- ภายในดีไซน์ใหม่! เรียบหรูดูดีด้วยแดชบอร์ดทรงเดียวกับเทอร่าเสริมความพรีเมียม สะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานพร้อมสำหรับทุกการเดินทาง
- ขุมพลังผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 5 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงสมรรถนะและการตอบสนองพอเพียงทุกการขับขี่
- คุ้มค่ากับอรรถประโยชน์ทั้งด้านสมรรถนะและการใช้งานอเนกประสงค์
ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ทดสอบสมรรถนะของ นิสสัน นาวารา รุ่นปรับปรุงล่าสุด MY2024 ที่มาพร้อมกับดีไซน์ภายในใหม่ขับเน้นความเป็นปิคอัพสปอร์ตพรีเมียม พร้อมฟั่งก์ชั่นเสริมความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น สิ่งที่เราต้องหาคำตอบคือ ในเมื่ออัพสไตล์ให้โดดเด่น พร้อมฟิเจอร์ตอบสนองการใช้งานตามวิถีชีวิตยุคดิจิตอลได้มากยิ่งขึ้น นาวารา ยังคงมีความสามารถด้านสมรรถนะ และสานต่อความทนทานจากสายพันธุ์กระบะของนิสสันดั่งเช่นทุกเจนที่ผ่านมาหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อนาวารา โฉมปรับปรุงใหม่ล่าสุดมากับคำนิยาม “ทน พร้อม ลุย” ไปกับทุกสถานการณ์ และยังให้ความมั่นใจกับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง
นาวารา ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ภายนอกคมเข้ม เร้าใจ สะท้อนความแข็งแกร่ง ดึงดูดทุกสายตา ตั้งแต่ด้านหน้าที่ดูดุดันแฝงความทันสมัย ตลอดไปจนเส้นสายของตัวถังด้านข้าง และด้านท้ายรถเฉียบคมตามหลักอากาศพลศาสตร์ สื่อถึงจุดเด่นของนาวาราที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง และในทุกสภาพการขับขี่เท่าที่รถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อมาตรฐานจากโรงงานพึ่งจะไปได้ กระจังหน้าแบบอินเทอร์ล็อค ไฟหน้า Quad-Eye LED พร้อมไฟ Daytime Running Light และไฟท้าย LED แบบ Guide light ที่ส่งเสริมให้ตัวรถโดดเด่นชัดเจน ซุ้มล้อขนาดใหญ่สไตล์รถออฟโรดแสดงความพร้อมที่จะลุยทุกสถานการณ์ ซึ่งดีไซน์ภายนอกของนิสสัน นาวารา รุ่นปี 2024 ในแต่ละรุ่นย่อย มีความแตกต่างกันไปตามบุคลิกแบะลักษณ์การใช้งาน อย่างเช่น PRO-4X และ PRO-2X มาพร้อมกระจังหน้าสีดำสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าแบบ Quad-Eye LED และไฟ DLR ล้ออัลลอยพร้อมยางแบบออลเทอเรน เสาอากาศแบบ shark fin อัพลุคทันสมัย ตัวถังยกสูงช่วยให้ผู้ขับขี่ลุยเส้นทางหลากหลายพร้อมเผชิญความท้าทายด้วยความมั่นใจยิ่งขึ้น
นิสสัน นาวารา รุ่นปี 2024 มีสีภายนอกให้เลือกแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ทั้งสีทองแดง Forged Copper สีแดง Burning Red สีดำ Black Star สีเทา Twilight Gray สีเงิน Brilliant Silver สีขาว White Pearl และ Solid White และคันที่เรานำมาลองขับเป็นสีเทา Stealth Gray ที่เป็นซิกเนเจอร์ของรุ่นอีกด้วย
นิสสัน นาวารา มาในลุคใหม่เท่สะดุดตากับแผงแดชบอร์ดสไตล์โมเดิร์น ที่ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศภายในของห้องโดยสารให้พรีเมี่ยมมากขึ้นด้วยการตกแต่งที่เหมาะเจาะลงตัว โมเดิร์นทุกมุมมอง พร้อมจอทัชสกรีนขนาด 9 นิ้ว ในรุ่น PRO-4X และ PRO-2X และมีการเพิ่มวัสดุบุนุ่มในหลายๆ จุดสัมผัส เช่น ที่พักแขน และแผงแดชบอร์ด การเพิ่มความสุนทรีย์ในการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญและมักถูกมองข้ามในรถกระบะ ทว่า นิสสัน นาวารา รุ่นปีล่าสุด ติดตั้งกระจกอคูสติก (Acoustic Glass) ที่กระจกบานหน้าและกระหน้าต่างคู่หน้า ซึ่งมีผลในการลดเสียงรบกวนจากภายนอกไม่ให้เข้ามากวนใจการฟังเพลงหรือสนทนาของผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้ทุกการเดินทางผ่อนคลายตลอดเส้นทาง
สำหรับในรุ่น PRO-Series ติดตั้งเบาะนั่งปรับระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับเบาะนั่งให้เหมาะได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว รวมทั้งยังเพิ่มบรรยากาศสไตล์สปอร์ตด้วยเบาะเดินเส้นด้วยสีส้ม ที่นั่งตอนหน้าแบบ Zero Gravity เริ่มตั้งแต่ในรุ่น คาลิเบอร์ ช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อขับทางไกล หุ้มเบาะด้วยวัสดุ Quole Modure ที่สะท้อน และไม่สะสมความร้อนแม้ต้องจอดรถท่ามกลางในที่แจ้ง เพิ่มความสบายทั้งในรุ่น คาลิเบอร์และ PRO-Series ที่นั่งตอนหลังยังได้ติดตั้งที่พักแขน และที่วางแก้วน้ำให้ความสะดวกสำหรับผู้โดยสารตอนหลังมากยิ่งขึ้น
เย็นสบายด้วยระบบแอร์อัตโนมัติพร้อมแยกระบบควบคุมอุณหภูมิในแต่ละที่นั่ง ให้ความสบาย ผู้โดยสารแต่ละคนทั้งตอนหน้า และหลังสามารถปรับอุณหภูมิได้อย่างที่ต้องการ และเพื่อสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ นิสสัน นาวารา ยังมาพร้อม NissanConnect ระบบอินโฟเทนเมนท์ที่พร้อมให้เข้าถึงสาระและความบันเทิง ด้วยการรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Wireless Apple CarPlay และเชื่อมต่อผ่านสาย USB สำหรับ Android Auto ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถใช้แอปพลิเคชันระบบนำทางผ่านระบบเครื่องเสียงได้สะดวกยิ่งขึ้น และยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียง พร้อมกันนี้ยังมีจุดชาร์จไฟหลายรูปแบบทั้งพอร์ท USB Type C และ Type A ทั้งด้านหน้าและหลังเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อ และสื่อสารได้อย่างต่อเนื่องขณะเดินทาง รวมทั้งยังมีช่องเก็บของหลายจุด ให้จัดเก็บของได้อย่างสะดวก ปลอดภัย สามารถหยิบใช้งานได้ง่าย อีกทั้งนิสสัน นาวารา ยังมาพร้อมกุญแจอัจฉริยะที่ใช้งานและควบคุมได้สะดวกง่ายดาย
เครื่องยนต์ทรงพลัง และสมรรถนะกลมกล่อม ภายใต้มาตรฐานไอเสียยูโร 5 นิสสัน นาวารา รุ่นปี 2024 วางเครื่องยนต์ใหม่ รหัส YS23DDTT ความจุ 2.3 ลิตร 4 สูบ ทวินเทอร์โบ พร้อมให้ความกระฉับกระเฉงมีพลังกับเส้นทางสุดท้าทายในการเดินทาง พร้อมมาตรฐานยูโร 5 (EURO V) ปล่อยไอเสียต่ำ พร้อมฟิลเตอร์ Diesel Particulate Filter (DPF) ช่วยกรองละอองเขม่าไอเสียอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อไฟ DPF โชว์ที่หน้าจอ ผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มให้ฟิลเตอร์ DPF ทำงาน เพื่อลดปริมาณเขม่าควันลง แต่ยังคงให้การตอบนองได้ทันอกทันใจ และประหยัดน้ำมันอย่างหน้าพอใจ ในระดับเฉลี่ย 13 – 14 กิโลเมตรต่อลิตร เครื่องยนต์บล๊อคนี้ให้พลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดกึ่งแมนนวล (M mode) เพื่อเพิ่มความสนุกสนการขับขี่ที่ควบคุมรอบเครื่องยนต์ได้ตามใจ ทั้งยังรองรับน้ำมันดีเซลทุกประเภท (B7, B10, และ B20)
นอกจากเครื่องยนต์ทรงพลัง นิสสัน นาวารา PRO-4X ยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ให้การขับขี่ในทุกเส้นทางอย่างมั่นใจ ระบบ Shift-On-The-Fly 4-Wheel Drive & ILO ที่ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เป็น 4 ล้อได้เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังมีการติดตั้งเทคโนโลยีที่เพิ่มความมั่นคงในการยึดเกาะถนนด้วยระบบ Brake-Limited Slip Differential (B-LSD) นอกจากความพร้อมลุย พร้อมกับรับการบรรทุกได้อย่างน่าประทับใจ นิสสัน นาวารา ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของความแข็งแกร่ง และการบรรทุกหนักด้วยโครงสร้างแชสซีทำจากเหล็กกล้า ให้ประโยชน์การใช้งาน และความสะดวกเต็มพิกัด
ปลอดภัยรอบคัน 360° Safety Shield นิสสันให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย นิสสัน นาวารา MY 2024 ยังคงมาพร้อมระบบความปลอดภัยรอบทิศทาง ด้วยกล้องรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) ที่มีกล้อง 4 ตัวที่แสดงภาพได้แบบเรียลไทม์ และมุมสูง ดูภาพเสมือนจริงได้ผ่านจอ 9 นิ้ว (เสียดายภาพไม่ชัดระดับคมกริบ) ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Moving Object Detection (MOD) ที่ตรวจจับวัตถุรอบตัวรถในช่วงความเร็วไม่เกิน 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากตรวจพบวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและภาพเพื่อเตือนผู้ขับขี่ทันที รวมทั้งยังสั่งให้ระบบออฟโรด และระบบชับเคลื่อนทุกล้อทำงาน นอกจากนี้ยังมี Parking Sonar พร้อมเซ็นเซอร์ที่กันชนหน้าและหลังที่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบวัตถุเคลื่อนไหวขณะที่กำลังจอด
รวมถึงเทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW) ที่จะส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด หากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า รวมถึงระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Braking – IEB) จะช่วยวิเคราะห์ความเร็วและระยะห่างจากคันหน้า พร้อมทั้งช่วยลดความเร็วและเบรกเพื่อลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นหากเกิดอุบัติเหตุ และไม่พลาดที่จะติดตั้งระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) จะส่งเสียงสัญญาณพร้อมไฟกระพริบที่กระจกมองข้างเตือนให้รู้ว่าขณะนั้นกำลังมีรถคันอื่นอยู่ในช่องทางขับขี่ด้านข้างซึ่งผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็น รวมถึงระบบป้องกันการชนจากจุดอับสายตา (Intelligent Blind Spot Intervention – IBSI) จะส่งแรงเบรกดึงรถกลับสู่ช่องทางอย่างนุ่มนวล สำหรับการถอยรถออกจากช่องจอด เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจึงมีระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) จะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกระพริบเตือน หากตรวจพบรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังทั้งซ้ายและขวา สัญญาณเตือนพร้อมไฟกระพริบที่กระจกมองข้างด้านเดียวกันกับที่มีรถกำลังเคลื่อนมา
พร้อมทั้งเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning: LDW) จะเตือนผู้ขับขี่หากระบบจับทิศทางได้ว่ารถกำลังเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ได้เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว และหากรถยังคงออกนอกเส้นทาง ทำงานควบคู่กับเทคโนโลยีช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทาง (Intelligent Lane Intervention – ILI) จะทำงานโดยส่งสัญญาณให้ระบบเบรกทำงานและส่งแรงเบรกเพื่อดึงรถกลับสู่ช่องทางให้ผู้ขับขี่รู้ตัว รวมถึงระบบเมื่อผู้ขับขี่ออกอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่หรือ Intelligent Driver Alertness (IDA) เมื่อรูปแบบการขับขี่เปลี่ยนไปโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและสัญลักษณ์ให้ผู้ขับทราบ
เทคโนโลยีเสริมความปลอดภัย นิสสัน นาวารา PRO-4X ติดตั้งถุงลมนิรภัย 7 จุด ปกป้องด้านด้านหน้า ด้านข้าง ม่านลมนิรภัย และบริเวณเข่า เพื่อลดความรุนแรงที่อาจเกิดจากการกระแทกเมื่อเกิดการชน พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ Pretensioner and Load Limiter (ELR) ที่จะปรับให้กระชับตัวตามขนาดตัวของผู้โดยสาร
ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Traction Control -TCS) เทคโนโลยีป้องกันล้อหมุนฟรี (Intelligent Stability Control System) และ เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control -VDC) ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อหมุนฟรีเมื่อขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น พร้อมทั้งช่วยปรับการทรงตัวของรถในกรณีที่ควบคุมยาก ระบบการช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist) และทางลาดชัน (Hill Descent Control – HDC) ช่วยให้การขับขี่บนเส้นทางที่ลาดชัน ขึ้นเขา หรือเส้นทางออฟโรดได้อย่างมั่นใจและอุ่นใจ โดยระบบจะทำงานเมื่อเหยียบเบรกค้างไว้ และไม่ดึงเบรกมือเพื่อหยุดรถบนเส้นทางที่มีความลาดชาน เมื่อยกเท้าออกจากแป้นเบรก ระบบจะหยุดรถชั่วขณะ เพื่อให้การออกตัวง่ายขึ้น และลดความเร็วเมื่อลงเนิน โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องเหยียบเบรกพร้อมระบบป้องกันล้อล็อค (ABS) และกระจายแรงเบรก (Electric Brake Force Distribution System – EBD) ระบบป้องกันการลื่นไถล (Brake Limited Slip Differential – B-LSD) รวมทั้งมีไฟเบรก LED จุดที่สามเพื่อเพิ่มความปลอดภัย มองเห็นได้ชัดเจนในระยะไกล
สรุป ถ้าผมจะเลือกใช้รถกระบะที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อซักครับ นิสสัน นาวารา PRO-4X เป็นตัวเลือกในระดับต้น ๆ ด้วยราคา ไม่ถึง 1.2 ล้าน กับคุณสมบัติครบครับรอบด้าน ใครยังไม่เคยสัมผัสลองหาโอกาสจับต้องลองดู แล้วคุณจะรู้ว่า รถกระบะนิสสันที่มีตำนานมายาวนานนำมาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เห็นและเป็นอยู่ในปัจจุบัน!
