คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

ข่าวสารยานยนต์

เอ็มจี เปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ มาตรฐานไฮบริดยุคใหม่ ในราคาพิเศษเริ่มต้น 559,900 บาท

 

  • ALL NEW MG3 HYBRID+ ยนตรกรรมไฮบริดรุ่นล่าสุดของ เอ็มจี สะท้อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้รถในราคาที่เข้าถึงได้
  • ประหยัดกว่าและแรงกว่า ด้วยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน 26.2 Km/L
  • ขับสนุกกว่า ฉลาดกว่า ปลอดภัยกว่า เทคโนโลยีไฮบริดใหม่ ด้วยมาตรฐาน Global Model
  • กว้างกว่า พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังที่จุได้ถึง 293 ลิตร และขยายได้สูงสุดถึง 1,037 ลิตร พร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย

 

20 สิงหาคม 2567 บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย จุดประกายตลาดรถยนต์ไทยครึ่งปีหลังด้วยการเปิดตัว พร้อมกันทุกภูมิภาคเป็นครั้งแรก กับรถรุ่นล่าสุด ALL NEW MG3 HYBRID+ เพื่อบุกตลาด B-Segment พร้อมสร้างจุดเปลี่ยนให้กับวงการไฮบริด ในฐานะรถยนต์ไฮบริดที่มีสมรรถนะสูงภายใต้คอนเซ็ปต์ “อิสระพลัสเวล” ยนตรกรรมที่พลัสมาให้ครบ แรง ขับสนุก ประหยัดเหนือชั้น ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีไฮบริดอัจฉริยะ อีกระดับของประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ในราคาครอบครองได้ง่าย พร้อมสัมผัสตัวจริงและทดลองขับได้ที่งาน BIG MOTOR SALE 2024 และ โชว์รูม เอ็มจี กว่า 150 แห่งทั่วประเทศ  

ALL NEW MG3 HYBRID+ มีความโดดเด่นด้วยระบบ HYBRID+ ที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดจาก SAIC MOTOR เพื่อพัฒนายนตรกรรมที่มาพร้อมสมรรถนะและความประหยัดที่เหนือชั้น โดยระบบ HYBRID+ เป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า ทำงานร่วมกันเพื่อให้ประสิทธิภาพสูงในทุกสภาวะการขับขี่ อีกทั้งรถรุ่นนี้ยังถือเป็น Global Model ที่พัฒนาและปรับจูนทุกระบบโดยทีมวิศวกรระดับโลก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานจริงบนถนนทั่วโลก โดยผ่านการทดสอบในทุกสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ รวมถึงวิ่งทดสอบในสถานการณ์ที่หลากหลาย สำหรับในประเทศไทย ALL NEW MG3 HYBRID+ มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “อิสระพลัสเวล” นำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่ครบครัน ทั้งความประหยัด ความสนุกเร้าใจ เป็นการยกระดับระบบการทำงานของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้มีการทำงานที่อิสระ ครอบคลุมโหมดการขับเคลื่อนที่หลากหลาย มอบความคล่องตัวให้ความรู้สึกเสมือนขับรถไฟฟ้าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถยนต์ในกลุ่ม City Car ที่มาพร้อมฟังก์ชันครบครัน พรัอมสมรรถนะ และเทคโนโลยีที่โดดเด่นในระดับราคาที่เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก

การเปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอยานยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นการย้ำถึงวิสัยทัศน์ของ เอ็มจี ในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในวงการยานยนต์ไทย ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ความคุ้มค่า และการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ จึงไม่เพียงแต่เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่มองหายานพาหนะที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของ เอ็มจี ในการก้าวสู่อนาคตแห่งการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน

นายซู๋ว์ หยิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นอกจาก ALL NEW MG3 HYBRID+ จะเป็น The Best-in-Class ใน B-Segment ด้วยการยกระดับผลิตภัณฑ์ในหลายๆ ด้านแล้วนั้น ครั้งนี้ เอ็มจี ยังได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ แตกต่างจากการเปิดตัวรถยนต์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้สนใจลงทะเบียนทดลองขับรถรุ่นใหม่นี้ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 4 ภาคทั่วไทย เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสสมรรถนะของ ALL NEW MG3 HYBRID+ รวมไปถึงการทดสอบขับจริงบนท้องถนน ผ่านกิจกรรมขับทางไกล “กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ด้วยน้ำมันถังเดียว” ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถเมื่อขับขี่บนถนนจริง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร ต่อน้ำมันหนึ่งถัง ทั้งนี้ เพื่อยืนยันความเชื่อมั่นและพิสูจน์คุณภาพของรถ เอ็มจี ในทุกการเดินทาง และยังเป็นครั้งแรกที่ เอ็มจี ได้ทำการเปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ พร้อมกันในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ (Nationwide launch) โดยมีกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดขึ้นที่ สยามสแควร์วัน

นอกจากนี้ ในภูมิภาคต่างๆ ได้มีการจัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในย่านสำคัญของแต่ละพื้นที่ อาทิ ภาคเหนือ ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราช และภาคใต้ ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ โดยในทุกสถานที่จะมีกิจกรรมพิเศษต่อเนื่องจากการเปิดตัว เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาได้สัมผัสประสบการณ์อย่างใกล้ชิด โดย เอ็มจี พร้อมให้ผู้ที่สนใจสามารถจองและทดลองขับได้ที่ งาน BIG MOTOR SALE 2024 และศูนย์บริการของ เอ็มจี 150 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ปลายเดือนนี้ เป็นต้นไป”

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ALL NEW MG3 HYBRID+

โกลบอลโมเดลรุ่นล่าสุด กับเทคโนโลยีไฮบริดรุ่นใหม่

“ประหยัดกว่า แรงกว่า กว้างกว่า ปลอดภัยกว่า รถไฮบริดในกลุ่ม B-Segment”

ALL NEW MG3 HYBRID+ รถแฮทช์แบ็กไฮบริด 5 ประตู โกลบอลโมเดลรุ่นล่าสุดของ เอ็มจี จากสายการผลิตในประเทศไทย รถในกลุ่ม B-Segment มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “อิสระพลัสเวล” สะท้อนถึงการผสานความลงตัวระหว่างการขับสนุกเต็มสมรรถนะและความประหยัดเต็มประสิทธิภาพ ที่พลัสมาอย่างครอบคลุมทุกระบบการขับเคลื่อนโดดเด่นด้วยระบบ HYBRID+ เทคโนโลยีใหม่จาก เอ็มจี ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ผสานความลงตัวของทุกระบบไฮบริด สู่นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนทุกความคุ้นชินของรถไฮบริดในรูปแบบเดิมๆ ด้วยขุมพลังไฮบริดมากถึง 8 โหมดขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของผู้ขับขี่ สามารถขับได้ไกลสูงสุดมากกว่า 800 กิโลเมตร  ประหยัดกว่า!!! ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 26.2 กิโลเมตรต่อลิตร แตกต่างด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุม มอบความคุ้มค่า และการันตีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมด้วยรางวัล และผลการทดสอบโดยทีมวิศวกรรมชั้นนำระดับโลก

GLOBAL EXTERIOR DESIGN สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว คล่องตัว

ALL NEW MG3 HYBRID+ โดดเด่นเหนือใครด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ผสานระหว่างความสปอร์ตและความหรูหราได้อย่างลงตัว ปราดเปรียว และคล่องตัวในสไตล์รถแอทช์แบ็ก มาพร้อมความเท่ และดุดันด้วยการดีไซน์ไฟหน้าแบบใหม่ Hunter Eye Headlamp หรือ ดวงตานักล่า ที่ดูโฉบเฉี่ยว พร้อมกระจังหน้าแบบใหม่ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากปีกผีเสื้อ สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว เส้นสายการออกแบบรอบตัวถังเน้นความโค้งมนตามแบบฉบับของ เอ็มจี

  • มิติตัวถัง​ 4,113 x 1,797 x 1,502 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
  • ระยะความยาวฐานล้อ 2,570 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร
  • ไฟหน้า แบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่สาม
  • ไฟตัดหมอกหลัง
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และพับอัตโนมัติ
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมใบปัดน้ำฝนด้านหลัง
  • ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว

 

INTERIOR DESIGN: ภายในสปอร์ตอย่างมีสไตล์ สะดวกสบาย ครบจบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน

ภายในห้องโดยสารสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้ Modular Concept ที่ให้ความสำคัญกับ วัสดุที่มีคุณภาพ พร้อมการออกแบบคอนโซลที่เล่นระดับให้มีมิติ เพิ่มความหรูหราด้วยภายในแบบทูโทนขาวสลับดำ เน้นความสะดวกในการใช้สอย สำหรับทั้งคนขับและผู้โดยสาร ทั้งเพิ่มอรรถประโยชน์ในการใช้งาน โดยเฉพาะการออกแบบห้องโดยสารที่โดดเด่นในเรื่องของพื้นที่เหนือศีรษะ (Head room) และพื้นที่วางขา (Leg room) ที่ไม่อึดอัดโดย ALL NEW MG3 HYBRID+ ถือเป็นรถที่กว้างที่สุดในคลาสเดียวกัน โดยเฉพาะห้องสัมภาระท้ายจุได้มากถึง 293 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,037 ลิตร

 

  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
  • กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down ด้านผู้ขับขี่
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi – Function Display) และหน้าจอสี
    ระบบสัมผัสขนาด 25 นิ้ว
  • ลำโพง 6 จุด
  • ช่องใส่ของภายในห้องโดยสาร 25 จุด
  • เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
  • ที่พักแขนด้านหน้า และเบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย
  • ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start
  • ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
  • ระบบกรองอากาศ PM 5

 

PERFORMANCE: ขับสนุกเหมือนรถไฟฟ้า เร็วกว่าเพราะไม่ต้องรอชาร์จไฟ สมรรถนะและประสิทธิภาพที่เหนือกว่ารถไฮบริดทั่วไปใน B-Segment

ALL NEW MG3 HYBRID+ ซึ่งให้กำลังมากที่สุดในคลาสเดียวกัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (75 กิโลวัตต์) ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 136 แรงม้า(100 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร แรงสุดในกลุ่ม B-Segment สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที และอัตราเร่ง 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 5 วินาที ผลลัพธ์จากเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ของ เอ็มจี อย่างระบบ HYBRID+ กับ 8 โหมดขับเคลื่อนที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร และ ขับสนุกที่สุดในคลาส    

  • การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว DVVT 102 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ High-performance Permanent Magnet Synchronous Motors กำลังสูงสุด 136 แรงม้า
    ให้ขุมพลังรวมสูงสุดถึง 194 แรงม้า (143 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร บิดส แรงม้า ละดีที่สุดของ าพ
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ ในรูปแบบ Cell-To-Pack ความจุ 1.83 kWh ซึ่งมีความจุมากที่สุด
    ในรถขนาดเดียวกัน
  • โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT
  • ระบบส่งกำลัง Hybrid Transmission ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ไฟฟ้าแบบ E-AT 3 อัตราทดเกียร์ ปรับการทำงานแบบอัตโนมัติ
  • ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย
  • รัศมีวงเลี้ยว 2 เมตร
  • ระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
  • ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam
  • ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง

 

SAFETY: มอบความปลอดภัยเหนือระดับทุกการเดินทาง

ALL NEW MG3 HYBRID+ มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame) พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ซึ่งรวมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) หรือระบบอำนวยความสะดวกช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 8 ระบบ พร้อมระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Brake System)

  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) โดยผสานรวมระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
  • ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ UDW (Unsteady Driving Warning)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ICA (Intelligent Cruise Assist)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
  • กล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
  • ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
  • สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
  • ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
  • ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)

 

ALL NEW MG3 HYBRID+ นิยามใหม่ของรถไฮบริด ที่สุดใน B-Segment มาพร้อมกับความคุ้มค่ามากที่สุดมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น D และ รุ่น X โดยมีสีตัวถังให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีแดง (Scarlet Red) สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีเทา (Metal Ash Grey) จับคู่กับเบาะสีดำ ในรุ่น D ทั้งยังมีสีให้เลือกเพิ่มเติม คือ สีฟ้า (ST. Moritz Blue) และ สีเหลือง (Pastel Yellow) จับคู่กับเบาะสีทูโทน ในรุ่น X

ราคาจำหน่าย: ALL NEW MG3 HYBRID+

·     ALL NEW MG3 HYBRID+ รุ่น X

 

·     ALL NEW MG3 HYBRID+ รุ่น D

 

          619,900                  599,900

 

          579,900                  559,900

 

 

 

ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ ALL NEW MG3 HYBRID+

  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. 1 ปี
  • รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
  • พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • ดาวน์ต่ำเริ่มต้น 5% หรือ 27,950 บาท
  • ผ่อนเริ่มต้น 6,291 บาท คำนวณจากราคาพิเศษเปิดตัวของรุ่นย่อย D ดาวน์ 25% ระยะเวลาผ่อน 84 เดือน อัตราดอกเบี้ย 69%
  • เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 2.39% ผ่อนนาน 48 เดือน หรือเลือกรับดอกเบี้ยปกติ ดาวน์ต่ำเริ่มต้น 5%
  • ฟรี ชุดพรมปูพื้น

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

รวมข่าวในหมวดเดียวกัน