คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

ข่าวสารยานยนต์

New MG5 10th Anniversary Special Edition

New MG5 10th Anniversary Special Edition สปอร์ตคูเป้ซีดานกับลุคใหม่ ที่บ่งบอกตัวตนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ยังคงโดดเด่นในเรื่องมิติตัวถังขนาดใหญ่เทียบเท่ารถในกลุ่ม C-Segment พร้อมแล้วสำหรับการเป็นทางเลือกใหม่ที่จะเข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นเจ้าของอย่างคุ้มค่า ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น

 

EXTERIOR DESIGN: สปอร์ตคูเป้ลุคใหม่ ที่มีอัตลักษณ์บ่งบอกความเป็นรุ่นพิเศษ

สำหรับเอกลักษณ์เฉพาะที่บ่งบอกตัวตนใหม่ของ New MG5 10th Anniversary Special Edition ด้วยตัวถังสีเทาใหม่ Crayon Grey” มีการเพิ่มโลโก้ 10th Anniversary ที่บอกถึงความเป็นรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 10 ปี ที่ฝากระโปรงท้าย และบริเวณล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว อีกทั้งยังเลือกใช้ “สีดำ” ในการเพิ่มลุคสปอร์ตหลากหลายตำแหน่งรอบคัน ดังนี้

  • กระจกมองข้าง
  • มือจับประตู
  • โลโก้แบรนด์เอ็มจี และชื่อรุ่น MG5 บริเวณฝากระโปรงท้าย
  • ล้ออัลลอย

นอกจากนี้ New MG5 10th Anniversary Special Edition ยังคงเหนือระดับด้วยตัวถัง และห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในคลาสเทียบชั้นรถในระดับ C-Sedan และคาแรกเตอร์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหมนรุ่นใหม่ ของ

  • มิติตัวถัง​ 4,675 x 1,842 x 1,480 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
  • ระยะความยาวฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร
  • กระจังหน้า 3 มิติ
  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิด อัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
  • ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED

 

INTERIOR DESIGN: ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย และครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

แม้ว่า New MG5 10th Anniversary Special Edition จะจัดอยู่ในกลุ่มรถ B-Sedan แต่จุดเด่นที่เหนือกว่าใครของ MG5 คือ ตัวรถที่มีขนาดใหญ่ ถือเป็นรถดีไซน์สปอร์ตคูเป้ที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งโดยสารได้สะดวกสบายที่สุดในคลาสเทียบเท่ารถในระดับ C-Sedan ดีไซน์ภายในให้อารมณ์สปอร์ตด้วยการคุมโทนด้วยสีดำตัดด้วยสีแดง และเพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวก

  • เบาะหนังทรงสปอร์ตโอบรับสรีระ
  • เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง พร้อมที่พักแขนด้านหน้า
  • เบาะนั่งด้านหลังพับได้ ปรับพื้นที่ห้องโดยสารให้สามารถจุของได้มากขึ้น
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-Function Display)
  • หน้าจอ Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
  • กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ลำโพง 6 จุด
  • รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android
  • ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start
  • ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล
  • ระบบกรองอากาศ PM 2.5

PERFORMANCE: สมรรถนะที่รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างดี

New MG5 10th Anniversary Special Edition ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว  VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด

  • ระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION
  • พวงมาลัยปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ คือ ในเมือง มาตรฐาน และสปอร์ต
  • ระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน (Rack and Pinion) ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
  • ระบบช่วงล่างหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ระบบช่วงล่างหลังทอร์ชันบีม (Torsion Beam)
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ

 

SAFETY: มั่นใจทุกการเดินทางด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครัน

New MG5 10th Anniversary Special Edition มอบความมั่นใจทุกเส้นทางขับขี่ ตั้งแต่โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) พร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ครบครันด้วย Advanced Synchronized Protection System ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป

  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Brake System)
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)

 

นอกจากนี้ ยังมีถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX และไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)  

รวมข่าวในหมวดเดียวกัน