คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

ข่าวสารยานยนต์

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยด้านมืด Bentayga S เปิดตัว Black Edition ใหม่ กับการใช้โลโก้เบนท์ลีย์สีดำเป็นครั้งแรก

  • Bentayga S Black Edition กับการใช้โลโก้เบนท์ลีย์เฉดสีดำเป็นครั้งแรกในรอบ 105 ปี
  • S Black Edition อัครยนตรกรรมเอสยูวีที่โดดเด่นที่สุดในปัจจุบันของเบนท์ลีย์
  • การผสมผสานที่เน้นสีสันที่สดใสและรายละเอียดเฉดสีดำเข้มเข้ากับการออกแบบภายนอกและภายในห้องโดยสารที่ลงตัว
  • ตัวเลือกการรังสรรค์ด้วยการเน้น 7 เฉดสีที่สดใส
  • S Black Edition มากับแชสซีที่จะมอบความคล่องตัว พร้อมระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ และระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตเพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น
  • เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร มอบพละกำลังกว่า 550 แรงม้าด้วยแรงบิด 770 นิวตันเมตร
  • อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ใน 4.5 วินาทีกับความเร็วสูงสุด 290 กม./ชม.
  • การตกแต่งที่มาพร้อมกับไฟหน้าสีเข้ม โลโก้ Black Edition ล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้ว และท่อไอเสียแบบสปอร์ตรุ่น V8 สะท้อนสมรรถนะอันเหนือชั้น
  • S Black Edition มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์แบบไฮบริด เจ้าของขุมพลัง 456 แรงม้า

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เปิดตัว Bentayga S Black Edition อัครยนตรกรรมเอสยูวีที่โดดเด่นที่สุดกับการตกแต่งด้วยโลโก้เบนท์ลีย์ในเฉดสีดำเป็นครั้งแรกในรอบ 105 ปี Bentayga S Black Edition ยังมาพร้อมกับสีสันของชุดแต่งรอบคันที่ดูสดใส รายละเอียดสีดำที่ดูดุดัน และเทคโนโลยีแชสซีที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ พร้อมเผยด้านมืดของอัครยนตรกรรมแบบอเนกประสงค์รุ่นพิเศษนี้ โดยสามารถเลือกเฉดสีเฉพาะได้ถึง 7 สี ได้แก่ เฉดสีส้ม Mandarin, เฉดสีเหลือง Signal Yellow, เฉดสีน้ำเงิน Klein Blue, เฉดสีแดง Pillar Box Red, เฉดสีเงิน Ice, เฉดสีเขียว Hyper Green และ เฉดสีดำ Beluga โดยแต่ละเฉดสีได้นำเสนอการออกแบบที่สะดุดตาแต่ยังคงเข้ากับการออกออกทั้งภายในและภายนอก พร้อมมอบความคอนทราสต์ให้กับการใช้สีดำบนตัวถังรถ

การตกแต่งภายนอกมีการเน้นการใช้รูปแบบของแถบเลเซอร์กับชุดแต่ง Styling Specification รอบคันบริเวณกันชนหน้าด้านล่างและด้านข้าง พาดผ่านด้านบนของสปอยเลอร์หลัง คาลิเปอร์เบรกยังได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อให้เข้ากันกับชุดแต่งรอบคัน พร้อมเพิ่มความโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยด์เฉดสีดำขนาด 22 นิ้ว และการตกแต่งด้วยอุปกรณ์เฉดสีดำ-เงารอบคันตามแบบฉบับของรุ่น Bentayga S โดย รุ่น S Black Edition ถือเป็นรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ 105 ปีของเบนท์ลีย์ มอเตอร์สที่ได้นำเอาโลโก้เบนท์ลีย์หรือ Bentley Wings และตัวอักษรคำว่าเบนท์ลีย์ในเฉดสีดำ-เงามาใช้ในการตกแต่ง พร้อมการตกแต่งด้วยโลโก้ ‘Black Edition’ บริเวณเสา D ด้านหลัง

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตัวเลือกคุณสมบัติใหม่ได้ทำให้รุ่น Bentayga เป็นที่นิยมมากขึ้น ซึ่งสำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของ Black Edition ยังคงความสดใสด้วยตัวเลือกการตกแต่งเฉพาะบุคคลที่มาพร้อมกับเฉดสีชุดแต่งรอบคันแบบซาตินใหม่ 7 เฉดสี พร้อมด้วยเฉดสีตัวถังใหม่ และตัวเลือกล้ออัลลอยด์ขนาด 21 นิ้ว 3 แบบใหม่ นอกจากนี้ Black Edition ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยเทคโนโลยีแชสซีใหม่ ระบบไฟฟ้าใหม่ และคุณสมบัติใหม่ที่เพิ่มขึ้นรวมถึงกระจังหน้าโฉมใหม่ โดยระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อที่เคยเปิดตัวในรุ่น Bentayga Extended Wheelbase และได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและความคล่องตัว ในขณะเดียวกันยังสามารถลดวงเลี้ยวลงได้อีกเกือบ 1 เมตรก็ได้รวมอยู่ในคุณสมบัติมาตรฐานของรุ่น Bentayga ‘Azure’ และรุ่น Bentayga ‘S’ V8

สำหรับ Bentayga S Black Edition ใหม่ ทีมออกแบบของเบนท์ลีย์ยังได้รังสรรค์รูปแบบเฉดสีภายในที่เป็นเอกลักษณ์ โดยนำเอาความแตกต่างที่สมบูรณ์แบบระหว่างหนังเฉดสีดำ Beluga และการเน้นเฉดสีที่สดใสเข้ามาไว้ด้วยกัน ซึ่งการเน้นเฉดสีที่โดดเด่นภายนอกตัวรถได้ถูกถ่ายทอดสู่ห้องโดยสารที่รังสรรค์ขึ้นผ่านงานฝีมือ โดยมีการเย็บและตกแต่งหนังแบบคอนทราสต์ พร้อมด้วยการปักโลโก้รูปตัว ‘S’ สีดำบริเวณเบาะโดยสาร

ลวดลายการถักทอบนวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบใหม่มีการนำมาตกแต่งสำหรับแผงหน้าปัด คอนโซลกลาง และข้างห้องโดยสาร โดยลวดลายการทอช่วยเพิ่มมิติความลึกของภาพ 3 มิติให้กับแผงหน้าปัด ทำให้เกิดฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับโลโก้ Black Edition ที่ตกแต่งไว้ใต้พื้นผิวเคลือบแล็คเกอร์เพื่อความเรียบเนียน

ชุดแต่งแบบ Dark Chrome Pack ใหม่ได้นำมาเป็นชุดแต่งแบบมาตรฐานที่จะรังสรรค์รายละเอียดของโลหะภายใน อาทิ ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ และช่องแอร์บริเวณตรงกลางและด้านข้างให้เป็นเฉดสีดำ-เงา

ด้านระบบความบันเทิงภายในห้องโดยสาร Bentayga S Black Edition มาพร้อมตัวเลือกระบบเสียง 3 แบบที่เริ่มต้นด้วย Bentley Signature Audio และ Bang & Olufsen for Bentley ที่จะยกระดับคุณภาพเสียงขึ้นไปอีกขั้น พร้อมการตกแต่งด้วยตะแกรงลำโพงเรืองแสงที่สวยงาม และตัวเลือกระบบเสียง Naim for Bentley ที่จะมอบคุณภาพเสียงขั้นสุดยอดให้กับอัครยนตรกรรมรุ่นนี้

Bentayga S Black Edition คือ เจ้าของขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V8 เทอร์โบชาร์จคู่ ขนาด 4.0 ลิตรอันโด่งดังของเบนท์ลีย์ พร้อมผสมผสานพละกำลังอันมหาศาลเข้ากับประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องยนต์รุ่นล่าสุดมอบพละกำลังกว่า 550 แรงม้าจากแรงบิด 770 นิวตันเมตร โดยมีอัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 4.5 วินาทีกับความเร็วสูงสุด 290 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง สำหรับในการเดินทาง 654 กิโลเมตร Bentayga S Black Edition มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่เพียง 296 กรัม ต่อ กิโลเมตรเท่านั้น

สำหรับรุ่น S Hybrid Black Edition มาพร้อมกับพละกำลัง 462 แรงม้าจากเครื่องยนต์เบนซิน TFSI V6 ขนาด 3.0 ลิตรที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 100 กิโลวัตต์ มอบอัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ภายในระยะเวลา 5.3 วินาทีด้วยความเร็วสูงสุด 254 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง

รุ่น S Black Edition ยังได้รับการพัฒนาในโหมดการขับขี่แต่ละโหมดด้วยระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อที่จะทำงานร่วมกับระบบ Bentley Dynamic Ride โดยใช้การล็อคการบังคับเลี้ยวล้อหลังสูงสุด +/- 4.8 องศา

Bentley Dynamic Ride ที่ได้รับการติดตั้งเป็นคุณสมบัติมาตรฐานถือเป็นเทคโนโลยีระบบควบคุมการเข้าโค้งแบบแอคทีฟด้วยไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์ตัวแรกของโลก โดยระบบสามารถตอบสนองภายใน 0.3 วินาทีด้วยแรงบิดสูงสุด 1,300 นิวตันเมตรเพื่อต้านแรงหมุนด้านข้างในขณะเข้าโค้ง ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ถึงการสัมผัสของยางบนพื้นถนน มอบเสถียรภาพภายในห้องโดยสาร ความสะดวกสบายในการขับขี่ และการควบคุมที่ยอดเยี่ยม

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050

BLACK BENTLEY WINGS IDENTIFY S BLACK EDITION – THE DARKER SIDE OF BENTAYGA

  • First application of black-tinted wings to a Bentley in 105 years
  • S Black Edition is the most striking Bentley SUV to date
  • Combines vivid colour accents and rich black detailing to the exterior design and interior cabin
  • Seven accent colour specifications available
  • S Black Edition features Bentayga’s most agile chassis, with all-wheel steering and sports suspension calibration for greater dynamic ability
  • 0-litre twin-turbo V8 develops 542 bhp (550 PS), 568 lb.ft. (770 Nm)
  • 0-60 mph (0–100 km/h) in 4.4 (4.5) secs, top speed 180 mph (290 km/h)
  • Dark tint headlamps, Black Edition badging, 22-inch wheels and V8 split sports exhaust signify performance potential
  • S Black Edition also available with a 456 bhp hybrid powertrain

 

(Crewe, 9 April 2024) Bentley Motors today announces the company’s most visually striking SUV to date, the Bentayga S Black Edition. Identified by the first application of black-tinted wings to a Bentley in 105 years, the S Black Edition combines vivid accent colours, rich black detailing and confidence-inspiring chassis technology, revealing the darker side of the Bentayga.

Customers can choose from seven accent colour specifications: Mandarin, Signal Yellow, Klein Blue, Pillar Box Red, Ice, Hyper Green, and Beluga. Each of the colours bring eye-catching yet cohesive design both inside and outside, contrasting with stealthy black treatments across the car.

On the exterior, the accent takes the form of a laser-like stripe on the Styling Specification body kit below the front bumper and side sills and across the top of the rear spoiler. Brake calipers are painted to match, adding a splash of colour behind 22” black-painted wheels. As per the standard Bentayga S, all exterior brightware is replaced with gloss black versions – but the  S Black Edition is the first model in Bentley’s 105-year history to include the Bentley Wings and lettering in matching gloss black. The final exterior detail is a Black Edition badge located on the rear D pillar.

At the start of the year, a host of new features have increased the desirability of the Bentayga range even further. With the exterior of the car remaining fresh, the scope for increased personalisation has been increased with seven new satin paints, a new additional exterior colour and a new 21” wheel option in three different finishes. Priority has been given to the driver and passenger experience with new chassis technology, new electrical architecture and additional features, including a reprofiled front radiator grille. The introduction of all wheel steering at the launch of Bentayga Extended Wheelbase increased handling and manoeuvrability  whilst also reducing the turning circle by nearly 1m. This system is now included as standard on both the Bentayga Azure and ‘S’ V8 models.

For the new S Black Edition, the Bentley design team has also created a unique interior colour layout, bringing the perfect contrast between rich Beluga leather and splashes of bright accent colour. The impactful accent colours on the outside of the car are carried through into the handcrafted cabin, where contrast stitching, contrast piping and accent-coloured sections of the leather trim come together to achieve the same searing effect. Each seat is embroidered with a black ‘S’ emblem.

A new carbon fibre weave has been used on the fascia, centre console and waistrails. The weave adds seemingly-3D visual depth to the fascia, providing the perfect backdrop for the Black Edition badge, which is inlaid beneath the lacquered surface to preserve the flush finish.

The new Dark Chrome pack has been included as standard. This means that much of the interior metal detailing – the bullseye air vents, their organ stop controls and the centre vents – has been changed from usual bright chrome to gloss black equivalents.

There are three audio systems to choose from, starting with the Bentley Signature Audio system. The Bang & Olufsen for Bentley system takes sound quality to another level, while also featuring stunning illuminated speaker grilles, while the Naim for Bentley system represents the ultimate in automotive sound quality.

The Bentayga S Black Edition features Bentley’s renowned 4.0-litre, twin-scroll turbocharged V8 petrol engine, combining immense power with impressive fuel economy. The latest-generation engine develops 542 bhp (550 PS) and 568 lb.ft. (770 Nm) of torque, with a 0-60 mph (0–100 km/h) time of 4.4 (4.5) seconds and a top speed of 180 mph (290 km/h). This class-leading performance is complemented by a range of 406 miles (654 km), with CO2 emissions of 296 g/km.

With a combined output of 462 PS (456 bhp), the 3.0-litre TFSI V6 petrol engine and 100 kW electric motor-generator can power the Bentayga S Hybrid Black Edition from zero to 62 miles an hour (100 km/h) in just 5.3 seconds, with a top speed of 158 mph (254 km/h).

The dynamic nature of the Bentayga S Black Edition is enhanced in each of the driving modes by the Electronic All-Wheel Steering. This is even more apparent as the steering combines with Bentley Dynamic Ride using up to +/- 4.8° of steering lock on the rear wheels.

Deploying the power as effectively as possible, Bentley Dynamic Ride is fitted as standard and was the world’s first electric active roll control technology that utilises an unrivalled 48V system. The system can react within 0.3s with up to 1,300 Nm of torque to counteract lateral rolling forces when cornering, ensuring maximum tyre contact to deliver class-leading cabin stability, ride comfort and exceptional handling.

รวมข่าวในหมวดเดียวกัน