นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร (กลาง) กรรมการผู้จัดการ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ดร.รอยล จิตรดอน
(ที่ 7 จากขวา) กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายกษิดิ์เดช ปันสม (ที่ 7 จากซ้าย) ปลัดอาวุโสอำเภอบ่อเกลือ ผู้แทนรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยตัวแทนผู้นำชุมชนบ้านดงผาปูน บ้านนาบง และบ้านวังปะ จิตอาสาทั้ง 3 ชุมชน ร้านผู้จำหน่ายและจิตอาสาจากกลุ่มลูกค้ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าจากจังหวัดน่านและใกล้เคียง นักศึกษาทวภาคี วิทยาลัยเทคนิคปัว จังหวัดน่าน
(น่าน – 26 ธันวาคม 2566) กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย
ประกาศความสำเร็จจากการผสานความร่วมมือกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน เป็นปีที่ 7 สามารถเพิ่มปริมาณน้ำถึง 144,825 ลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้มีพื้นที่เพาะปลูกได้รับผลประโยชน์จากป่าต้นน้ำและการบริหารจัดการแหล่งน้ำยั่งยืนมากถึง 7,643 ไร่ ส่งผลให้ 2,198 ครัวเรือน (5,914 คน) ในลุ่มน้ำน่านทั้ง 5 พื้นที่ (จังหวัดน่านและจังหวัดพิษณุโลก) มีน้ำอุปโภค บริโภค และเพิ่มแหล่งน้ำสำรองสำหรับทำการเกษตรได้เพียงพอตลอดทั้งปี และเป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
เปรียบเทียบสภาพพื้นที่ป่าของชุมชนบ้านดงผาปูนก่อน (ซ้าย) และหลัง (ขวา) ภายใต้โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ
ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ของกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย และมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
นอกจากนี้ พื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูน ยังได้รับการคัดเลือกและประกาศให้เป็น 1 ใน 28 พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ (ลำดับที่ 27) ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา โดยเป็นชุมชนที่เป็นต้นแบบของการฟื้นฟูเขาหัวโล้น ที่เปลี่ยนจากการเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยวและทำไร่เลื่อนลอย
มาปลูกไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และทำวนเกษตร จนเกิดความมั่นคงน้ำ มั่นคงอาหาร มั่นคงชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ มีผลผลิตจากป่าเป็นอาหาร สร้างอาชีพและรายได้ จนเป็นตัวอย่างความสำเร็จและขยายผลไปยังพื้นที่ข้างเคียงและในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย พร้อมที่จะให้การสนับสนุน และมอบความช่วยเหลือแก่สังคมไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป
พร้อมทั้งจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์สร้างฝายภูมิปัญญาและปลูกต้นไม้พันธุ์พื้นเมือง บริเวณพื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูน บ้านนาบง และบ้านวังปะ โดยได้รับความร่วมมือจากจิตอาสาทั้ง 3 ชุมชน ร้านผู้จำหน่ายและจิตอาสาจากกลุ่มลูกค้ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าจากจังหวัดน่านและใกล้เคียง นักศึกษาทวภาคี วิทยาลัยเทคนิคปัว จังหวัดน่าน ร่วมกันสร้างฝายภูมิปัญญา (คอกหมู) จำนวน 3 ฝาย และการปลูกต้นไม้พันธุ์พื้นเมือง เช่น ต๋าว หวาย เมี้ยง มะแขว่น พะยูง ยางนา กฤษณา จำนวนรวม 1,000 ต้น เพื่อช่วยชะลอน้ำและเสริมความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ให้คงความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้ประชากรมีน้ำใช้ในการอุปโภค-บริโภค และทำการเกษตรตลอดทั้งปีอย่างยั่งยืน
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า “กิจกรรมในวันนี้เป็นการประกาศผลสำเร็จของการดำเนินกิจกรรมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ในช่วงระยะเวลา 7 ปี (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 – 2566) ที่กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยให้การสนับสนุนงบประมาณรวมกว่า 20.4 ล้านบาท ดำเนินงานใน 5 พื้นที่ เพื่อบริหารจัดการดิน น้ำ ป่า ที่นำมาซึ่งพื้นที่ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง มีความอุดมสมบูรณ์สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน มีน้ำสำรองใช้ได้เพียงพอตลอดทั้งปี ตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ในพื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูน ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ด้วยการขยายผลการดำเนินงานและเสริมความมั่นคงทางน้ำในพื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูนเพิ่มเติม และขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ ชุมชนนาบงและบ้านวังปะ ซึ่งประสบปัญหาน้ำหลาก ดินถล่ม เส้นทางสัญจรโดนตัดขาด ปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้ในงานเกษตรกรรมและเพื่อการอุปโภคเนื่องจากขาดแหล่งกักเก็บน้ำและการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนมาอย่างยาวนาน”
ดร.รอยล จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ด้านการนำประสบการณ์จัดการน้ำและพัฒนาน้ำในชุมชนที่ประสบความสำเร็จมาขยายผลการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนไปยังชุมชนอื่น จนเกิดการบริหารจัดการน้ำที่เชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ และเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้น ณ พื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูน หนึ่งในพื้นที่ได้ดำเนินงานร่วมกับกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ที่เป็นตัวอย่างของความสำเร็จจากการร่วมกันของชุมชนในการอนุรักษ์และฟื้นฟูจากเดิมเป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดให้กลับมาเป็นป่าต้นน้ำ มีความมั่นคงน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค และการเกษตร จนเป็นต้นแบบฟื้นฟูเขาหัวโล้น ด้วยไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ชาวบ้านขายผลิตภัณฑ์ได้รายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าตัว รวมทั้งมีกลุ่มพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบยั่งยืนและตั้งกองทุนหมู่บ้านเกิดเป็นเครือข่ายร่วมกันพัฒนาและจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ”
นายกษิดิ์เดช ปันสม ปลัดอาวุโสอำเภอบ่อเกลือ ผู้แทนรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า
“ขอชื่นชมและขอบคุณกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ที่ได้ร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) รวมทั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำชุมชนบ้านดงผาปูน เทศบาลตำบลบ่อเกลือใต้ ที่สำคัญคือชาวชุมชนดงผาปูน ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันดำเนินงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า และการดำเนินชีวิตที่ช่วยให้ประชาชนมีรายได้จากการทำเกษตรแบบอยู่ร่วมกับป่าได้ รวมทั้งเป็นตัวอย่างให้ชุมชนพื้นที่อื่นได้เห็นความสำคัญในการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ พัฒนาแหล่งน้ำ และบริหารจัดการน้ำให้เกิดขึ้นในชุมชนของตัวเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป”
สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน เป็นโครงการระยะยาวแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ช่วง ระหว่างปี พ.ศ. 2560 – 2566 กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยให้การสนับสนุนงบประมาณรวมกว่า 20.4 ล้านบาท ได้แก่
- ช่วงที่ 1: พ.ศ. 2560 – 2562 สนับสนุนงบประมาณรวม 42 ล้านบาท เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนด้วยการพัฒนาศักยภาพคนในชุมชน ให้เข้าใจและบริหารจัดการน้ำได้ด้วยตนเอง
เกิดความสำเร็จของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภค แบ่งการดำเนินการตามปัญหาการจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ใน 3 พื้นที่ ได้แก่ 1) พื้นที่ชุมชนบ้านนาบงและบ้านดงผาปูน ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน 2) พื้นที่ชุมชนบ้านร้องแง ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน และ 3) พื้นที่ชุมตำบลนครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก - ช่วงที่ 2: พ.ศ. 2563 – 2566 สนับสนุนงบประมาณรวม 97 ล้านบาท เน้นสร้างความมั่นคงน้ำ เพื่อเป็นต้นแบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ อาหาร และผลผลิต เกิดกติกาการบริหารจัดการน้ำ
ที่ยอมรับและนำไปใช้ร่วมกัน สามารถขยายผลความรู้และความสำเร็จสู่พื้นที่ใกล้เคียง ดำเนินงานในพื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ใน 5 พื้นที่ ได้แก่ 1) พื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูน (รวมชุมชนบ้านนาบงและชุมชนบ้านวังปะ) ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน 2) พื้นที่ชุมชนบ้านร้องแง ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน
3) พื้นที่ชุมชนตำบลนครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก 4) พื้นที่ชุมชนบ้านป่าแพะ ต.แม่ขะนิง
อ.เวียงสา จ.น่าน และ 5) พื้นที่ชุมชนบ้านปางสา ต.จอมจันทร์ อ.เวียงสา จ.น่าน
ผู้ได้รับผลประโยชน์ (ปี 2560 – 2566) | จำนวนครัวเรือน | จำนวนประชากร (คน) | พื้นที่เพาะปลูกที่ได้รับผลประโยชน์ (ไร่) | ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น (ลบ.ม.) | งบประมาณ |
ชุมชนบ้านดงผาปูน (รวมบ้านนาบงและบ้านวังปะ) | 337 | 1,121 | 1,201 | 6,633 | 9,257,600 |
ชุมชนบ้านร้องแง | 755 | 1,655 | 992 | 190 | 4,369,000 |
ชุมชนตำบลนครป่าหมาก | 730 | 1,938 | 5,450 | 137,937 | 5,543,000 |
ชุมชนบ้านป่าแพะ | 276 | 803 | 0 | 65 | 603,000 |
ชุมชนบ้านปางสา | 100 | 397 | 0 | 0 | 623,000 |
รวมลุ่มน้ำน่านทั้ง 5 พื้นที่ | 2,198 | 5,914 | 7,643 | 144,825 | 20,395,600 |
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 7 ปี (พ.ศ. 2560 – 2566) กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ได้ร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์
ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. ดำเนินโครงการพัฒนาทรัพยากรน้ำและบริหารจัดการน้ำ เพื่อช่วยลดปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง รวมทั้งเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ใน 10 พื้นที่ ประกอบด้วยในพื้นที่จังหวัดน่าน ได้แก่
1) ชุมชนบ้านดงผาปูน อ.บ่อเกลือ (พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน) 2) ชุมชนร้องแง อ.ปัว (พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน) 3) ชุมชนเวียงสา อ.เวียงสา 4) ชุมชนป่าแพะ อ.เวียงสา รวมทั้ง 5) ชุมชนนครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก 6) ชุมชนตำบลขุนควร อ.ปง จ.พะเยา 7) ชุมชนป่าเลา อ.สอง จ.แพร่ 8) ชุมชนแม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ 9) ชุมชนตำบลนาแขม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และ 10) ชุมชน
ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
เกี่ยวกับกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย
กลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ได้ร่วมกันประกาศจัดตั้งกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิฮอนด้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 เพื่อเตรียมความพร้อมในการมอบความช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับประชาชนไทยในยามที่ประเทศไทยอาจเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ แผ่นดินไหว ดินถล่ม ภัยหนาว ภัยแล้ง น้ำท่วม ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ที่ดำเนินงานภายใต้กองทุนดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที โดยมอบเงินสมทบ 1,000 บาทต่อการขายรถยนต์หนึ่งคัน 100 บาทต่อการขายรถจักรยานยนต์หนึ่งคัน และ 10 บาทต่อการขายเครื่องยนต์อเนกประสงค์ 1 เครื่อง ปัจจุบัน กองทุนมียอดเงินสะสมอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ กองทุนฯ ได้กำหนดภารกิจในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านเงินทุน 2) ด้านวัสดุอุปกรณ์ 3) ด้านการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และ 4) ด้านการส่งเสริมความรู้ในการรับมือภัยพิบัติ โดยตลอดระยะเวลา 11 ปีของการดำเนินการ “กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย” ได้มีส่วนร่วมให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ รวมจำนวนเงินมากกว่า 540 ล้านบาท