยสาร เมื่อขับทางไกลต่อเนื่องเป็นชั่วโมง เสียงเครื่องยนต์จะคงที่ ไม่เกิดเสียงสั่นให้รู้สึกรำคาญหรือเวียนหัวได้
  • ปั๊มน้ำมันเครื่องแบบขับเคลื่อนด้วยโซ่ภายใน (Internal Chain-Driven Oil Pump) ใน NEW GWM TANK 300 DIESEL ระบบขับปั๊มน้ำมันเครื่องถูกออกแบบให้ใช้โซ่ภายในเครื่องยนต์แทนสายพาน และติดตั้งไว้ด้านล่างโดยจุ่มอยู่ในน้ำมันเครื่อง ทำให้ลดเสียงแหลมคล้ายเสียงนกหวีดที่มักได้ยินในห้องโดยสาร เมื่อเปิดกระจกขณะขับผ่านซอยเงียบ ๆ หรือจอดคุยกับเพื่อนบ้าน จะไม่รู้สึกถูกรบกวนจากเสียงเครื่องยนต์ ทำให้บรรยากาศภายในรถยังคงเงียบ สบาย

 

นอกจากนี้ GWM ยังลงทุนกว่า 150 ล้านบาทในประเทศจีน เพื่อสร้างห้องทดสอบเสียงแบบ 4 ล้อ และห้องกึ่งไร้เสียงสะท้อน (Half-Anechoic Chambers) รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลของ GWM ได้ผ่านการทดสอบ NVH อย่างครอบคลุมกว่า 10 รายการ ทั้งในระดับชิ้นส่วนและทั้งคัน การใช้ห้องทดสอบนี้ทำให้สามารถตรวจสอบความเงียบได้แบบรอบด้าน และทำให้ระดับความเงียบของรุ่นดีเซลใกล้เคียงกับรถเครื่องยนต์เบนซิน เมื่อนั่งอยู่ภายใน NEW GWM TANK 300 DIESEL แม้จะวิ่งด้วยความเร็วถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ยังรู้สึกได้ถึงความสงบ ราวกับมีเพื่อนร่วมทางที่เงียบขรึมและสุขุม ขณะจอดนิ่งและเครื่องยังทำงาน ระดับเสียงอยู่ที่เพียง 41 เดซิเบล ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์เบนซินที่ขึ้นชื่อเรื่องความเงียบ ถือเป็นการผสานระหว่างพลังแรงและความเงียบ ได้แบบสมดุล เพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับความเงียบได้ดียิ่งขึ้น NEW GWM TANK 300 DIESEL ยังมีระบบดรัมทดสอบเสียงรบกวนสำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำหน้าที่เสมือนโค้ชที่เข้มงวด คอยจำลองสภาพถนนสุดขั้วต่าง ๆ อย่างแม่นยำ ขณะที่อุปกรณ์วิเคราะห์เสียงของ GWM ก็เปรียบเสมือนวิศวกรเสียงระดับมืออาชีพ คอยจับคลื่นเสียงเล็กที่สุดในแต่ละพื้นผิวถนนและความเร็ว เพื่อปรับแต่งเสียงของตัวรถให้ลงตัวที่สุด ทำให้ NEW GWM TANK 300 ไม่เพียงทรงพลัง แต่ยังเงียบสงบเกินคาด

รวมข่าวในหมวดเดียวกัน