ปลายเดือน สิงหาคม 2567 บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ชวน Carallstyle และเพื่อนๆ สื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะความแรงและประหยัดน้ำมันของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ไอคอนสปอร์ตพรีเมียมซีดานรุ่นปรับปรุงล่าสุดของฮอนด้า ตลอดเส้นทางกรุงเทพฯ สู่เชิงเขาใหญ่ รวมระยะทางไปกลับ กว่า 342 กิโลเมตร มาพร้อม 2 ทางเลือกของขุมพลังการขับเคลื่อน ทั้ง ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลังเทอร์โบเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ได้รับการปรับและใส่ไว้กับซีวิคทุกรุ่น โดย ฮอนด้า ซีวิค รุ่นปรับใหม่ แบ่งการทำตลาดเป็น 3 รุ่นย่อย เริ่มจากตัวท๊อป e:HEV RS รุ่นกลาง e:HEV EL+ และรุ่น EL+ VTEC TURBO ซึ่งทั้ง 3 เกรดราคาเกินอยู่ในระดับล้านต้นๆ
และซีวิคใหม่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยอื่นๆ ที่ครบครัน* ทั้งเซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS) อีกทั้งมีการปรับโฉมและเพิ่มเติมความคุ้มค่าในหลากหลายมิติ โดยเห็นได้ตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกที่ฮอนด้าอัปลุคความสปอร์ตพรีเมียมให้ซีวิคก้าวไปอีกขั้น ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพ พร้อมยกระดับสุนทรียภาพสำหรับทุกการเดินทาง ด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ ใหม่! ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ช่อง โดยแบ่งเป็น 2 ช่องด้านหน้า และ 2 ช่องด้านหลัง ในทุกรุ่นย่อย อีกทั้งฟังก์ชันเพื่อความสะดวกสบาย อาทิ ใหม่! ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง และ เบาะที่นั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 ในทุกรุ่นย่อยเช่นกัน
ตลอดเส้นทางการทดสอบสมรรถนะผมและคุณโก้ เกียรติสยาม เกิดทรัพย์ แห่ง DrivingPlace ได้สัมผัสกับความแรงเร้าใจ ที่มาพร้อมอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีแบบเหลือเชื่อของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร มอบความแรงเกินคาด ประหยัดมาก ซึ่งมีส่วนช่วยพาคุณไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมัน 1 ถัง** ( 40 ลิตร ในรุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS) พร้อมสัมผัสการทำงานของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่อง
โดยระบบจะเลือกโหมดการขับขี่อย่างเหมาะสมกับแต่ละสภาวะและขึ้นอยู่กับระดับของพลังไฟฟ้าในแบตเตอรี่ สภาพเส้นทาง และพฤติกรรมในการขับขี่ระหว่างโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่แบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) และ ฟังค์ชั่นใหม่! ใน Drive Mode นั้นคือโหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ที่เพิ่มเติมมาในรุ่น e:HEV เพื่อมอบการขับขี่ที่โดนใจสไตล์คุณ หรือสมัยนี้จะเรียกว่าเอาที่สบายใจก็น่าจะได้ โดยสามารถเจาะจงเลือกการตอบสนอง Normal หรือ Sport ของพวงมาลัย ชุดขับเคลื่อน และเสียงของท่อไอเสียที่เมื่ออยู่ในโหมดสปอร์ตชั่งเร้าใจเหลือเกิดทั้ง ๆ ที่เป็นเสียงสังเคราะห์ผ่านลำโพง
นอกจากนี้ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ รุ่น EL+ VTEC TURBO ยังมาพร้อมอีกหนึ่งทางเลือกขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายในล้วน ๆ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร VTEC TURBO มอบกำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบต่อนาที และอัตราการประหยัดน้ำมัน 17.2 กิโลเมตร/ลิตร เหมาะกับวัยรุ่นที่รักการขับขี่สไตล์สปอร์ตเน้นความเร้าใจกับการทำงานของเครื่องยนต์และยังรวมถึงวัยเก๋าที่หัวใจไม่ยอมแพ้อยากหารถสปอร์ตซีดานไว้ขับให้สะใจสักคัน โดยที่ไม่มีอะไรต้องดูแลมากมาย ซึ่งผมเชื่อว่าอีกหน่อยคงหาได้ยากมาก ๆ แล้ว
อีกทั้งได้ทดลองใช้งานเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ครั้งนี้มีการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานใหม่ให้สามารถตรวจจับรถยนต์ จักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน ผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น บนเส้นทางจริง โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้า
ที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยอื่นๆ อาทิ ใหม่! เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และหลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS) ที่มีทั้งสัญลักษณ์แสดงระยะบนหน้าจอกลางและด้านซ้ายของจอ TFT ตรงหน้าคนขับ พร้อมเสียงสัญญาณตามระยะใกล้ไกล
ดีไซน์ภายนอก ได้มีการอัปลุคให้สปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น มาพร้อม ใหม่! กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ใหม่! ไฟท้าย LED รมดำ ใหม่! โดยเฟี๊ยวฟ๊าวสุดในรุ่นท๊อป e:HEV RS มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สี Matte Black ดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ต ซึ่งคราวนี้ผมและคุณโก้ ได้ลองในเกรดกลาง รุ่น EL+ ซึ่งแม้ภายนอกภายในรถจะดูไม่คมเข้มเท่าตัว RS ทว่าการที่ตัว e:HEV EL+ ใช้ขนาดล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว กับยาง 215/50 R 15 พร้อมกับการปรับจูนช่วงล่างให้เหมาะกับขนาดล้อยางของแต่ละรุ่น ส่งผลให้การขับขี่มีความนุ่มนาลกว่าอย่างรู้สึกได้ ภายในห้องโดยสารกว้างขวางเพียงพอสำหรับ 5 ที่นั่ง มาพร้อมฟังก์ชันเพื่อความสะดวกสบายที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เบาะที่นั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 และช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง ในทุกรุ่นย่อย อีกทั้งเทคโนโลยีเพื่อการเชื่อมต่อล้ำสมัยครบครัน* อาทิ ใหม่! ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) ใหม่! Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว ใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ช่อง โดยแบ่งเป็น 2 ช่องด้านหน้า และ 2 ช่องด้านหลัง ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto(TM) แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto และ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ในทุกรุ่นย่อย เป็นต้น
สรุปว่า การปรับปรุงครั้งล่าสุดของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ นับว่ามาได้ถูกที่ถูกเวลา แต่ละจุดที่ปรับเปลี่ยนทำให้รถมีความร่วมสมัย เหมาะกับวันเวลาที่ไม่หยุดนิ่ง โดยฮอนด้าสามารถขับเน้นซีวิคให้เฉิดฉายและอยู่ยั่งยืนยงต่อไปด้วยดีไซน์ คุณภาพของวัสดุ และชุดขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง รวมถึงระบบปฏิบัติการต่างๆ พร้อมพรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยี และทั้งหมดนี้ล้วนทำให้ ฮอนด้า ซีวิค รุ่นปรับปรุงใหม่ เหมาะสมกับคำว่า ไอคอนสปอร์ตพรีเมียมซีดาน
ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย
- รุ่น e:HEV RS ราคา 1,239,000 บาท
- รุ่น e:HEV EL+ ราคา 1,099,000 บาท
- รุ่น EL+ ราคา 1,039,000 บาท
สีภายนอกที่มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ ใหม่! สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) (Canyon River Blue Metallic) (เฉพาะรุ่น EL+ และ e:HEV EL+) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (Ignite Red Metallic) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) สีขาวแพลทินัม (มุก) (Platinum White Pearl) สีดำคริสตัล (มุก) (Crystal Black Pearl) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) (Meteoroid Gray Metallic) และสีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) (Lunar Silver Metallic)
และข้อเสนอพิเศษให้คุณเป็นเจ้าของ “ฮอนด้า ซีวิค ใหม่” ได้ง่ายยิ่งขึ้น เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 – 30 พฤศจิกายน 2567 ได้แก่
- ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0.99%*** พร้อมรับ ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์*** ได้แก่ ฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ฟรีฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พิเศษ เฉพาะรุ่น e:HEV เท่านั้น เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- สำหรับเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) รับดอกเบี้ยพิเศษ ลดลงอีก 0.30% เหลือดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 0.69%***
- หรือเลือกรับ ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส (Double Smile Plus) ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ ค่างวดเริ่มต้น 11,221 บาท*** (คำนวณจาก ซีวิค ใหม่ เกรด EL+ เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 5 ปี) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%
- และพิเศษกับ แคมเปญ “Honda Happy Trade-in” เมื่อนำรถฮอนด้าคันเก่ามาขายและออกรถ ซีวิค ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ รับบัตรน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท*** หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขาย และออกรถ ซีวิค ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ รับบัตรน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท***
ผู้สนใจสามารถสัมผัส ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ โดยสามารถสอบถามข้อมูลจากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชตกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดทาง www.honda.co.th/civic
หมายเหตุ:
- สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**ตัวเลขระยะทางที่แสดงข้างต้น อ้างอิงและไม่เกินจากการคำนวณตาม Eco Sticker (ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล)
***เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ