คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

ข่าวสารยานยนต์

ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส ขีดสุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ตเปิดประทุน เครื่องยนต์วางกลางรอบจัดสมรรถนะสูง

  • รถสปอร์ตโรดสเตอร์ตระกูล 718 ให้อัตราเร่งที่เร็วและทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
  • ตอบสนองการขับขี่ที่เหนือระดับด้วยการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ
  • หลังคาเปิดประทุนน้ำหนักเบา พร้อมกลไกระบบการทำงานแบบ manual
  • โครงสร้างน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ มีน้ำหนักโดยรวมเพียง 1,410 กิโลกรัม
  • ถ่ายทอดประสบการณ์ของการดูดอากาศสู่เครื่องยนต์ ด้วยช่องรับอากาศด้านข้าง
  • ให้พละกำลัง 500 แรงม้า/ 368 กิโลวัตต์ ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์รอบจัด จากปอร์เช่ 911 GT3

 

เวลากว่า 30 ปี หลังการนำเสนอรถยนต์ต้นแบบ Boxster ปอร์เช่ได้เปิดตัวรถสปอร์ตโรดสเตอร์เครื่องยนต์วางกลางรุ่นยอดนิยม กับปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส ใหม่ เวอร์ชั่นทรงพลังที่สุด ครั้งแรกกับขุมพลังเครื่องยนต์รอบสูงที่ไร้ระบบอัดอากาศ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากปอร์เช่ 911 GT3 สู่ยนตรกรรมสปอร์ตเครื่องวางกลางเปิดประทุน 

สตุ๊ทการ์ท. ปอร์เช่ ยกระดับสมรรถนะให้รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางสายพันธ์ 718  โดยมุ่งเน้นการออกแบบเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส ใหม่ คือคู่แฝดของ ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีทีโฟร์ อาร์เอส ในเวอร์ชั่นเปิดประทุน นับเป็นครั้งแรกที่นำเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ 6 สูบ แบบไร้ระบบอัดอากาศจาก ปอร์เช่ 911 GT3 ที่ให้พละกำลังสูงสุดกว่า 500 แรงม้า มาใช้กับรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางเปิดประทุน ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รอบสูง และมีน้ำหนักเบา บล็อกเดียวกับรถแข่งตัวแรงอย่างปอร์เช่ 911 GT3 Cup  โดยน้ำหนักส่วนเกินได้ถูกรีดออกจนเบาเป็นพิเศษ และหลังคาประทุนแบบ soft-top ทำงานด้วยระบบกลไกของ ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส พร้อมเสียงเครื่องยนต์อันดุดันที่มอบประสบการณ์สุดเร้าใจ  คุณสมบัติเหล่านี้ล้วนมาจากท่อไอเสียแบบสปอร์ตสเตนเลสสตีล ที่มีน้ำหนักเบาจากปอร์เช่ และการออกแบบจัดวางตำแหน่งช่องรับอากาศด้านข้าง บริเวณหลังพนักพิงศีรษะ

ขุมพลังเครื่องยนต์รอบสูงแบบไร้ระบบอัดอากาศ โดดเด่นด้วยโครงสร้างน้ำหนักเบาพิเศษ

ระบบขับเคลื่อนของ ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส ใหม่ มาในแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกับสปอร์ตคูเป้ ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีทีโฟร์ อาร์เอส ใช้เครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ 6 สูบ ที่มาพร้อมความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร รอบเครื่องยนต์สูงสุดกว่า 9,000 รอบต่อนาที ให้พละกำลังสูงสุด 500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ผสานการทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ (PDK) 7 สปีด ที่มีอัตราทดสั้น ส่งผลให้สปอร์ตโรดสเตอร์ 2 ที่นั่ง สามารถรีดสมรรถนะออกมาได้อย่างเต็มพิกัด ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 3.4 วินาทีเท่านั้น และสามารถทำความเร็ว 200-กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยเวลาเพียง 10.9 วินาที เมื่อเปรียบเทียบกับ 718 สไปเดอร์ ที่ไม่ใช่รุ่น อาร์เอส รถรุ่นเรือธงลำใหม่ล่าสุดนี้ นอกจากจะมีพละกำลังที่เพิ่มขึ้นถึง 80 แรงม้าแล้ว ยังให้อัตราเร่งออกตัวจนถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วกว่าถึง ครึ่งวินาที ความเร็วสูงสุดเพิ่มแตะระดับ 308 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่รุ่นเดิมทำได้ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส ใหม่ ได้รับการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่อัจฉริยะ (PDK) เช่นเดียวกับรถสปอร์ต อาร์เอส รุ่นใหม่ ระบบส่งกำลังชุดนี้ทำงานด้วยการเปลี่ยนอัตราทดทั้ง 7 สปีดด้วยความเร็วราวสายฟ้าแลบ และให้ความมั่นใจในสมรรถนะ ระบบเกียร์ Paddle Shift ช่วยให้ทั้งสองมือของผู้ขับขี่สัมผัสกับพวงมาลัยอยู่ตลอดแม้ขณะเปลี่ยนเกียร์แบบ manual ก็ตาม นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้จากคันเกียร์บริเวณคอนโซลกลาง ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ นอกจากเครื่องยนต์อันทรงพลังแล้ว รถสปอร์ตรุ่นใหม่ยังมีน้ำหนักตัวที่เบาจนสัมผัสได้ถึงสมรรถนะที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน น้ำหนักโดยรวมของ สไปเดอร์ อาร์เอส อยู่ที่ 1,410 กิโลกรัม ซึ่งเบากว่า 718 สไปเดอร์ รุ่นธรรมดาที่ติดตั้งระบบเกียร์ PDK ถึง 40 กิโลกรัม และยังเบากว่า  718 เคย์แมน จีทีโฟร์ อาร์เอส ถึง 5 กิโลกรัม  สไปเดอร์ อาร์เอส คือตัวแทนของความเหนือระดับรุ่นล่าสุดจากสายพันธ์สปอร์ตเครื่องวางกลางที่มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2559

ดุลยภาพแห่งอากาศพลศาสตร์ชั้นยอด

ตัวถังด้านหน้าของ ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส ใหม่ มีเอกลักษณ์ที่แทบจะไม่แตกต่างจาก 718 เคย์แมน จีทีโฟร์ อาร์เอส ฝากระโปรงหน้ามาตรฐานผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) เพิ่มขนาดของช่องอากาศบนกันชนหน้าให้ใหญ่ขึ้น ครีบดักอากาศ NACA ทั้งสองฝั่ง ทำหน้าที่ระบายความร้อนให้แก่ระบบเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อค่าสัมประสิทธ์แรงเสียดทาน (Coefficient of Drag) อุปกรณ์ Sideblades บริเวณมุมกันชนมีส่วนช่วยในการสร้างแรงกด ลิ้นสปอยเลอร์หน้ามีขนาดสั้นกว่าของ 718 เคย์แมน จีทีโฟร์ อาร์เอส เล็กน้อย ประสานการทำงานกับปีกหลังขนาดใหญ่ สามารถสร้างแรงกดโดยรวมสูงกว่ารุ่น เคย์แมน และเนื่องจากการตัดสินใจเลือกเพิ่มขนาดของลิ้นสปอยเลอร์เพื่อเสริมความสมดุลย์ให้ระบบอากาศพลศาสตร์แทนการใช้ปีก ส่งผลให้รูปทรงของ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส มีเหลี่ยมมุมที่เฉียบคมในสไตล์ ducktail อุปกรณ์ด้านอากาศพลศาสตร์ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกดีไซน์ให้ทำงานร่วมกัน เพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างสมดุลย์ รวมทั้งให้เสถียรภาพสูงสุดขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง

หลังคาประทุนดีไซน์เฉียบ

ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส ใหม่ ติดตั้งหลังคาประทุน single-layer lightweight soft-top น้ำหนักเบาพิเศษ ควบคุมการทำงานด้วยระบบกลไก แฝงด้วยงานดีไซน์ที่น่าอัศจรรย์ ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหลัก 2 ชิ้น ได้แก่ แผงบังแดด sun shield และแผ่นกันลม weather deflector อุปกรณ์ทั้งคู่สามารถถอดประกอบได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังสามารถจัดเก็บรวม หรือแยกจากกันเอาไว้ในรถได้อย่างกลมกลืน และยังสามารถเลือกใช้เพียงแค่แผงบังแดด sun shield เพื่อเป็นหลังคาแบบ ‘Bimini top’ สำหรับป้องกันแสงแดดให้แก่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้อีกด้วย โดยในกรณีนี้พื้นที่ฝั่งผู้โดยสารจะเปิดโล่งไปจนถึงด้านข้างและด้านหลัง  และเมื่อใช้งานร่วมกับแผ่นกันลม weather deflector และปิดกระจกประตูจนสนิท จะทำหน้าที่เป็นหลังคาป้องกันน้ำฝนได้อย่างสมบูรณ์แบบ  โครงสร้างหลังคา รวมทั้งชิ้นส่วนกลไกมีน้ำหนักเพียง 18.3 กิโลกรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักที่เบากว่า 718 สไปเดอร์ ถึง 7.6 กิโลกรัม และเบากว่า 718 บ๊อกสเตอร์ ถึง 16.5 กิโลกรัม ผู้ขับขี่สามารถลดน้ำหนักตัวรถลงได้ถึง 8 กิโลกรัมด้วยการถอดหลังคาเก็บไว้ที่บ้าน และขับรถออกไปสัมผัสกับความสดชื่นในวันที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย

ช่วงล่างสปอร์ต ให้การบังคับควบคุมที่แม่นยำ และปราดเปรียว

ระบบช่วงล่างของปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับ 718 เคย์แมน จีทีโฟร์ อาร์เอส และ 718 สไปเดอร์ รวมทั้งแนวคิดในการดีไซน์เพื่อรองรับการขับขี่สไตล์สปอร์ตในทุกเส้นทาง มาพร้อมระบบควบคุมการทำงานของช่วงล่าง Porsche Active Suspension Management (PASM) ที่ติดตั้งเป็นมาตรฐานมากับตัวรถ ซึ่งได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ โดยลดระดับความสูงลง 30 มิลลิเมตร เสริมด้วยระบบ Porsche Torque Vectoring (PTV) และเฟืองท้าย limited-slip differential รวมทั้ง ball-jointed suspension bearings ดุดันด้วยล้อ forged aluminium ขนาด 20 นิ้ว คุณลักษณะของระบบช่วงล่าง เน้นไปที่ความเฉียบคมแม่นยำของพวงมาลัย โดยยังคงไว้ซึ่งความปราดเปรียวคล่องตัว และการบังคับควบคุมที่เป็นธรรมชาติที่สุด ความสูงใต้ท้องรถ มุม camber ความกว้างฐานล้อ และเหล็กกันโคลง anti-roll bar สามารถปรับตั้งได้อย่างอิสระ เมื่อเปรียบเทียบกับปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีทีโฟร์ อาร์เอส ค่าความแข็งของสปริง และโช้คอัพ ได้รับการปรับแต่งให้ลดลงเพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลผ่อนคลายยิ่งขึ้น โดยการ set-up ตัวรถจะเป็นไปตามบุคลิกเฉพาะตัวของรถเปิดประทุน

ห้องโดยสารเน้นประสิทธิภาพในการขับขี่

อารมณ์สปอร์ตคือสิ่งที่ได้รับการถ่ายทอดไปสู่บรรยากาศภายในห้องโดยสาร โดยมุ่งเน้นการลดฟังก์ชั่นที่ไม่จำเป็น และเพิ่มการใช้งานที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ พวงมาลัย RS sports หุ้มด้วยวัสดุ Race-Tex พร้อมมาร์คแถบสีเหลืองที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เบาะนั่ง full bucket seats น้ำหนักเบาจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) ในลวดลาย carbon- weave รองรับสรีระของผู้ขับขี่ได้อย่างลงตัว ตัวเบาะหุ้มด้วยหนังแท้สีดำ ขณะที่ช่วงกลางของเบาะหุ้มด้วยวัสดุ Race-Tex ที่ให้ความแตกต่างของเฉดสีพื้นหลัง ซึ่งเลือกได้ทั้งสีเทา Arctic Grey หรือสีแดง Carmine Red ตราสัญลักษณ์ ‘Spyder RS’ ประทับบนหมอนรองศีรษะด้วยสีเดียวกับตัวเบาะ แผงคอนโซล และชิ้นงานตกแต่งภายในหุ้มด้วยหนังแท้ ทั้งนี้สามารถเลือกสีตัวถังภายนอกได้หลากหลาย ตั้งแต่สีปกติ 4 สี, สีเมทาลิก 3 สี รวมทั้งสีใหม่ล่าสุด Vanadium Grey Metallic และสีพิเศษ Arctic Grey, Shark Blue และ Ruby Star Neo อีกด้วย

ชุดแต่ง Weissach Package และนาฬิกา chronograph รุ่นพิเศษเข้าคู่กับตัวรถ

สามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์ชุดแต่งพิเศษ Weissach Package ให้กับ ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส เพื่อลดน้ำหนักรวมของตัวรถให้เบาลงได้อีก ทั้งชุดแต่งจากล้อ forged magnesium ซึ่งสามารถสั่งเพิ่มเติมในกรณีที่ต้องการสมรรถนะสูงสุด ปลายท่อไอเสียสปอร์ตผลิตจากวัสดุ titanium  ได้ภาพลักษณ์ที่มาจากรับแรงบันดาลใจของปอร์เช่ 935 limited-edition ในปี 2561 เสริมความโดดเด่นภายในห้องโดยสารที่สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนจาก anti-glare Race-Tex วัสดุหุ้มแผงคอนโซลหน้า ที่มีคุณสมบัติลดแสงสะท้อน พิเศษสุดเฉพาะผู้ที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส สามารถสั่งซื้อนาฬิกา chronograph จาก Porsche Design ซึ่งเป็นนาฬิกาข้อมือคุณภาพสูงผลิตภายใต้การดูแลของปอร์เช่ จากโรงงาน Solothurn ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ออกแบบดีไซน์ให้เข้าคู่กับรูปแบบการตกแต่งตัวรถ ตัวเรือนนาฬิกาน้ำหนักเบาผลิตจากวัสดุ titanium แผงหน้าปัทม์ผลิตจากวัสดุ carbon และสายรัดข้อมือตัดเย็บจากหนังแท้แบบที่ใช้ในห้องโดยสาร ชุด rotor บนฝาหลังสะท้อนภาพของลวดลายอันโดดเด่นที่ปรากฎบนล้ออัลลอยด์ของปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส

Andreas Preuninger หัวหน้าแผนก GT Cars กล่าวว่า “ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส ยกระดับสุนทรียภาพแห่งการขับขี่รถสปอร์ตเปิดประทุนให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น การผสมผสานชั้นยอดระหว่างขุมพลังเครื่องยนต์จากรุ่น GT3, เกียร์อัตราทดที่สั้น, มิติตัวรถกะทัดรัด, น้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษ, ระบบช่วงล่างที่รองรับการขับขี่สไตล์สปอร์ต รวมทั้งหลังคาที่เปิดรับบรรยากาศภายนอกได้อย่างเต็มที่ ส่งมอบความเร้าใจ และประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครได้อย่างไร้ขีดจำกัด”

ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส ใหม่ มีราคาจำหน่าย เริ่มต้นที่ 16,500,000 บาท มีกำหนดเปิดตัวครั้งแรกของโลกในเดือน มิถุนายน พร้อมวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ยนตรกรรมสปอร์ตปอร์เช่ ณ โรงงาน Stuttgart-Zuffenhausen และหลังจากนั้นจะถูกนำไปเผยโฉมที่งาน Goodwood Festival of Speed ประเทศอังกฤษ

Porsche 718 Spyder RS becomes the pinnacle of the mid-engined family

  • Fastest and most powerful 718 Roadster of all time
  • Extreme manoeuvrability and agility for maximum driving pleasure
  • Uncompromising lightweight convertible roof with manual mechanism
  • 1,410 kg thanks to consistently lightweight construction
  • Unfiltered sound experience with side-mounted air intake behind the headrests
  • 368kW/500 PS high-revving engine from the 911 GT3

Thirty years after the presentation of the Boxster concept car, Porsche is launching the most powerful version yet of the popular mid-engined roadster: the new Porsche 718 Spyder RS. For the first time, the high-revving naturally aspirated engine from the 911 GT3 is being deployed in an open-topped mid-engined sports car.

Stuttgart. Porsche crowns the 718 mid-engined model line with a sports car designed for maximum driving pleasure: the new 718 Spyder RS is the open-top counterpart to the 718 Cayman GT4 RS. For the first time, the 368 kW (500 PS) naturally aspirated six-cylinder boxer from the 911 GT3 features in an open-topped mid-engined sports car. The same lightweight power unit with its high-revving design also powers the Porsche 911 GT3 Cup racing car. The exceptionally lightweight and purist-pleasing manual soft-top roof of the 718 Spyder RS makes the highly evocative sound of the engine an even more compelling experience. The effect is further heightened by the standard lightweight stainless steel sports exhaust system and the distinctive process air inlets on the sides behind the headrests.

 

High-revving naturally aspirated engine and resolutely lightweight construction

The powertrain of the new 718 Spyder RS is identical to that of the 718 Cayman GT4 RS coupe. The six-cylinder boxer engine, with its cylinder displacement of 4.0 litres, revs up to 9,000 rpm and generates an output of 368 kW (500 PS) and maximum torque of 450 Newton metres. Combined with a short-ratio seven-speed PDK transmission, the six-cylinder engine catapults the two-seater roadster from 0-100 km/h in 3.4 seconds. The car hits the 200-km/h mark in just 10.9 seconds. Compared to the 718 Spyder without the ‘RS’ designation, the new range-topper not only benefits from an additional 59 kW (80 PS), but also accelerates to 100 km/h half a second faster. The top speed is now 308 km/h instead of 300 km/h. Like every modern RS model, the new 718 Spyder RS is available exclusively with the Porsche dual clutch transmission (PDK). This gearbox shifts through its seven gears at lightning speed and guarantees maximum performance. The gearshift paddles allow drivers to keep their hands on the steering wheel even when shifting gears manually. Alternatively, the driver can use the ergonomically designed selector lever on the centre console. In addition to the more powerful engine, the new model’s lower weight also contributes to better performance: at 1,410 kilograms, the Spyder RS weighs 40 kg less than the 718 Spyder with PDK and is actually five kilograms lighter than the closed 718 Cayman GT4 RS. The Spyder RS represents the latest high-water mark of the model line started in 2016.

Balanced aerodynamics

The front end of the new Porsche 718 Spyder RS is almost identical to the front end of the 718 Cayman GT4 RS. The standard front bonnet is made of CFRP and features a wide air outlet above the bumper. The two NACA ducts enhance brake cooling without adversely affecting the Cd value. Sideblades on the outer ends of the bumper increase downforce. The front spoiler lip is slightly shorter than on the 718 Cayman GT4 RS, which in conjunction with its large rear wing produces higher overall downforce on the Cayman and therefore requires a larger spoiler lip to achieve aerodynamic balance. Instead of a wing, the 718 Spyder RS features a striking tear-off edge shaped like a ducktail. All aerodynamic components are intricately coordinated. They maintain the car’s aerodynamic balance and ensure maximum driving stability at high speeds.

Purist soft-top design

The new 718 Spyder RS comes with a manually operated single-layer lightweight soft-top. The design is amazingly compact, consisting of two parts: a sun sail and a weather deflector. Both are completely removable and can be stowed together or singly in the vehicle. The sun sail alone can also be used as a ‘Bimini top’, thereby protecting the driver and front passenger from intense sunlight. In this case, the passenger compartment remains largely open to the side and behind the passengers. Together with the weather deflector, this creates a complete top that provides effective protection against rain when the side windows are raised. The entire roof, including mechanical parts, weighs just 18.3 kg. That’s 7.6 kg less than the 718 Spyder and 16.5 kg less than in the 718 Boxster. Drivers who wish to shave an additional eight kilograms from the weight of the vehicle can leave the top at home entirely, weather allowing.

Sports suspension of the highest precision and agility

The chassis of the 718 Spyder RS uses components from the 718 Cayman GT4 RS and the 718 Spyder and is designed for maximum driving pleasure on winding roads. It comes standard with Porsche Active Suspension Management (PASM) with sports tuning and has been lowered by 30 millimetres. It also features Porsche Torque Vectoring (PTV) with mechanical limited-slip differential, ball-jointed suspension bearings and 20-inch forged aluminium wheels. The behaviour of the chassis is characterised by razor-sharp steering precision, as well as agile and extremely neutral handling. The ride height, camber, track and anti-roll bar can all be adjusted individually. Compared to the 718 Cayman GT4 RS, spring and damper rates have been reduced to achieve a more relaxed, characteristically convertible-style set-up.

Performance-focused interior

A sporty character defines the inside of the car too: the interior is reduced to the functional and ergonomic essentials. The grippy RS sports steering wheel is covered with Race-Tex and features a yellow 12-o’clock marking. The standard full bucket seats are made of lightweight CFRP in a carbon-weave finish and offer particularly impressive lateral support. The seat covers are made of black leather, while the perforated Race-Tex seat centre features a contrasting colour with a black background. The contrasting colours are Arctic Grey or Carmine Red. A ‘Spyder RS’ logo in the corresponding colour is embroidered on the headrests. The dashboard and trims are covered with leather.  Available exterior colours include four plain and three metallic paints, including the new Vanadium Grey Metallic as well as the special colours Arctic Grey, Shark Blue and Ruby Star Neo.

Optional Weissach Package and matching chronograph

A Weissach Package is also available for the Spyder RS as an option. The exceptionally lightweight, optional forged magnesium wheels can be ordered in combination with this particularly performance-focused equipment package. The sports exhaust system tailpipes here are made of titanium. The look is inspired by the limited-edition 935 from 2018. A visual highlight inside the car is the upper part of the dashboard covered with anti-glare Race-Tex. Exclusively available to buyers of the Porsche 718 Spyder RS is a Porsche Design Timepieces handcrafted chronograph – a premium-quality watch from Porsche’s in-house watchmaking operation in Solothurn, Switzerland. Designed to match the configuration of the car, the particularly lightweight case is made of titanium, the dial is made of carbon and the strap is made out of vehicle leather. The rotor on the back echoes the respective wheel rim design on the 718 Spyder RS.

“The 718 Spyder RS raises driving pleasure to a new level for open-top cars,” says Andreas Preuninger, Head of GT Cars. “The combination of our unmistakable GT3 engine, the close-ratio transmission, compact dimensions, low weight, road-optimised racing suspension and maximum openness offers an extremely compelling and unfiltered driving experience.”

The new Porsche 718 Spyder RS starts at 16,500,000 THB and will celebrate its public premiere in June at the festivities marking 75 years of Porsche Sports Cars in Stuttgart-Zuffenhausen. Shortly afterwards, it will make an appearance at the Goodwood Festival of Speed in England.

More information, as well as video and photos, can be found in the Porsche Newsroom: newsroom.porsche.com

รวมข่าวในหมวดเดียวกัน