TESTDRIVE
ฮอนด้า ตอกย้ำความแข็งแกร่งไลน์อัปเอสยูวี ชวนพิสูจน์สมรรถนะการขับขี่ของขุมพลังการขับเคลื่อนที่แตกต่างลงตัวกับการใช้งานจริงทุกไลฟ์สไตล์ บนเส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์
ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ชวนเพื่อนๆ สื่อมวลชนกว่า 30 ชีวิต รวมถึง Carallstyle ร่วมคาราวานทดสบอบสมรรถนะรถยนต์อเนกประสงค์ในไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้าทั้ง 4 รุ่น หลากหลายครบทุกเซกเมนต์ ได้แก่ ซีอาร์-วี ใหม่ เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี บีอาร์-วี และน้องน้อย ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ในแนวคิดสู่ทุกจุดหมายของทุกจังหวะชีวิต “Honda SUV V Drive All Lives” พิสูจน์ประสบการณ์การขับขี่ของขุมพลังการขับเคลื่อนที่แตกต่าง ตลอดเส้นทางการใช้งานจริง
นำโดย ขุมพลัง e:HEV ใน ซีอาร์-วี ใหม่ และ เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ที่ให้อัตราเร่งตอบสนองทันใจตั้งแต่ออกตัว ประหยัดน้ำมัน ขับสนุกกับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน VTEC TURBO ขนาด 1.5 ลิตร ใน ซีอาร์-วี ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ สัมผัสสมรรถนะซึ่งพร้อมเผชิญทุกเส้นทางกับ บีอาร์-วี หรือขับขี่คล่องตัว สนุกได้ทุกวันกับ ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ อีกทั้งสัมผัสกับความอเนกประสงค์ที่พร้อมเติมเต็มทุกประสบการณ์ด้วยเบาะโดยสารที่สามารถปรับพับเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายและพื้นที่สัมภาระท้ายกว้างขวาง พร้อมตัวเลือกเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง* มั่นใจยิ่งขึ้นกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ติดตั้งในเอสยูวีทุกรุ่น* พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ในทุกเส้นทางด้วยฟังก์ชันการใช้งานและเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายตลอดเส้นทางจากกรุงเทพฯ ถึงภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ รวมระยะทางกว่า 840 กิโลเมตร
โดยตลอดเส้นทางการทดสอบ ผมและเพื่อนๆ ได้สัมผัสกับคาแรกเตอร์ที่แตกต่างของเอสยูวีแต่ละโมเดลของฮอนด้าอย่างชัดเจนอีกทั้งได้พิสูจน์ถึงสมดุลการขับขี่ ระบบช่วงล่าง และการบังคับควบคุมอย่างเต็มประสิทธิภาพระหว่างการใช้งานจริง
ขุมพลังการขับเคลื่อนที่แตกต่าง รองรับทุกความต้องการอย่างลงตัว
แรง และประหยัด ด้วยขุมพลัง e:HEV กับ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ และ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT)ที่ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยชาร์จไฟโดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้อัตราเร่งทันใจตั้งแต่ออกตัว ตอบสนองด้วยแรงบิดโดยทันทีจากมอเตอร์ ส่งผลให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดี มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ โดยระบบมีจุดเด่น คือสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างแนบเนียนเหมาะสมในทุกสถานการณ์ ทั้งโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และ โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
มาถึงอีกรุ่นของ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ที่ขับสนุก อัตราเร่งเร้าใจสไตล์สปอร์ต กับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85 ได้อีกด้วย
ขับขี่สบายทุกเส้นทาง กับ ฮอนด้า บีอาร์-วี และ ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT มอบกำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที อีกทั้งประหยัดน้ำมัน โดย ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ มีอัตราประหยัดน้ำมันสูงถึง 16.7 กม./ลิตร* หรือ 16.1 กม./ลิตร* ใน บีอาร์-วี และ รองรับพลังงานทางเลือก E20
มั่นใจทุกเส้นทาง ด้วย Honda SENSING ที่ติดตั้งในรถเอสยูวีทุกรุ่นของฮอนด้า
ฮอนด้า เอสยูวี ทุกรุ่น มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING* ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control) หรือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ* (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) (เฉพาะ เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี และ ซีอาร์-วี ใหม่)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ* (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะ ซีอาร์-วี ใหม่ รุ่น e:HEV RS 4WD)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอื่น ๆ* ที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น อาทิ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Holdถุงลมสูงสุด 8 ตำแหน่ง นอกจากนี้ทุกรุ่น* ยังมาพร้อมระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง เป็นต้น
ห้องโดยสารกว้างขวาง อเนกประสงค์ พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ทุกเส้นทาง ด้วยฟังก์ชันการใช้งานเพื่อความสะดวกสบายครบครัน
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะโดยสารที่มีให้เลือกทั้ง แบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายที่กว้างขวาง เพิ่มพื้นที่เก็บของได้ตามต้องการ มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการใช้งานและเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายที่ครบครัน* อาทิ
ซีอาร์-วี ใหม่ มาพร้อมระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ พร้อม Honda Smart Key ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat) ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์แบบสมาร์ตด้วยระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ระบบเครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) และช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง (USB Type-C 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 1 และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง)
เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี มาพร้อมฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ช่องปรับอากาศตอนหลัง อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ลำโพงสูงสุด 8 ตำแหน่ง ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิดแบบสัมผัส และ เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เป็นต้น
ส่วนสองพี่น้อง สายชิว บีอาร์-วี และ ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ มาพร้อมมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ รวมถึงเทคโนโลยีเชื่อมต่อผู้ขับขี่และรถเข้าด้วยกันผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ฮอนด้า คอนเนค* (Honda CONNECT) (เฉพาะ ดับเบิลยูอาร์-วี)
สำหรับผมการเดินทางด้วยเหล่าอเนกประสงค์แก๊งออฟโฟร์ 4 SUV ของฮอนด้า ให้ความประทับใจในสมรรถนะที่หลากหลาย มีที่เด็ดที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น รูปทรง ทั้งขนาด ออฟชั่น ชุดขับเคลื่อนล้วนแล้วแต่มีข้อดีข้อด้อยต่างกันไป จะเลือกรุ่นใดขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ ความพร้อมตามวิถีทางการดำเนินชีวิตของแต่ละคน และเมื่อได้เส้นทางที่หลากหลายสู่จุดหมายที่ท้าทายท่ามกลางธรรมชาติยิ่งขับเน้นให้ครอบครัวรถอเนกประสงค์ของฮอนด้าเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งในยุคสมัยที่เราต้องการความเชื่อถือได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคตกาล…
อุ่นใจยิ่งขึ้นด้วยเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจรครอบคลุมทั่วประเทศ ที่ให้บริการด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ พร้อมหลากหลายบริการพิเศษ** ที่มอบความสะดวกสบายและอุ่นใจ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งการนัดหมายเข้ารับบริการล่วงหน้าผ่านทาง “Online Service Booking” บริการเช็กระยะแบบฝากกุญแจ “Honda Drop & Go” บริการเช็กระยะแบบเร่งด่วนตามระยะทาง “Honda Quick Service” รวมทั้งบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง ฯลฯ
ข้อเสนอพิเศษสำหรับยนตรกรรมในไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้า
เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 – 31 ตุลาคม 2566*
- ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ รับข้อเสนอ ฟรีประกันภัย 1 ปี ดอกเบี้ย 29% พิเศษเฉพาะลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 – 30 กันยายน 2566 รับเพิ่ม Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท
- ฮอนด้า บีอาร์–วี รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี หรือเลือกรับข้อเสนอ ดอกเบี้ย 99% พร้อมฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 5,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 60,000 บาท
- ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี รับข้อเสนอดอกเบี้ย 1.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี รวมทั้งรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง
- ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ทุกรุ่น รับข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี ดอกเบี้ย 29% พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร สำหรับรุ่น e:HEV รับเพิ่มประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง
สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของยนตรกรรมในไลน์อัปเอสยูวีหรือรถยนต์ฮอนด้ารุ่นอื่น ๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถทดลองขับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ โดยลูกค้าที่ลงทะเบียนและร่วมกิจกรรมทดลองขับผ่าน www.honda.co.th/testdrive ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2566 จะได้รับฟรี ขวดน้ำพับได้ มูลค่า 250 บาท*
*รายละเอียดอุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ