นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เลกซัสกรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำยนตรกรรมไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด The New All-Electric Lexus RZ (อาร์-ซี) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรูอย่างแท้จริง โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมถึงระบบความปลอดภัยระดับโลก เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ศกนี้ ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44
นายศุภกร รัตนวราหะ กล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัวรถรุ่นใหม่ว่า“นับตั้งแต่ที่เลกซัส ได้ทำการตลาดมา เรามุ่งเน้นเรื่องของการพัฒนารถพลังงานทางเลือกมาโดยตลอด ตั้งแต่การแนะนำ SUV หรู ที่เป็นระบบไฮบริดอย่าง RX 400h ครั้งแรกในปี 2005 ภายใต้ วิสัยทัศน์ “Lexus Electrified” เพื่อตอบสนอง รูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่าง เลกซัสได้มีการนำเสนอตัวเลือกพลังงานขับเคลื่อนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ระบบไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า 100% ซึ่งเรามีเป้าหมาย ที่จะแนะนำรถไฟฟ้าทุกประเภท ภายในปี 2030 และมีเป้าหมาย การขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ทั่วโลก ภายในปี 2035 เพื่อมุ่งสู่องค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 ในปัจจุบันรถยนต์ LEXUS Electrified มียอดขายทั่วโลก กว่า 2 ล้านคัน ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อย CO2 กว่า 19 ล้านตันทั่วโลก”
“ในวันนี้ ผมขอแนะนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด กับ The New All-Electric Lexus RZ (อาร์-ซี) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง แต่ยังคงความสุนทรีย์ ในแบบเฉพาะตัวของเลกซัสไว้อย่างครบถ้วน พิสูจน์ได้จากหนึ่งในคุณสมบัติพื้นฐานของรถยนต์เลกซัสทุกคัน นั่นคือ Lexus Driving Signature หรือประสบการณ์การขับขี่ อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส ซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยีโครงสร้างตัวถังแบบ e-TNGA ที่เลกซัสพัฒนาขึ้นอย่างประณีต รวมถึงการวางตำแหน่งแบตเตอรีไฟฟ้าที่เหมาะสม ทำให้ได้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำประกอบกับ DIRECT4 AWD ใน LEXUS RZ ที่ช่วยกระจายแรงขับให้ล้อหน้า และล้อหลัง ตามสภาวะการขับขี่ ทำให้สามารถตอบสนองอย่างเฉียบคมทุกการสั่งการ มอบความเพลิดเพลิน ราบรื่นในทุกการขับขี่ ทั้งขณะเหยียบคันเร่ง บังคับพวงมาลัย และลดความเร็ว ผมเชื่อมั่นว่าทุกท่านจะได้รับความรู้สึกที่พิเศษ เมื่อได้ขับ LEXUS RZ”
“นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยแนวคิดในการออกแบบ “Seamless E-Motion” สะท้อนความพริ้วไหว ในแบบของรถยนต์ไฟฟ้า และกระจังหน้าใหม่ภายใต้แนวคิดแบบ Spindle Body ผสมผสานศิลปะการออกแบบเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัยจนได้ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดีไซน์ด้านหลังเน้นความเรียบง่ายแต่โดดเด่น ด้วยไฟ LED ที่ลากยาวดูเฉียบคม ภายในห้องโดยสาร ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมต่อกับธรรมชาติ หลังคากระจกพาโนรามาพร้อมฟังก์ชันปรับลดแสงอัจฉริยะ ช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูโอ่โถง โปร่งสบาย และคอนโซลด้านหน้าถูกออกแบบภายใต้แนวคิด TAZUNA COCKPIT ที่เน้นให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย LEXUS RZ ยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลกอย่าง LEXUS Safety System Plus เช่น ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ ที่ช่วยให้ผู้ขับสะดวกยิ่งขึ้น และระบบป้องกันการเปิดประตู เมื่อมีรถวิ่งสวนมา Safe Exit Assist และการเลือกใช้วัสดุหุ้มเบาะ Ultra-suede ที่ผลิตจากพืช (Bio-based sustainable material) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังให้ผิวสัมผัสที่หรูหรา คล้ายกับหนังกลับคุณภาพสูง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ให้สมรรถนะที่ทรงพลังพร้อมระยะทางการขับที่เพียงพอต่อการใช้งานจริง ด้วยแบตเตอรี่ 71.4 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรงถึง 80% ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ให้กำลังรวมทั้งระบบ 308 แรงม้า โดยมีอัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ภายใน 5.3 วินาทีเท่านั้น สำหรับท่านที่สนใจ และพร้อมเป็นเจ้าของ LEXUS RZ ใหม่ เรามาพร้อมการรับประกัน แบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร” นายศุภกร กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
The New All-Electric Lexus RZ
เลกซัส ผู้บุกเบิกรถยนต์ลักชัวรีครอสโอเวอร์รายแรกของโลก ตั้งแต่การเปิดตัว Lexus RX ครั้งแรกในปี 2005 และได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน สำหรับเลกซัส RZ รุ่นใหม่ ทีมวิศวกร และนักออกแบบมุ่งถ่ายทอดการขับขี่ที่เพลิดเพลินออกมาเป็นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และมีสัดส่วนที่สะกดสายตา น่าหลงใหล และกระตุ้นให้รู้สึก มีชีวิตชีวา และเมื่อขับก็ยิ่งเพลิดเพลินกับสมรรถนะที่เร้าใจ
ดีไซน์ภายนอก เน้นสร้างเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร และรูปทรงที่เร้าใจตั้งแต่แรกมอง
กระจังหน้าทรง Spindle Grill ที่เป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส ตัวรถได้รับการออกแบบใหม่ในแบบ Spindle Body โดยผสมผสานศิลปะการออกแบบเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย จนได้เป็นบังโคลนหน้ารูปทรงสามมิติที่โอบรับมาถึงกึ่งกลางตัวถังทั้งสองด้าน โคมไฟหน้าพร้อมไฟสูง-ต่ำโปรเจกเตอร์เดี่ยวแบบ Bi-AHS (Adaptive High-beam System) ช่วยกระจายแสงได้อย่างทั่วถึง และชัดเจน พร้อมไฟเลี้ยวที่ดูลุ่มลึกและขับรูปทรงตัว L ของไฟ DRL (Daytime Running Light) พร้อมกับไฟท้ายที่ทอดตัวยาวตลอดแนวขวางเป็นเส้นเพรียวบาง เสริมความเป็น Lexus ให้ยิ่งเด่นชัด
ดีไซน์ภายใน ควบคุมง่ายได้อย่างใจกับแนวคิดแบบ TAZUNA
- แผงตกแต่งภายในรถยนต์ แผงควบคุมจัดวางในระดับต่ำไม่รบกวนสายตา และแผงคอนโซลระหว่างเบาะนั่งคู่หน้าดูเรียบง่าย โปร่งโล่งสะอาดตา พร้อมสัมผัสที่ละเมียดละไมแบบ Omotenashi ด้วยเบาะหนัง Ultrasuede* นุ่มสบาย และพื้นผิวลายไม้ประณีต
- พื้นที่ภายในห้องโดยสาร ฐานล้อที่ยาวขึ้นทำให้พื้นที่บริเวณเบาะหลังกว้างขวาง โดยมีระยะห่างระหว่างตำแหน่งนั่งด้านซ้าย และขวาถึง 39.3 นิ้ว ทรวดทรงของตัวถังที่หลังคาด้านท้ายยกขึ้นสูงช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะ และให้ความรู้สึกโอ่โถง เสริมด้วยหลังคาพาโนรามา* ตั้งแต่เหนือเบาะคู่หน้าไปถึงเบาะคู่หลัง ให้ความรู้สึกเปิดกว้างยิ่งขึ้น
- หน้าจอสัมผัสบริเวณกลางคอนโซล พร้อม Apple CarPlay แบบไร้สาย ขนาด 14 นิ้ว สามารถสั่งการฟังก์ชันได้หลากหลายด้วยสวิตช์ในจอ และใช้งานได้อย่างสะดวกเป็นธรรมชาติ ด้วยการออกแบบที่ละเอียดรอบคอบ ทั้งขนาด รูปทรง องศาของจอ ตำแหน่งการติดตั้ง รูปแบบการแสดงข้อมูล และความถี่ในการเรียกใช้ฟังก์ชันต่างๆ
- ตำแหน่งการนั่งขับ ภายในแนวคิดแบบ Tazuna Cockpit ความหมายของ Tazuna คือการควบคุมบังเหียนม้า เป็นการวางตำแหน่งให้ผู้ควบคุมนั่งอยู่บริเวณกึ่งกลางของทุกสิ่ง วางทุกอย่างให้โอบล้อมผู้ขับสามารถเอื้อมใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ พวงมาลัยมาพร้อมกับสวิตช์ที่เชื่อมต่อหน้าจอ Head-up Display* ทำให้ผู้ขับมีสมาธิ สามารถควบคุมการนำทาง และเสียง ไปจนถึงฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
- หน้าจอ Head-up Display แบบสี* แสดงผลโดยฉายข้อมูลไปยังบริเวณด้านล่างของกระจกหน้ารถ เน้นแสดงข้อมูลสำคัญในการขับขี่ให้อยู่ตรงกับมุมมองของผู้ขับขณะขับรถได้อย่างพอดี โดยไม่รบกวนการมองถนน และสภาพรอบรถ พร้อมเลือกโหมดการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ
- ปุ่มควบคุมพวงมาลัยแบบสัมผัส* ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยมีเซนเซอร์จับตำแหน่งของนิ้วมือว่าผู้ขับกำลังวางนิ้วมืออยู่บนปุ่มใด โดยแสดงแผนผังของปุ่ม และตำแหน่งนิ้วมือบนหน้าจอ Head-up Display เพื่อให้ผู้ขับเลือกกดปุ่มต่างๆ ได้โดยไม่ต้องก้มมองพวงมาลัย
- มาตรวัด* รายละเอียดต่างๆ บนจอถูกออกแบบมาให้อยู่ในตำแหน่งที่อ่านได้ง่ายในขณะขับขี่ ข้อมูลทั้งหมดแม่นยำเชื่อถือได้ นอกจากนั้นยังมาพร้อมจอแสดงผลระบบนำทางแบบต่อเนื่องซึ่งจะคำนวณเวลาโดยประมาณที่จะไปถึงจุดหมาย รวมทั้งบอกสถานะของระบบช่วยขับ และระยะทางในการขับขี่
- การตกแต่งด้วยมิติของแสง และเงา สวยงามอย่างแตกต่าง ด้วยการใช้แสง และเงาตกแต่งแผงประตู สร้างมิติที่แตกต่างกันขณะที่ประตูเปิด และปิด เพิ่มความรู้สึกลุ่มลึก และมอบความพิเศษให้ห้องโดยสาร
- ปุ่มควบคุมเกียร์แบบหมุน ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง เปลี่ยนเกียร์ได้สะดวกสบายด้วยการกดและหมุนไปตามตำแหน่งที่ต้องการ พร้อมสั่งการด้วยระบบ Shift-by-Wire ให้ความรู้สึกมั่นคง แม่นยำ มอบเอกลักษณ์แบบรถไฟฟ้า BEV อย่างแท้จริง
- แสงสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ดีไซเนอร์ของเลกซัสอาศัยแรงบันดาลใจจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมาสร้างเป็นธีมสีสำหรับสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารทั้งหมด 14 ธีม โดยแสงไฟจะเรืองออกมาจากบริเวณคอนโซลอย่างนุ่มนวลสบายตา และหน้าจอแสดงผลกลางคอนโซลยังสามารถเลือกเปลี่ยนสีได้อีกถึง 50 สีอีกด้วย
พลังงานขับเคลื่อนไฟฟ้า ช่วยขับเคลื่อน Lexus Driving Signature ให้ก้าวไปไกลยิ่งขึ้น
หนึ่งในคุณสมบัติพื้นฐานของเลกซัสทุกคันคือ Lexus Driving Signature หรือประสบการณ์การขับขี่ที่เราตั้งใจปรับแต่งให้รู้ใจผู้ขับ ควบคุมได้ตามใจปรารถนา ตอบสนองอย่างเฉียบคมทุกการสั่งการ มอบความเพลิดเพลินในทุกการขับขี่ ทั้งขณะเหยียบคันเร่ง บังคับพวงมาลัย และลดความเร็ว ซึ่งเมื่อนำคุณสมบัติเหล่านี้มาผนวกกับเทคโนโลยีของยานยนต์ไฟฟ้าที่เราพัฒนาขึ้นอย่างประณีต จะได้รับความรู้สึกที่ “เป็นธรรมชาติ” เมื่อขับเลกซัส RZ ทั้งจากการควบคุมแรงบิดของมอเตอร์ด้วยความแม่นยำสูง การวางตำแหน่งมอเตอร์ และแบต เตอรีไฟฟ้าที่เหมาะสม ส่งผลให้รถมีการกระจายน้ำหนักที่สมดุล และตอบสนองได้อย่างฉับไว การส่งกำลังแบบ DIRECT4 AWD (ขับเคลื่อนสี่ล้อ) ที่กระจายแรงขับให้ล้อหน้า และล้อหลังได้ตามสภาพการขับขี่ในแต่ละขณะ นี่คือรถยนต์ที่จะใช้งานได้อย่างใจ และนี่คือ Lexus Driving Signature ในรูปแบบใหม่ที่น่าประทับใจยิ่งกว่าเคย
- DIRECT4 ควบคุมการกระจายแรงขับโดยประมวลข้อมูลจากความเร็วล้อ การเร่ง และเซ็นเซอร์องศาพวงมาลัย เพื่อปรับอัตราการกระจายแรงขับระหว่างล้อหน้า และล้อหลังให้อยู่ระหว่าง 100:0 และ 20:80 (ล้อหน้า:ล้อหลัง) ช่วยให้รถออกตัวได้อย่างปราดเปรียว เพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมรถ และลดการใช้พลังงาน รวมทั้งยังช่วยให้ผู้ขับ และผู้โดยสารไม่ต้องเปลี่ยนมุมมองไปมาโดยไม่จำเป็นขณะรถเคลื่อนตัว จึงลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่และเพิ่มความสบายในการโดยสาร เมื่อออกตัวขณะจอดหรือทำความเร็วในทางตรง ระบบ DIRECT4 จะช่วยให้ทะยานไปข้างหน้าได้อย่างเฉียบคม ขณะเข้าโค้งระบบจะปรับการจ่ายกำลังขับเพื่อช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นคง รวมทั้งเพลิดเพลินกับสมรรถนะการเข้าโค้งที่นุ่มนวล
- การควบคุมการทรงตัวขณะเบรก ระบบเบรกของ RZ ควบคุมไฮดรอลิกด้วยไฟฟ้า แยกอิสระจากกันทั้ง 4 ล้อ และประสานการป้อนกำลังไฟกลับเข้าแบตเตอรีไฟฟ้าจากการเบรกของล้อหน้า และล้อหลังได้อย่างราบรื่น ส่วนระบบควบคุมการทรงตัวขณะเบรกจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ผ่านการควบคุมเบรกที่ไปตามแรงกดของเท้าอย่างแม่นยำ รวมทั้งเพิ่มความรู้สึกมั่นคงผ่านการกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้า และล้อหลังที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น การที่ระบบช่วยควบคุมรถให้นิ่งยังช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องส่ายสายตาไปมา จึงควบคุมรถได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นอีกด้วย
- ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี (BEV) ให้สมรรถนะที่ทรงพลังพร้อมระยะทางการขับที่เพียงพอต่อการใช้งานจริง ขับเคลื่อนด้วยระบบ 4 ล้อไฟฟ้าโดยใช้เพลาขับไฟฟ้า eAxles ทั้งกับล้อคู่หน้า และคู่หลัง และพละกำลังจากแบตเตอรีลิเธียม-ไอออนความจุสูงที่มาพร้อมระบบหล่อเย็นที่มีประสิทธิภาพ เพลาขับไฟฟ้า eAxles ของ RZ เป็นการควบรวมทั้งมอเตอร์ เพลาส่งกำลังไฟฟ้า และตัวแปลงไฟเข้าด้วยกันเป็นหน่วยเดียว มีขนาดกะทัดรัดเพื่อลดน้ำหนัก เพิ่มระยะทางวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และเอื้อพื้นที่ให้ห้องโดยสาร รวมทั้งดีไซน์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว เพลา eAxle ที่ล้อหน้าประกอบอยู่ในกล่องทรงสั้นวางตัวตามแนวยาว ส่วนที่ล้อหลังติดตั้งอยู่ต่ำเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ห้องโดยสาร และที่เก็บสัมภาระท้ายรถ แบตเตอรีไฟฟ้าแม้จะมีขนาดใหญ่แต่ถูกออกแบบให้เป็นส่วนเดียวกับโครงสร้างตัวถัง จึงช่วยดึงจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถให้ต่ำ เพิ่มความแข็งแรงของตัวถัง และยังเพิ่มพื้นที่ให้ห้องโดยสาร พร้อมด้วยระบบหล่อเย็นที่ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้ทำความเย็นได้ดีเยี่ยม และยังช่วยด้านความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพในการให้กำลัง และการ ชาร์จไฟ รวมทั้งยืดอายุแบตเตอรีให้ยาวนาน ส่วนระบบทำความร้อนให้แบตเตอรีช่วยให้ชาร์จไฟได้รวดเร็วท่ามกลางอากาศหนาวเย็น
- การชาร์จไฟฟ้า ชุดชาร์จไฟของของ RZ ติดตั้งมาพร้อมตัวรถ มาพร้อมมาตรวัดระดับการชาร์จ ไฟแจ้งสถานะการชาร์จ ระบบล็อคฝาปิดช่องชาร์จขณะจอด และระบบล็อคหัวชาร์จติดกับช่องชาร์จเพื่อการชาร์จที่ปลอดภัยสำหรับทั้งไฟกระแสตรง (DC) และกระแสสลับ (AC) นอกจากนั้นยังมีโหมด My Room สำหรับเปิดใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่นระบบปรับอากาศและเครื่องเสียงในขณะชาร์จไฟรถ โดยไม่ต้องกังวลว่าไฟในแบตเตอรีจะหมด *โหมดมายรูมไม่สามารถใช้งานได้ขณะชาร์จแบบ V2H หรือชาร์จด้วยแหล่งพลังงาน V2H
- การชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ช่องเสียบหัวชาร์จแบบ DC เป็นแบบควิกชาร์จ ติดตั้งอยู่ที่บังโคลนหน้าด้านซ้าย รองรับกำลังไฟได้สูงสุดถึง 150kW จึงชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว
- การชาร์จด้วยไฟกระแสสลับ (AC) ช่องเสียบหัวชาร์จแบบ AC ติดตั้งอยู่ที่บังโคลนหน้าสามารถเสียบสายชาร์จเข้ากับปลั๊กไฟบ้านที่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ หรือเสียบกับแท่นชาร์จไฟกระแสสลับแล้วชาร์จไฟเข้ารถได้ตามปกติ สามารถตั้งเวลาการชาร์จไฟอัตโนมัติได้ 2 รูปแบบคือ ตั้งเวลาเริ่มชาร์จ ระบบจะเริ่มชาร์จไฟตามเวลาที่กำหนด หรือตั้งเวลาที่จะออกเดินทาง ระบบจะชาร์จไฟให้เต็มภายในเวลาที่กำหนด
- ความแข็งแกร่งของตัวถังรถ ข้อต่อ และจุดเชื่อมของโครงสร้างตัวถังใช้การยึดด้วยสกรูว์และหมุดเลเซอร์ (Laser Screw Welding และ Laser Pinning Welding) เพื่อให้แข็งแกร่ง และช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถรวมทั้งความสบายขณะโดยสาร และยังป้องกันการบิดตัวของกรอบประตูฝาท้ายโดยการใช้โครงสร้างแบบวงแหวนสองชั้นร่วมกับโฟมความแข็งแกร่งสูงอีกด้วย
- ตัวถังน้ำหนักเบา ตัวถังของ RZ มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งสูง โดยเสาคู่หน้า คู่กลางและรางคู่หน้าทำจากโครงสร้างชนิดผสมผสานที่นำโลหะแรงดึง 1.8GPa และ 1.5GPa มาทับซ้อนกันและเชื่อมเข้าด้วยกันขณะเป็นแผ่นเรียบ แล้วจึงนำมาปั๊มขึ้นรูปร้อนตามทรงที่ต้องการ ส่วนแกนกลางหลังคาใช้เหล็กแผ่นค่าความต้านทานแรงดึงสูง 1,470MPa ฝากระโปรงหน้าใช้อลูมินัมน้ำหนักเบา ประตู ซุ้มล้อ และวัสดุตกแต่งประตูฝาท้ายขึ้นรูปจากโฟมเรซินที่มีน้ำหนักเบาเช่นกัน
- ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท และด้านหลังเป็นแบบปีกนกคู่พร้อมเทรลลิงอาร์ม กันสะเทือนหน้าใช้ตัวดูดซับแรงกระแทกชนิด FRD II ที่ปรับการรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแกนโช้คได้หลายระดับตามแต่ละสภาพพื้นผิวถนน ทั้งช่วยให้รถมีความมั่นคง ควบคุมได้ง่าย และยังนุ่มนวลนั่งสบายอีกด้วย ซึ่งการนำตัวดูดซับแรงกระแทก FRD มาใช้กับโครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อรถ BEV โดยเฉพาะทำให้เลกซัสสามารถคงเอกลักษณ์ของ Lexus Driving Signature เอาไว้ได้อย่างดี
- อากาศพลศาสตร์ RZ ถูกออกแบบมาให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า BEV โดยกำเนิดการลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (ค่า Cd) จึงมีผลต่อระยะการวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้งโดยด้านบนหลังคาของ RZ มีสปอยเลอร์ที่ช่วยสร้างลมหมุนตามยาวเพื่อลดแรงลมต้านบนตัวถัง และลมขวาง ช่วยให้ตัวรถนิ่ง และมั่นคงขณะขับขี่ กึ่งกลางหลังคาออกแบบให้ไล่ลมจากกระจกหลังไปยังท้ายรถได้อย่างราบรื่น ที่ด้านท้ายมีสปอย์เลอร์สั้น (duck tail) ทีคอยกระจายลมด้านท้ายอย่างสมดุลพร้อมทั้งกดท้ายรถให้นิ่งขณะใช้ความเร็ว ใต้ท้องรถปิดด้วยฝาครอบแบบเรียบเพื่อลดแรงต้านลม พร้อมรอยบุ๋มเพื่อสร้างลมหมุนขนาดเล็กใต้ท้องรถ ช่วยเพิ่มความรู้สึกเกาะถนน และเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ นอกจากนั้นฝากระโปรงหน้าที่อยู่ต่ำ และการไม่จำเป็นต้องมีช่องดักลมที่กระจังหน้า ยังช่วยให้อากาศพลศาสตร์ของ RZ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เงียบสบาย พร้อมเสียงสังเคราะห์พิเศษจากเลกซัส
- เพื่อความเงียบสบายสูงสุด ห้องโดยสารของรถเลกซัสทุกคันต้องปราศจากเสียงรบกวนอันไม่พึงประสงค์ เลกซัสใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสร้างบรรยากาศที่เงียบสบายอย่างสูงสุด ตั้งแต่การควบคุมการไหลของอากาศรอบๆ ตัวรถ เพื่อช่วยลดเสียงลมปะทะต่างๆ การวางแบตเตอรีไฟฟ้าไว้ที่พื้นรถเพื่อเพิ่มการดูดซับเสียงจากถนน ล้วนทำให้การโดยสารรถเลกซัสเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เอื้อต่อการสนทนา ทั้งระหว่าง ผู้ขับ ผู้โดยสารเบาะหน้า และผู้โดยสารเบาะหลัง แม้ในขณะใช้ความเร็วสูง
- ความเงียบในห้องโดยสาร แบตเตอรีไฟฟ้าของ RZ ถูกจัดวางไว้ใต้พื้นห้องโดยสารเพื่อดักเสียงรบกวนจากถนน พร้อมการอุดช่องโหว่ระหว่างฝากระโปรงรถ และตัวรถอย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกมา กระจกที่ประตูคู่หน้า และคู่หน้งเป็นแบบอะคูลติกสะท้อนเสียงรบกวน เสริมด้วยยางขอบประตูแนวขวาง ช่วยกรุขอบกระจกให้ยิ่งเงียบสนิท รวมทั้งแทรกตัวซับเสียง และแรงสั่นสะเทือนไว้ในแผงหลังคา เคลือบโฟมที่ฐานของเสาคู่หน้า และคู่กลาง ติดตั้งตัวซับเสียงใต้บังโคลน และที่ช่องระหว่างฝากระโปรง และกระจกหน้า รวมทั้งใต้ฝากระโปรง และซุ้มล้อ
- ASC ระบบสร้างและควบคุมเสียงอัตโนมัติ ความเงียบที่ดีที่สุดสำหรับรถยนต์ไม่ใช่การปราศจากเสียงใดๆ ไปเสียทั้งหมด เพราะผู้ขับยังคงต้องการสื่อสารกับรถในขณะขับขี่ วิศวกรของเลกซัสจึงได้สร้างเสียงพิเศษให้กับห้องโดยสารเพื่อเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่ เมื่อคุณอยู่ใน Lexus RZ คุณจะได้ยินเสียงที่เปลี่ยนไปตามความเร็วของรถเพื่อให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติขณะใช้สมรรถนะ และความเร็ว รวมทั้งเสียงของระบบส่งกำลังที่ผ่านการปรับจูนให้รื่นรมย์ขณะขับขี่
สร้างพื้นที่แห่งความสบาย ด้วยฟังก์ชันที่ละเอียดอ่อนของ Lexus
- เครื่องกระจายความอุ่น* ติดตั้งอยู่ใต้คอพวงมาลัย และแผงหน้าปัดส่วนล่าง ช่วยเพิ่มความอุ่นให้บริเวณขาของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า โดยจะปิดระบบอัตโนมัติ และลดอุณหภูมิลงทันทีเมื่อเกิดการสัมผัสจากผู้ใช้งาน ทำงานร่วมกับเครื่องทำความอุ่นบริเวณที่นั่ง และระบบปรับอากาศโดยไม่เพิ่มภาระให้การใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้า
- ระบบควบคุมการปรับอากาศอัจฉริยะ ทำงานร่วมกับระบบปรับอากาศอัตโนมัติ โดยตรวจวัดอุณหภูมิจากจุดสัมผัสต่างๆ เช่นเบาะคู่หน้า พวงมาลัย และเบาหลัง แล้วปรับอุณหภูมิแบบแยกอิสระ 3 โซนตามความเหมาะสม
- หลังคากระจกพาโนรามา พร้อมฟังก์ชันปรับลดแสงอัจฉริยะ* เสริมบรรยากาศในห้องโดยสารให้โปร่งสบาย พร้อมกระจก Low-e ช่วยป้องกันความร้อนและรังสียูวีได้ 99% เพิ่มความสบายแม้ขณะอยู่กลางแดด ฟังก์ชันลดแสงจะทำงานโดยอัตโนมัติ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ม่านบังแดด
- ระบบกลอนประตูอัจฉริยะ e-latch สร้างโดยแรงบันดาลใจจากความสะดวกในการเลื่อนบานประตูกระดาษสาของชาวญี่ปุ่น เมื่อต้องการขึ้นรถ เพียงเอื้อมมือมาแตะสวิตช์ด้านในมือจับประตูนอกตัวรถ ประตูจะแง้มออกเพื่อให้คุณดึงเปิดได้ทันที และเมื่อต้องการลงจากรถก็เพียงกดสวิตช์ที่มือจับภายในรถพร้อมกับผลักประตูออกได้ในขั้นตอนเดียว ในกรณีที่ระบบไฟฟ้าไม่ทำงาน คุณสามารถดึงมือจับสองครั้งเพื่อเปิดด้วยวิธีปกติได้
- แท่นชาร์จแบบไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน ซ่อนอยู่ในกล่องเก็บของด้านหน้าคอนโซลกลาง เพียงวางโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จแบบไร้สายลงบนแท่นชาร์จ
- พื้นที่เก็บของใต้คอนโซล เพิ่มพื้นที่สำหรับใส่คู่มือรถหรือวางของอเนกประสงค์ พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่วางขาให้แก่ผู้โดยสารข้างหน้า โดยคอนโซลที่พาดผ่านระหว่างที่นั่งคนขับ และผู้โดยสารช่วยเพิ่มความรู้สึกสะอาดตาและโล่งกว้าง
- สร้างอากาศสดชื่นด้วย nanoeX ระบบปรับอากาศของเลกซัส RZ มาพร้อมเทคโนโลยี nanoeX ที่มีตัวปล่อยประจุลบนาโนอี เพื่อช่วยฟอกอากาศในห้องโดยสาร เพิ่มความสดชื่นให้การเดินทาง
- กล่องคอนโซลด้านหลัง ด้านหลังกล่องคอนโซลกลางติดตั้งช่องชาร์จ USB-C จำนวน 2 ช่อง DC12V และ AC ที่แผงด้านล่างของส่วนท้ายคอนโซล เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลเมื่อนั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง
- ห้องเก็บสัมภาระ ให้พื้นที่กว้างขวางสำหรับรถยนต์ BEV โดยสามารถบรรจุถุงกอล์ฟเต็มขนาดได้ถึง 3 ใบ หรือกระเป๋าเดินทางขนาด 140 ลิตร และ 90 ลิตรพร้อมกันได้อย่างง่ายดาย การวางระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าในตำแหน่งที่เหมาะสมช่วยให้ RZ มีพื้นที่เก็บของเพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนั้นม่านปิดห้องเก็บสัมภาระยังเปิด และปิดโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดหรือปิดฝาท้าย หรือสามารถถอดเก็บได้เมื่อต้องการบรรทุกของที่มีความสูง พร้อมให้ความสว่างด้วยไฟ LED บริเวณด้านข้างและที่ฝาท้าย
เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก
- ระบบป้องกันก่อนการชน เมื่อเรดาร์ และเซ็นเซอร์ตรวจพบยานพาหนะ คนเดินเท้า หรือสิ่งแปลกปลอม ด้านหน้ารถ และประเมินว่าอาจเกิดการชน ระบบจะแจ้งเตือนคนขับด้วยเสียงสัญญาณและข้อความบนจอแสดงผล พร้อมเพิ่มแรงเบรกให้โดยอัตโนมัติ หรือหากระบบประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการชนกับยานพาหนะที่ใกล้เข้ามา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ และเบรกให้โดยอัตโนมัติเพื่อบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ทุกช่วงความเร็ว) ระบบจะควบคุมความเร็วของรถตามที่ผู้ขับตั้งค่าโดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง และหากเรดาร์ และเซ็นเซอร์กล้องที่หน้ารถตรวจพบว่ามียานพาหนะอื่นๆ อยู่ด้านหน้า ระบบจะลดหรือเพิ่มความเร็วโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างที่เหมาะสม
- ระบบติดตามช่องทางการวิ่ง พร้อมระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน เมื่อเปิดใช้งานระบบจะช่วยรักษารถให้อยู่ในเส้นทางเพื่อความปลอดภัย โดยหากรถเริ่มเฉออกจากเลนหรือแนวถนนระบบจะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับ และช่วยหน่วงพวงมาลัยเพื่อนรักษาแนวการวิ่งของรถ และหากขับขี่บนทางหลวงหรือทางเฉพาะรถยนต์โดยเปิดใช้ระบบ Dynamic Radar Cruise Control และใช้ความเร็วเต็มระดับที่ตั้งค่าไว้ ระบบ LTA จะช่วยสนับสนุนโดยควบคุมพวงมาลัยเพื่อรักษารถให้วิ่งอยู่
- ระบบช่วยเปลี่ยนเลน ทำงานร่วมกับระบบ LTA เพื่อช่วยควบคุมการเลี้ยวขณะเปลี่ยนเลน พร้อมตรวจสอบยานพาหนะในเลนที่จะไป เริ่มทำงานเมื่อผู้ขับเปิดสัญญาไฟเลี้ยวและเมื่อเปลี่ยนเลนเรียบร้อยไฟเลี้ยวจะดับโดยอัตโนมัติ โดยจะทำงานเมื่ออยู่บนทางหลวง หรือเส้นทางเฉพาะรถยนต์ซึ่งมีเส้นแบ่งเลนชัดเจน
- ระบบไฟหน้าปรับสูง-ต่ำอัจฉริยะ* จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้การขับขี่ตอนกลางคืน โดยคอยตรวจหาลำแสงจากไฟหน้าของรถที่แล่นสวนมา จากไฟท้ายของรถคันหน้า หรือจากแหล่งกำเนิดแสงไฟสูงของเลคซัส RZ ระบบก็จะเลือกดับไฟ LED แต่ละดวงในชุดไฟสูงแต่ละข้าง เพื่อตัดแสงไม่ให้รบกวนยานพาหนะคันอื่นๆ และจะเปิดไฟเหล่านั้นอีกครั้งเมื่อยานพาหนะคันดังกล่าวเคลื่อนออกจากรัศมีไฟสูงของเลกซัส RZ
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ** เพิ่มความสะดวกให้การเดินทางตอนกลางคืน ด้วยระบบไฟสูงอัตโนมัติที่จะสลับเป็นไฟต่ำให้เมื่อตรวจพบยานพาหนะคันอื่นที่ด้านหน้าหรือในเลนตรงข้าม และจะสลับกลับเป็นไฟสูงเมื่อยานพาหนะดังกล่าวเคลื่อนออกไป
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Lexus Teammate Advanced Park ช่วยให้คุณจอดรถได้ง่ายขึ้นเมื่อเข้าจอดในที่พื้นที่เปิด เริ่มใช้งานโดยหยุดรถข้างจุดที่ต้องการจอดแล้วกดปุ่มเปิดระบบ พื้นที่จอดจะปรากฏขึ้นบนจอเพื่อยืนยัน เมื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้ว ให้ผู้ขับกดปุ่ม “เริ่มจอด” แล้วปล่อยพวงมาลัย และถอนเบรก ระบบจะนำรถเข้าจอดให้เองโดยอัตโนมัติ โดยควบคุมทั้งพวงมาลัย คันเร่ง เบรก และเกียร์ พร้อมแสดงภาพมุมสูงเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อมโดยรวมของจุดจอด ตัวรถ และสิ่งกีดขวางต่างๆ และจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมเบรกโดยอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้สิ่งกีดขวางที่อาจชนได้
- ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา BSM ช่วยให้เปลี่ยนเลนได้อย่างปลอดภัย โดยใช้เรดาร์บริเวณมุมกันชนท้ายตรวจสอบยานพาหนะในเลนข้าง ๆ ที่อยู่ในจุดอับสายตา และมองเห็นได้ยากจากกระจกมองข้าง พร้อมสั่นเตือน และส่งสัญญาณเตือนบนกระจกมองข้างด้านนั้นๆ
- ระบบความปลอดภัยขณะเปิดประตู ทำงานร่วมกับระบบตรวจสอบจุดอับสายตา (BSM) เพื่อตรวจสอบว่ามียานพาหนะหรือจักรยานแล่นเข้ามาทางด้านหลังรถหรือไม่ หากพบจะส่งสัญญาณเตือนบนกระจกมองข้างด้านนั้นๆ เพื่อไม่ให้ผู้ขับหรือผู้โดยสารเปิดประตูออกไป หรือหากมีการพยายามเปิดประตู ระบบ e-Latch จะไม่เปิดให้พร้อมแสดงสัญญาณเตือนด้วยไฟกระพริบที่กระจกมองข้างและบนหน้าจอ
- ระบบช่วยเบรกขณะถอยออกจากที่จอด PKSB ช่วยตรวจหาทั้งวัตถุคงที่รอบๆ รถและยานพาหนะรวมทั้งคนเดินเท้าที่กำลังเข้าใกล้ท้ายรถ*1 ได้ในวงกว้าง ขณะกำลังถอยออกจากที่จอด และหากตรวจพบระบบจะช่วยควบคุมทั้งเบรก และคันเร่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และให้คุณถอยรถได้อย่างปลอดภัย
- จอแสดงภาพรอบทิศทาง ประมวลข้อมูลจากกล้องบริเวณด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังของตัวรถ เพื่อแสดงภาพจำลองมุมสูง ช่วยให้เห็นสภาพแวดล้อมได้รอบคันรถ โดยเฉพาะจุดที่สังเกตเห็นได้ยากจากเบาะคนขับ เลือกการแสดงผลได้ 3 แบบคือ แบบ see-through มองทะลุตัวรถได้ แบบ side clearance ช่วยกะระยะ 2 ข้างของตัวรถ และแบบ cornering แสดงตำแหน่งรถขณะเลี้ยวรถในทางแคบ เพื่อป้องกันการชนสิ่งกีดขวาง
*สำหรับเกรด Premium เท่านั้น
**สำหรับเกรด Luxury เท่านั้น
The All New Lexus RZ 450e
มอเตอร์ไฟฟ้าชนิด Synchronous Alternating current Motor (Permanent magnet type)
มอเตอร์หน้า กำลังสูงสุด 201 / 204 / 150 กิโลวัตต์/แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 226.3 นิวตัน-เมตร
มอเตอร์หลัง กำลังสูงสุด 107/ 109 / 80 กิโลวัตต์/แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 168.5 นิวตัน-เมตร
กำลังรวมทั้งระบบ 308 / 312 /230 กิโลวัตต์
แบตเตอรี่ไฮบริดชนิดลิเธียมไอออน
แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 355.2 โวล์ต
ความจุแบตเตอรี่ 201 แอมแปร์/ชั่วโมง
จำนวนเซลล์แบตเตอรี่ 96 เซลล์
กำลังแบตเตอรี่ 71.4 กิโลวัตต์ /ชั่วโมง
รองรับหัวชาร์จ AC/DC (ด้านซ้ายหน้า) Type 2 (11kW) / CCS (150kW)
เวลาในการชาร์จประจุกระแสสลับ (AC) 6.5 ชั่วโมง
เวลาในการชาร์จประจุแบบเร็ว (DC) 30 นาที
สมรรถนะ
ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อัตราการเร่ง 5.3 กิโลเมตร/วินาที
ค่าเฉลี่ยมลพิษ Co2 0 กรัม/กิโลเมตร
ระยะทางสูงสุดโดยเฉลี่ย 470 กิโลเมตร* (*มาตรฐาน NEDC)
เลือกเป็นเจ้าของ The All New Lexus RZ 450e ได้ 6 สี
- Sonic Quartz – Sonic Chrome
- Sonic Iridium – Graphite Black Glass Flake
- Sonic Copper – สีใหม่ Aether Metallic
สีภายใน RZ 450e 2 สี Hazel และ Grayscale รุ่น Luxury Grade (Synthetic leather)
และรุ่น Premium (Ultrasuede)
เป็นเจ้าของ The All New Lexus RZ 450e ทุกรุ่นวันนี้
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- RZ 450e เกรด Luxury 3,870,000 บาท
- RZ 450e เกรด Premium 4,190,000 บาท
Lexus RZ ทุกคัน มาพร้อมกับแพ็กเกจ Lexus LXP Standard เพิ่มความมั่นใจยิ่งกว่าด้วยการขยายการรับประกันรถยนต์ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และมั่นใจสูงสุดด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน นานถึง 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร
สามารถจอง Lexus RZ ผ่าน Lexus Online Booking ได้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ศกนี้ เวลา 15.00น. เป็นต้นไปที่ www.lexus.co.th โดย 10 ท่านแรกที่จองผ่านระบบออนไลน์จะได้รับการการันตีรับรถก่อนใคร พร้อมรับของที่ระลึก Lexus 30 Years Anniversary
สะดวกยิ่งขึ้นกับการบริการ KINTO ONE บริการเช่ารถระยะยาวที่ ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่าย สามารถเลือกระยะเวลา และระยะทางได้หลากหลาย โดยค่าบริการสำหรับ Lexus RZ เริ่มต้นเพียง 69,990 บาทต่อเดือน
และเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เหนือกว่า สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เลกซัสทุกรุ่นจากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ
- รับสิทธิ์เป็นสมาชิก Lexus Club รวมทั้งสิทธิพิเศษจาก Lexus Privilege ผ่าน Mobile Application “Lexus Elite Club”
- อุ่นใจทุกการเดินทางด้วยบริการจากเลกซัส เซอร์วิส คอร์เนอร์ ในศูนย์บริการโตโยต้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการด้วยมาตรฐานเลกซัส ทั้ง 15 แห่ง ทั่วประเทศ พร้อมบริการ Home Visit Mobility Service โดยส่งช่างผู้เชี่ยวชาญของเลกซัส เพื่อมอบบริการสำหรับท่านลูกค้าทั่วประเทศ
นอกจากนี้เพื่อเอกสิทธิ์เหนือระดับ… ให้คุณมั่นใจทุกที่ทุกเวลา Lexus Exclusive Package
Lexus Exclusive Package คือโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง มาพร้อมบริการ Lexus Concierge Service เลขาส่วนตัว และ การช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ดูแลช่วยเหลือให้คุณสะดวกสบายด้วยเอกสิทธิ์เหนือระดับ ให้คุณมั่นใจทุกที่ทุกเวลา รวมถึงค่าบำรุงรักษารถยนต์ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
เลกซัส ออกแบบทางเลือกประเภทของโปรแกรม เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ และช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว
- STANDARD ครอบคลุมค่าแรงตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (50,000 บาท)
- PLUS ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (ยกเว้นอะไหล่เสื่อมสภาพ) (70,000 บาท)
- PREMIUM ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมอะไหล่เสื่อมสภาพ (90,000 บาท)
ติดตามข้อมูลข่าวสารของเลกซัสเพิ่มเติมได้ที่ www.lexus.co.th
และ ช่องทางออนไลน์ Official Account : Lexus Thailand
Lexus Thailand Debuts Latest Electric Vehicle from Lexus Electrified The New All-Electric Lexus RZ At The 44th Bangkok International Motor Show
Mr. Supakorn Ratanawaraha, Executive Vice President of Lexus Group, Toyota Motor Thailand Company Limited, introduces the “New All-Electric Lexus RZ”, an ultraluxury vehicle that embodies the pinnacle of advanced design, distinctive style, and leading-edge technology, along with world-class safety standard at The 44th Bangkok International Motor Show, from 22 March – 2 April 2023, at Challenger Hall, IMPACT MUANG THONG THANI.
Mr. Supakorn Ratanawaraha said at the car launching press conference, “At Lexus, we have always focused on the development of alternative energy vehicles since the introduction of a luxury SUV that comes with a hybrid system like the “RX 400h” for the first time in 2005 under the vision of “Lexus Electrified” to meet different lifestyles. Lexus offers a variety of powertrain alternatives, including hybrid, plug-in hybrid, and all-electric vehicles. More importantly, we plan on introducing all types of electric vehicles by 2030 and to sell 100% electric vehicles globally by 2035, with the goal of becoming a carbon-neutral company by 2050. Currently, LEXUS Electrified vehicles have sold over 2 million units worldwide, contributing to a reduction of over 19 million tons of CO2 emissions.”
“Today, it is my pleasure to introduce the latest addition to the Lexus family – The New All-Electric Lexus RZ. This vehicle has been engineered to embody the true essence of an electric car while retaining the unique aesthetic that is synonymous with the Lexus brand. The RZ features the Lexus Driving Signature, which is testament to Lexus commitment to providing a unique driving experience. This is made possible through the e-TNGA body structure technology developed by Lexus, as well as the strategic placement of the electric battery, resulting in a low center of gravity combined with DIRECT4 AWD. Essentially, this advanced system helps distribute driving force to the front and rear wheels, providing sharp responsiveness and smooth driving experience that is sure to delight drivers. The RZ delivers an unparalleled driving experience, offering drivers a seamless and enjoyable ride while accelerating, steering, and braking. With its unique design and advanced features, this vehicle is designed to create memorable journeys that are sure to leave a lasting impression.”
“The RZ also boasts a distinctive and one-of-a-kind design. The “Seamless E-Motion” design concept reflects the agility of an electric vehicle, and the Spindle Body concept has been used to the redesign of the front grille to produce a distinctive appearance by fusing art with cutting-edge manufacturing technology. The back design is simple and understated, with a striking long, sharp LED light line that makes a bold statement. The interior has been thoughtfully designed to evoke a sense of connection with the nature, featuring a panoramic glass roof with an intelligent dimming function that creates a spacious and airy ambiance inside the cabin. The front console has been designed with the driver at the center, using the TAZUNA COCKPIT concept, providing natural and comfortable control of the vehicle’s functions. Additionally, the RZ is equipped with several cutting-edge technologies and amenities, along with world-class LEXUS Safety System Plus features which include an intelligent parking assistance system for added convenience, Safe Exit Assist which prevents doors from opening when another vehicle is approaching. The car also utilizes bio-based sustainable materials as the upholstery is made from plant-based ultra-suede, providing a luxurious texture similar to high-quality suede, reflecting Lexus’ environmentally friendly commitment. Powered by an electric powertrain, the RZ delivers outstanding performance with an adequate driving range provided by the 71.4 kW battery and can be charged up to 80% in just half an hour using DC power. With a total system power of 308 horsepower, the vehicle can accelerate from 0-100 km/h in just 5.3 seconds, making it an impressive electric sports car. More importantly, the car comes with a battery warranty of 8 years or 200,000 kilometers,” Mr. Supakorn proudly summarized.
The New All-Electric Lexus RZ
Lexus has pioneered the world’s first luxury crossover since the introduction of the Lexus RX in 2005 and has then continued to make improvements in every aspect. A team of engineers and designers set out to create the new Lexus RZ by conveying driving enjoyment in an eye-catching, captivating, and evocative design and proportions. And while driving, you can genuinely enjoy the thrilling performance even more.
Exterior design focuses on creating a distinctive identity and a shape that is appealing at first glance
The iconic Spindle Grille, a hallmark of Lexus design for many years, has undergone a redesign to create a Spindle Body that expertly blends the art of design with state-of-the-art production technology. The result is a stunning three-dimensional front fender that gracefully hugs the center of the body on both sides. The headlamps feature single projector Bi-AHS (Adaptive High-beam System) technology, ensuring even and clear light distribution, while the turn signals and driving L-shaped DRL (Daytime Running Light) lights convey a deep, captivating look. The taillights extend across the length of the vehicle, forming a slim, elegant line that further accentuates the unmistakable Lexus identity.
Interior design is crafted with TAZUNA concept, making it effortless to control and operate.
- Interior panel: The control panel is positioned at a low level, ensuring that it does not interfere with the driver’s line of sight. Additionally, the console panel situated between the front seats boasts a simple and uncluttered appearance, promoting a sense of spaciousness and airiness. The use of Omotenashi philosophy is evident in the soft and comfortable Ultrasuede* leather seats, which provide a luxurious touch, and the exquisite wood-patterned surfaces that add a touch of elegance to the overall design.
- Cabin space: The longer wheelbase provides additional space in the rear seats, with a distance of 39.3 inches between the left and right sitting positions that creates a sense of roominess. This feeling of openness is further enhanced by a panoramic roof* that stretches from above the front seats to the rear seats.
- The center console features a 14-inch wireless Apple CarPlay touch screen that allows for easy and natural operation of various functions through the use of on-screen switches. The screen’s size, shape, angle, installation position, and data display format have all been thoughtfully designed to provide seamless user experience. Additionally, the frequency of running various functions has been optimized to enhance usability.
- The driving position has been designed based on Tazuna Cockpit concept which takes its name from the reins used to control a horse. In this design, the driver is positioned at the center of the vehicle, with all controls and functions arranged around them in a natural and easy-to-reach manner. The steering wheel is equipped with switches that connect to the Head-up Display*, enabling the driver to maintain focus on the road ahead. Additionally, various functions, including navigation and voice control, can be operated comfortably from this centralized driving position.
- The color head-up display* projects important information onto the bottom portion of the windshield, ensuring that it matches the driver’s view while driving. This display has been designed to focus on presenting critical driving information without distracting the driver from the road or their surroundings. It offers three display modes, allowing the driver to select the mode that best suits their preferences and driving conditions.
- The touch-sensitive steering wheel controls* are equipped with finger position sensors that detect which buttons the driver’s fingers are placed on. These controls are designed to allow the driver to press various buttons without looking down at the steering wheel. A diagram of the button and finger positions is displayed on the head-up display screen, enabling the driver to make their selections with confidence and ease.
- The gauges* provide various details that are designed to be easily read while driving. The information displayed is accurate, reliable, and includes a continuous navigation display that calculates the estimated time of arrival. In addition, the driving assistance system status and driving distance are also clearly indicated.
- The door panels are adorned with dimensions of light and shadow, which create a unique and beautiful aesthetic. As the door opens and closes, the interplay of light and shadow adds depth and character to the cabin, providing an extra touch of elegance.
- The rotary gear control knob is conveniently located in the center console and allows for easy shifting by pressing and turning to the desired position. This system, known as Shift-by-Wire, provides a feeling of stability and precision, while also enhancing the identity of a true BEV electric vehicle.
- The ambient lighting in the cabin is inspired by natural phenomena, and Lexus designers have created a total of 14 interior color themes that emit a soft, gentle glow from the console area. Moreover, the display screen in the center console can be customized to change up to 50 additional colors, allowing for a fully personalized driving experience.
Electric power propels the Lexus Driving Signature forward
The Lexus Driving Signature is one of the fundamental features of every Lexus vehicle, representing the driving experience that we meticulously tailor to the driver’s preferences. We aim to provide an intuitive and responsive driving experience that is enjoyable in every aspect, whether accelerating, steering, or braking. In the Lexus RZ, we have combined these features with our advanced electric vehicle technology to deliver a driving experience that feels “natural”, thanks to the precise control of the motor’s torque and the proper placement of the motors and electric batteries for a balanced weight distribution and quick driving response. The DIRECT4 AWD (four-wheel drive) transmission also plays a crucial role in distributing thrust to the front and rear wheels as required. This car is designed to be driven, and it represents a new and more impressive form of the Lexus Driving Signature.
- DIRECT4 system processes information from wheel speed, acceleration, and steering angle sensors to adjust the distribution of thrust between the front and rear wheels ranging from 100:0 to 20:80 (front:rear). This enables the car to start quickly and maneuver with agility, while also enhancing stability and reducing energy consumption. By avoiding unnecessary changes in the driver’s and passengers’ point of view as the car moves, DIRECT4 helps reduce driving fatigue and increase passenger comfort. The system also provides sharp forward thrust when taking off from a stationary position or accelerating in a straight line. During cornering, it adjusts the power output to maintain control and deliver smooth cornering performance. With DIRECT4, the driving experience is intuitive, engaging, and enjoyable.
- Stability control while braking: The RZ features an independent electromechanical braking system that is hydraulically controlled, providing stable and coordinated power feedback to the electric battery from all four wheels. With the stability control system while braking, drivers can experience increased confidence and control through precise brake control that follows the pressure of the foot. The system also enhances stability by distributing the braking force between the front and rear wheels, enabling the car to better grip the road. Additionally, it helps keep the car in control and reduces the need for the driver to look back and forth while driving, ensuring a more precise driving experience.
- The BEV system delivers powerful performance with a practical driving range, using eAxles on both front and rear wheels, and a high-capacity lithium-ion battery with efficient cooling. The compact design combines motors, power transmission, and converter into a single unit, reducing weight, increasing range per charge, and adding extra cabin and luggage space. The eAxle on the front wheel is housed in a short box, while the rear wheels are mounted low, further maximizing interior storage. The battery is integrated into the body structure, lowering the center of gravity, increasing structural strength, and improving cooling and charging efficiency. A heating system for the battery enables quick charging in cold weather, ultimately enhancing overall performance and safety.
- Electric charging: The RZ comes with a built-in charger that includes a charge level meter, charging status indicator, and a locking system for the charging compartment cover and head, ensuring safe charging for both direct current (DC) and alternating current (AC). Additionally, the My Room mode allows for the activation of various devices, such as the air conditioning and audio system, while charging the car. However, it should be noted that My Room* mode cannot be used while charging with V2H or a V2H power source.
- DC fast charging: The RZ features a quick-charging DC connector installed on the left front fender, supporting up to 150kW of power for rapid charging.
- AC charging: The AC charger socket is also located on the front fender, allowing for convenient charging from a household socket using AC power or through an AC charger. The system also offers automatic charging scheduling in two modes: scheduled start charging at a specific time or scheduled departure charging, which ensures the car is fully charged by a specific time.
- The car’s endurance: The body structure of the RZ is reinforced using screws, pins, and laser welding techniques (Laser Screw Welding and Laser Pinning Welding). This ensures a sturdy frame, improves vehicle stability and enhances passenger comfort during travel. Additionally, the double-ring structure and high-strength foam used in the rear door frame helps prevent any twisting or warping.
- Lightweight body: The RZ boasts a lightweight, yet rigid chassis. It’s A and B pillars, as well as its front rail, feature a composite structure in which 1.8GPa and 1.5GPa tensile metals are overlapped and welded together into a flat sheet that is then hot stamped into the desired shape. The roof’s core is made of 1,470MPa high tensile strength sheet steel, while the bonnet is composed of lightweight aluminum. The doors, wheel arches, and tailgate trim are molded from lightweight foam resin, further reducing the car’s weight.
- Suspension: The RZ’s suspension system consists of a McPherson strut front suspension and a double-wishbone rear suspension with a trailing arm. The front suspension features an FRD II shock absorber system that provides varying levels of shock absorption depending on the road surface, ensuring both stability and comfortable ride quality. This innovative system is specifically designed for the RZ’s BEV structure, allowing it to effectively maintain the distinctive Lexus Driving Signature.
- Aerodynamics: RZ is originally designed as a BEV, and to reduce drag coefficient (Cd) for longer driving range per charge. The top of the RZ’s roof features a spoiler that helps create a spinning airflow to reduce wind resistance on the body and blockage, making the car more stable and steady while driving. The rear of the roof is designed to smoothly channel wind from the rear mirror to the rear of the car. The short duck tail spoiler at the rear helps distribute air and keep the car stable at high speeds. The underbody of the car is covered with a smooth panel to reduce wind resistance, and a small bump is added to create a spinning airflow that enhances road grip and stability while driving. In addition, the low-positioned front bumper and absence of unnecessary air ducts help improve the aerodynamics of the RZ.
Enjoy serenity and synthetic sound crafted by Lexus
- For optimal comfort, every Lexus vehicle cabin must be free from unwanted noise. We meticulously attend to every detail to create the most tranquil and comfortable atmosphere possible. We control the flow of air around the car to reduce wind noises and place the electric battery on the vehicle’s floor to increase road noise absorption. This ensures that traveling in a Lexus car is a relaxing experience, conducive to conversation between the driver and front-seat passenger, as well as rear-seat passengers, even when traveling at high speeds.
- Cabin Soundproofing: To ensure maximum quietness in the cabin, the electric battery is strategically positioned underneath the car’s floor to block road noise. Besides, the gaps between the car’s bonnet and body are filled to prevent any noise leakage. The front and rear doors are equipped with acoustic glass and reinforced with transverse door edge rubber to further reduce noise. Sound absorbers and vibration damping materials are inserted in the roof panel, the base of the front and middle pillars, and under the fenders. They are also placed in the gaps between the hood and windshield, as well as under the hood and wheel arches.
- Active Sound Control (ASC): While driving a car, it is important to have some level of sound to communicate with the vehicle. Therefore, the best silence for a car is not the complete absence of any sound. Lexus engineers have recognized this and developed a unique sound for the cabin that enhances the driving experience. In the Lexus RZ, you can hear a sound that changes with the speed of the car, providing a natural feeling of performance and speed. The powertrain sound has also been fine-tuned to ensure a pleasant driving experience.
Create a comfortable environment with Lexus’ subtle functions
- The heated diffuser is installed under the steering column and lower instrument panel to increase the warmth of the rider’s and front passenger’s legs. The system is designed to turn off automatically and immediately reduce the temperature when touched by the user. It works in conjunction with the seat heater and air conditioning systems without increasing the burden on the electric batteries.
- The intelligent air-conditioning control system measures the temperature from various touchpoints such as the front seats, steering wheel, and rear seat. It works with automatic air conditioning systems to adjust the temperature independently in 3 zones as appropriate.
- The panoramic glass roof comes with an intelligent dimming function* that enhances the airy atmosphere in the cabin. The roof is made with Low-e glass that blocks 99% of heat and UV rays, providing enhanced comfort even in sunny conditions. The dimming function works automatically, thus eliminating the need for a sunshade.
- The e-latch intelligent door lock system has been inspired by the convenience of sliding Japanese paper shutters. To get on the car, simply touch the switch inside the door handle outside the car, and the door will be ajar for immediate opening. To get out of the car, press the switch on the handle inside the car and push the door out in one step. In case of an electrical system failure, the handle can be pulled twice to open the door in the normal way.
- Wireless charging stand for smartphones hidden in the storage box in front of the center console. To charge a phone or device that supports wireless charging, simply place it onto the charging dock.
- The storage space under the console provides extra space for storing car manuals or multi-purpose items, while also increasing legroom for front passengers. The console that runs between the driver’s and passenger’s seats adds to the sense of cleanliness and openness.
- The nanoeX technology is used as Lexus RZ’s air conditioning system, which utilizes nanoe negative ion emitters to purify the air in the cabin and create a fresh environment along your trip.
- The rear console box features 2 USB-C charging ports, DC12V, and AC on the bottom panel of the rear console, making it convenient to use digital devices while sitting in the back seat.
- The luggage room provides ample space for the BEV, easily fitting up to 3 full-size golf bags or 140L and 90L luggage simultaneously. The optimal placement of the electric propulsion system provides enough storage space to meet your needs. Additionally, the luggage compartment curtain opens and closes automatically when the end cap is opened or closed, or it can be removed when carrying high items. The luggage room is illuminated with LED lights on the sides and on the rear cover.
World-class safety technologies
- Pre-Collision System uses radar and sensors to detect vehicles, pedestrians, or foreign objects in front of the vehicle and estimates the potential for a collision. If a potential collision is detected, the system will notify the driver with a sound signal and message on the display. It is ready to automatically increase braking force or, if the system estimates that there is a high likelihood of a collision with an approaching vehicle, the system will send an alarm to the driver and automatically apply the brakes to mitigate potential damage.
- Cruise Control System (all speed ranges) allows the driver to set a desired speed without having to step on the accelerator. If the radar and camera sensors detect other vehicles in front of the car, the system will automatically adjust the speed to maintain a safe distance.
- Lane Tracing Assist and Lane Departure Alert system helps keep the vehicle safely on course. If the car starts to drift out of the lane, the system will warn the driver and assist with steering to maintain the proper course. When driving on the highway or a private road with Dynamic Radar Cruise Control engaged, the LTA system can also assist with steering to keep the car on track.
- Lane Change Assist system works with the LTA system to aid in changing lanes. It checks for other vehicles in the adjacent lanes and activates when the driver activates the turn signal. The system will automatically turn off the turn signal after the lane change. This feature is available on highways or on roads with clear lane markings.
- Adaptive High-Beam System* enhances safety during night driving by monitoring the beam of light from oncoming vehicles, as well as the rear lights of the car in front or the Lexus RZ high beam light source. The system selectively dims each LED in each high beam package to prevent disturbing other vehicles, and they will turn back on when the vehicle moves out of the Lexus RZ’s high beam radius.
- Automatic High-Beam System** adds convenience to night drive by automatically switching between high and low beams. It detects other vehicles in front or in the opposite lane and switches to low beams to prevent dazzling them. When the vehicle moves away, it switches back to high beam to maximize visibility.
- Lexus Teammate Advanced Park makes parking easier in open spaces. To use it, stop the car next to the desired parking spot and press the system button. The parking area will be displayed on the screen for confirmation. After checking the environment, press the “Start Parking” button and release the steering wheel and brakes. The system will then take over and automatically park the car, controlling the steering wheel, accelerator, brakes, and gear. It provides a bird’s-eye view of the parking environment, including obstacles, and automatically brakes when approaching a potential collision.
- Blind Spot Monitoring (BSM) enhances lane change safety by using the rear bumper’s corner radar to detect vehicles in the side lanes that are in the blind spot, which may be difficult to see through the side mirror. If a vehicle is detected, the system will provide a vibrating alert and a warning signal on the side mirror on that side.
- Safe Exit Assist, in conjunction with BSM, identifies approaching vehicles or bicycles behind the car. If detected, the system will display a warning signal on the relevant side mirror to prevent the driver or passenger from opening the door. If an attempt to open the door is made, the e-Latch system will not unlock and will display a warning signal with flashing lights on the side mirrors and the screen.
- Parking Support Brake (PKSB) is capable of detecting static objects, vehicles, and pedestrians approaching the rear of the car*1 in a wide area while reversing out of a parking space. If any of these objects are detected, the system will control both the brakes and the accelerator to avoid collisions and ensure that the car can be safely reversed.
- Panoramic View Monitor utilizes data from cameras located at the front, sides, and rear of the vehicle to clearly provide a comprehensive, high-angle view of the car’s surroundings. This is especially useful for detecting blind spots and obstacles that may be difficult to see from the driver’s seat. The system offers three display modes to choose from: “see-through” which allows drivers to see through the car; “side clearance” which helps estimate the distance on both sides of the car; and “cornering” which shows the car’s position when turning in narrow passages. Overall, the system is thoughtfully designed to help prevent possible collisions with obstacles and improve overall driving safety.
*Only for Premium grade
**Only for Luxury grade
The All New Lexus RZ 450e
Synchronous Alternating current Motor (Permanent magnet type)
Front motor Max power 201 / 204 / 150 Kilowatts / Horsepower
Max torque 226.3 Nm
Rear motor Max power 107/ 109 / 80 Kilowatts / Horsepower
Max torque 168.5 Nm
Total power 308 / 312 /230 kW
Lithium-ion Battery
Maximum voltage 355.2 volts
Battery capacity 201 amps/hour
Number of battery cells 96 cells
Battery power 71.4 kWh/hour
Support AC/DC charger (front left side) Type 2 (11kW) / CCS (150kW)
Charging time for alternating current (AC) 6.5 hours
Fast Charging Time (DC) 30 minutes
Performance
Top speed 160 kilometers/hour
Acceleration rate 5.3 kilometers/second
Average Co2 pollution 0 g/kilometer
Average maximum distance 470 kilometers* (*NEDC standard)
Choose to own The All New Lexus RZ 450e available in 6 colors:
- Sonic Quartz – Sonic Chrome
- Sonic Iridium – Graphite Black Glass Flake
- Sonic Copper – Aether Metallic (new color)
There are 2 interior colors for the RZ 450e, including Hazel and Grayscale for Luxury Grade (Synthetic leather) and Premium Grade (Ultrasuede)
Own The All New Lexus RZ 450e NOW
Price (VAT Included)
- RZ 450e Luxury 3,870,000 THB
- RZ 450e Premium 4,190,000 THB
Every Lexus RZ comes with the Lexus LXP Standard package, which includes an extended warranty for 5 years with unlimited mileage, providing added confidence for owners. Furthermore, the lithium-ion battery is covered under warranty for up to 8 years or 200,000 kilometers.
The Lexus RZ can be reserved through Lexus Online Booking at www.lexus.co.th starting 21 March 2023 at 15.00 hrs. The first 10 people to book through the online system will be guaranteed to receive the car before anyone else and will enjoy an exclusive souvenir to celebrate Lexus’ 30th Anniversary.
Experience greater convenience with the KINTO ONE service, a long-term car rental service that covers all expenses and allows you to choose the duration and distance. The monthly service fee for the Lexus RZ starts at 69,990 THB/ Month
In addition, Lexus offers a superior lifestyle for customers who purchase any model from official Lexus dealers as follows:
- As a Lexus Club member, you have access to exclusive benefits, such as Lexus Privilege, via the “Lexus Elite Club” mobile application.
- Furthermore, Lexus Service Corner is available at 15 officially authorized Toyota service centers nationwide, providing Lexus-standard services. If you ever require assistance, the Home Visit Mobility Service will dispatch expert Lexus technicians to customers across the country.
The Lexus Exclusive Package offers exceptional privileges that provide you with confidence and peace of mind anywhere and anytime.
The Lexus Exclusive Package is a program that extends the warranty for 5 years with unlimited mileage. It also includes the Lexus Concierge Service and 24-hour emergency assistance, providing you with superior privileges that ensure your convenience and confidence at all times. The package also covers car maintenance costs for 5 years or up to 100,000 kilometers.
LEXUS EXCLUSIVE PACKAGE provides a variety of extended warranty programs to meet your demands and help you save money in the long term.
- STANDARD Program offers complimentary service fees for 5 years or 100,000 kilometers. (50,000 THB)
- PLUS Program offers complimentary maintenance fees, including service fees and parts expenses, for 5 years or 100,000 kilometers. (Except for wearable parts) (70,000 THB)
- PREMIUM Program offers complimentary maintenance fees, including service fees and parts expenses for 5 years or 100,000 kilometers. (Inclusive of wearable parts) (90,000 THB)
For more information and updated news on Lexus, please visit www.lexus.co.th and online official account: Lexus Thailand