คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

ข่าวสารยานยนต์

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เผยแผนธุรกิจปี 2566 ภายใต้วิสัยทัศน์ “Ambition to Lead” เติมเต็ม EV Portfolio ในไทยอีก 3 รุ่น ประเดิมนำเข้า EQB 250 AMG Line เปิดราคา 3.02 ล้านบาท

  • เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยยอดขายทั่วโลกแตะ 2 ล้านคัน โชว์ตัวเลขรถพลังงานไฟฟ้า 100% แบรนด์ Mercedes-EQ โตขึ้น 124% เอสยูวีรุ่น EQA และ EQB มาแรงในตลาดโลก
  • ในประเทศ สรุปยอดส่งมอบ 13,182 คัน โตขึ้น 34% ตัวเลขบวกเกือบทุกเซกเมนต์ คาดการณ์ปี 2566 ยอดขายเติบโตแบบ Double-Digit
  • ประกาศความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำในไทยด้วยวิสัยทัศน์ “Ambition to Lead” สะท้อนผ่านแผนการดำเนินธุรกิจ ตลอดปี 2566
  • ชูความยั่งยืนเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุด วางเป้าหมายระดับโลกในการเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2582
  • เตรียมขยายพอร์ตอีวี 3 รุ่น ประเดิมรุ่นแรกด้วยเอสยูวีไฟฟ้า EQB 250 AMG Line เปิดราคาแนะนำที่ 3,020,000 บาท
  • ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย พร้อมการบริการในรูปแบบ Luxury Experience ในทุกมิติ
  • สัมผัสยุคใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมตำแหน่งใหม่ของบูธในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 เตรียมขนทัพยนตรกรรมทุกรุ่นที่ทำตลาดในประเทศไทยมาจัดแสดงในงาน

 

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) แถลงผลการดำเนินงานในปี 2565 พร้อมแสดงวิสัยทัศน์และแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 โดยในระดับโลก เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีอัตราการเติบโตของยอดขายกว่า 15% จากปีที่ผ่านมา กวาดยอดขายรถในกลุ่ม Passenger Cars กว่า 2,043,900 คัน ทั่วโลก พร้อมโชว์ตัวเลขการเติบโตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ ที่สูงถึง 124% ด้วยยอดขายกว่า 117,800 คัน โดยมีรุ่นที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆ อย่าง EQA และ EQB ในด้านของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เติบโตถึง 34% ด้วยยอดจดทะเบียนสะสม 13,182 คัน ในปีที่ผ่านมา ยอดขายรถในเซกเมนต์ Dream Cars โตขึ้น 28% จากยอดขาย CLS และ C-Coupe ยอดขายรถ SUV เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนรถเซกเมนต์ Contemporary Luxury อย่าง The new C-Class E-Class และ S-Class โตขึ้น 12% ตามด้วยรถ Top-end Luxury อย่าง Mercedes-Maybach ตัวเลขยอดขายโตขึ้นกว่า 3 เท่าจากปีที่ผ่านมา ภายใต้การนำของประธานบริหารคนใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย “มร. มาร์ทิน ชเวงค์” ที่ได้มีการประกาศวิสัยทัศน์ “Ambition to Lead” กับความมุ่งมั่นในการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยซึ่งสะท้อนผ่านแผนการดำเนินธุรกิจ ทั้งการให้ความสำคัญเกี่ยวกับแผนงานด้านความยั่งยืน (Sustainability) การนำเสนอรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (Electrification) การนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย (Technology and Innovation) และการมอบประสบการณ์แบบลักชัวรี่ (Luxury Experience) ตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยไฮไลท์สำคัญของปีนี้ คือการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ ลงตลาดประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่น เริ่มด้วย EQB 250 AMG Line รถเอสยูวีไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ที่ผสานความหรูหราและความสะดวกสบายในทุกมิติ ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมเดินทางในทุกเส้นทางด้วยการขับขี่ที่ไร้มลพิษ (Zero-emission) ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่แรงดันสูง วิ่งได้ไกลถึง 460 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ผลิตและนำเข้าแบบ CBU พร้อมเปิดราคาจำหน่ายที่ 3,020,000 บาท

 

มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“ในปี 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประสบความสำเร็จทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย ท่ามกลางความท้าทายต่างๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยในปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะเดินหน้าด้วยวิสัยทัศน์ “Ambition to Lead” ที่สะท้อนผ่านแผนการดำเนินธุรกิจในทุกมิติ ทั้งในเรื่องของความยั่งยืน (Sustainability) สู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2582 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายความยั่งยืนของประเทศไทยที่ตั้งเป้าหมายเป็นประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 รวมถึงนโยบาย 30@30 ของบอร์ดอีวี ที่จะขยายสัดส่วนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศให้เป็น 30% ภายในปี 2572 ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์เองก็ตั้งเป้าหมายในการทำให้รถทุกรุ่นที่อยู่ในพอร์ตของเรา เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายในปี 2572 เช่นกัน และสิ่งสำคัญในการทำให้เราบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน คือการนำเสนอรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (Electrification) ให้กับผู้บริโภค ในระดับโลก เราได้นำเสนอ VISION EQXX รถยนต์ต้นแบบพลังงานไฟฟ้า 100% ที่ผ่านการทดสอบการขับขี่ในสภาพแวดล้อมจริง ด้วยระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มเพียงหนึ่งครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าเราได้นำยนตรกรรมแห่งอนาคตมานำเสนอให้ทุกคนแล้วในวันนี้ โดยในประเทศไทย เรามีการเปิดตัว EQS 500 4MATIC AMG Premium ที่ถือเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้ามากที่สุดในประเทศไทย ด้วยระยะทางกว่า 702 กิโลเมตร ต่อจากชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP ซึ่งผู้บริโภคชาวไทยทุกคนสามารถเป็นเจ้าของยนตรกรรมระดับโลกนี้ได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ทั่วประเทศไทย นอกจากนี้ เรายังได้เปิดตัวยนตกรรมในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริด อย่าง C 350 e AMG Dynamic ที่เป็นรถ PHEV ในระดับลักชัวรี่ ที่วิ่งได้ไกลที่สุดในประเทศไทย ด้วยระยะทาง เกินกว่า 100 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

และในปีนี้เราได้วางแผนในการขยาย EV Portfolio ในประเทศไทย ผ่านการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ทั้งหมด 3 รุ่น เริ่มด้วย EQB 250 AMG Line หนึ่งในรถภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ ที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก รวมถึงการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าผ่านการร่วมมือกับผู้ผลิตและผู้ให้บริการด้านสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าชั้นนำ ในประเทศไทย  

เมอร์เซเดส-เบนซ์ มุ่งมั่นนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย (Technology and Innovation) สู่อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย เราพร้อมมอบประสบการณ์ทีเหนือระดับในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น การนำเสนอนวัตกรรมอย่าง จอแสดงผลแบบ Hyperscreen ระบบ MBUX เจเนเรชั่นใหม่ ระบบไฟหน้า Digital Light แบบ Ultra high range beam ที่ส่องสว่างได้ไกลมากกว่า 600 เมตร และแพ็คเกจระบบช่วยเหลือการขับขี่ (Driving Assistance package) รวมถึงระบบลดวงเลี้ยวรถยนต์ (Rear Axle Steering) และนอกเหนือจากประสบการณ์ที่ทุกคนจะได้สัมผัสผ่านยนตรกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์แล้ว การมอบประสบการณ์แบบลักชัวรี่ (Luxury Experience) ให้กับลูกค้าก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ โดยเรามีการสร้างการสื่อสารทั้งภายนอกและภายในองค์กร ในการประสานการทำงานเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าคนในองค์กรและพาร์ทเนอร์ของเราจะสามารถมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายและสอดแทรกความเป็นแบรนด์ลักชัวรี่ในทุกมิติ ตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ให้กับลูกค้าคนพิเศษของเราทุกคนอย่างไร้ที่ติ”

 

มร. บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“สำหรับการดำเนินธุรกิจ ภายใต้วิสัยทัศน์ “Ambition to Lead” ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้นำมาปรับใช้ในการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดและการสื่อสารในรูปแบบใหม่เริ่มจากการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ของการจัดแสดงรถยนต์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 โดยในปีนี้เราได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการนำเสนอยุคใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ผ่านการจัดแสดงรถยนต์บนพื้นที่ใหม่ ที่บูธหมายเลข A19 บริเวณฮอล์ 1 ของอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ซึ่งมีการสร้างการรับรู้ให้สาธารณะผ่านแคมเปญการสื่อสารทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยความพิเศษของบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ในปีนี้ จะถูกออกแบบให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “Ambition to Lead” พร้อมมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมบูธ ตั้งแต่ก้าวแรกที่ก้าวเข้ามาในบูธของเราไปจนถึงขั้นตอนที่ลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของยนตกรรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ นอกจากนี้ ภายในบูธจะถูกแบ่งโซนในการจัดแสดงรถยนต์ ซึ่งมีให้ชมครบทุกรุ่นตั้งแต่รถยนต์ในแบรนด์ Mercedes-Benz ในกลุ่มของรถ ICE และ PHEV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%ภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ รถยนต์สมรรถนะสูงในกลุ่ม Mercedes-AMG รถยนต์ระดับ Top-End Luxury อย่าง Mercedes-Maybach พร้อมด้วยยนตรกรรมระดับตำนานอย่าง SL และ G-Class ซึ่งคนไทยทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 หรือที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ทั่วประเทศไทย”

นายพุทธิ ตุลยธัญ รองประธานบริหาร ฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ สำหรับในส่วนงานของฝ่ายบริการลูกค้า เราได้เตรียมพร้อมในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ดิจิตัลใหม่ๆ ใน Mercedes Me Store ที่ลูกค้าสามารถซื้อเพิ่มเติมได้ตามความต้องการเช่น Rear Axle Steering ที่เป็นการลดวงเลี้ยวรถยนต์ เพื่อการควบคุมรถได้ง่ายยิ่งขึ้น Active Distance Assistance Distronic ระบบควบคุมระยะห่างของรถยนต์ขณะขับขี่ หรือ Individualization ที่เป็นการเพิ่มความบันเทิงในรูปแบบเฉพาะตัวไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกบรรยากาศภายในรถทั้งเสียงและภาพที่แสดงบนหน้าจอหรือมินิเกมส์ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ ในปีนี้จะมีการนำเสนอระบบการจ่ายเงินค่าบริการผ่านระบบออนไลน์เพื่อให้ครอบคลุมในทุกสถานะของรถเมื่อนำรถเข้ารับบริการเพิ่มเติมจากบริการระบบออนไลน์เดิมที่มีในส่วนของการนัดหมายเข้ารับบริการและแจ้งสถานะของรถขณะกำลังเข้ารับบริการ ยิ่งไปกว่านั้นเรายังมีบริการผู้ช่วยส่วนตัวด้วยการส่งข้อความแจ้งเตือนเมื่อรถถึงระยะเข้ารับบริการหรือตรวจเช็กระบบต่าง ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่หรือระบบเบรก รวมถึงข้อเสนอพิเศษและกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อมอบให้กับลูกค้ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยเฉพาะ และในส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอะไหล่แท้ อะไหล่ StarParts หรือ REMAN สำหรับรถยนต์ที่หมดระยะรับประกัน ผลิตภัณฑ์ยางที่ได้รับการรับรองจาก Mercedes-Benz MO/MOE รวมถึงการบริการซ่อมสี และตัวถังตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และโปรแกรม MBSP แบบต่างๆ ที่ครอบคลุมทุกความต้องการตามการใช้งานของลูกค้า เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดและคงประสิทธิภาพสูงสุดตลอดการใช้งานรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทย”

“แน่นอนว่าอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของเรา คือการสร้างยอดขายที่เติบโตในประเทศไทย ในปีนี้เราคาดหวังตัวเลขการเติบโตแบบ Double-Digit ผ่านการนำเสนอรถยนต์ทั้งหมด 8 รุ่นโดยหนึ่งในนั้นคือรถเอสยูวีไฟฟ้า EQB 250 AMG Line ที่เปิดตัวในวันนี้ ทั้งนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะมุ่งมั่นพัฒนายนตรกรรมที่เหนือระดับที่มาพร้อมการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “Ambition to Lead”เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” มร. มาร์ทิน ชเวงค์ กล่าวสรุป

 

Mercedes-Benz Thailand reveals Business Direction for 2023 under the motto of “Ambition to Lead”, expanding the EV portfolio in Thailand with three more models, starting with the launch of EQB 250 AMG Line prices at 3.02 million baht

  • Mercedes-Benz reveals global sales of 2 million vehicles, showcasing the numbers of battery electric vehicles under the brand Mercedes-EQ growing by 124%. The SUV models EQA and EQB are gaining popularity in the global market.
  • Domestically, the company delivered 13,182 vehicles, representing a 34% increase with positive numbers in almost every segment, and this increase is expected to continue in 2023 with double-digit growth.
  • Announces its commitment to become a leader in Thailand with the motto of “Ambition to Lead” reflected through its business direction for 2023.
  • Highlights sustainability as one of the most important aspects and aims to become a globally recognized carbon-neutral organization by 2039.
  • Plans to expand its EV portfolio with the launch of all-electric compact SUV, the EQB 250 AMG Line, with a starting price of THB 3,020,000.
  • Aims to elevate the customer experience in Thailand by introducing cutting-edge technology and innovation, along with luxury services in every aspect.
  • Experience the new era of Mercedes-Benz with new booth positions at the 44th Motor Show, featuring all models available in the Thai market.

 

Mercedes-Benz (Thailand) has released its perfomance for the year 2022 along with business direction for 2023. Globally, Mercedes-Benz has achieved sales growth of over 15% compared to the previous year, selling more than 2,043,900 passenger cars worldwide. It has also shown a significant increase in sales of battery electric vehicles under the Mercedes-EQ brand, with a growth rate of 124% and sales of more than 117,800 cars worldwide. The fast-selling models were in the SUV category, particularly the EQA and EQB. In Thailand, Mercedes-Benz achieved a growth rate of 34%, with a total of 13,182 registered vehicles in the previous year. The Dream Cars segment also showed a sales growth of 28% in the CLS and C-Coupe models. Sales of SUVs continued to grow consistently, while the Contemporary Luxury segment, including the new C-Class, E-Class, and S-Class, grew by 12%, followed by the Top-End Luxury segment, such as Mercedes-Maybach, which saw sales growth of more than three times compared to the previous year.

 

Under the leadership of the new President and CEO of Mercedes-Benz Thailand, Mr. Martin Schwenk, the company has announced its motto, “Ambition to Lead“, and its commitment to elevate the automotive industry in Thailand. This is reflected through its business direction, which prioritizes in sustainability, electrification, technology and innovation, and luxury experience. The key highlight of this year is the launch of three battery electric vehicles under Mercedes-EQ brand in the Thai market, starting with the EQB 250 AMG Line, a 5-seater SUV that combines luxury and comfort in every aspect. It meets various user needs and offers a zero-emission driving experience powered by a high-performance electric motor and battery. It can travel up to 460 kilometers according to the WLTP standard and is manufactured and imported as a CBU, with a starting price of THB 3,020,000.

 

Mr. Martin Schwenk, President and CEO of Mercedes-Benz (Thailand) Limited, said, “2022 was a success for Mercedes-Benz both globally and in Thailand, amid various challenges in the automotive industry. This year, Mercedes-Benz Thailand will move forward with the motto of “Ambition to Lead,” which is reflected in our business direction in all aspects. This includes Sustainability, as we aim to become a carbon-neutral organization by 2039, in line with Thailand’s sustainable policy that sets a goal to become a carbon-neutral country by 2050. We also support the 30@30 policy of the EV Board, which aims to increase the proportion of electric cars in the country to 30% by 2029. Mercedes-Benz itself has set a goal to make every vehicles in our portfolio to be a battery electric vehicle by 2029 as well. And the important thing in achieving our sustainability goals is to present Electrification to consumers globally. We have introduced the VISION EQXX, a  prototype electric vehicle that has undergone real-world driving tests with a range of over 1,000 kilometers per full charge, demonstrating that we have brought the future of mobility to everyone today. In Thailand, we have launched the EQS 500 4MATIC AMG Premium, the country’s longest-driving capability battery electric vehicle with over 702 kilometers per full charge, according to WLTP standards, which is available for consumers to purchase at Mercedes-Benz Authorized Dealer nationwide. Furthermore, we have also introduced a cutting-edge innovation in the form of a plug-in hybrid vehicle, C 350 e AMG Dynamic. This PHEV can travel over 100 kilometers in EV mode, making it the longest-range plug-in hybrid vehicle in the luxury segment of the Thai market.

 

This year, we have planned to expand our EV portfolio in Thailand through the launch of three battery electric vehicles starting with the EQB 250 AMG Line, one of the fast-selling models under the Mercedes-EQ brand globally. We also support the infrastructure to expand our charging network for electric vehicle through cooperation with leading EV charging point operators (CPOs) in Thailand.

 

On top of sustainability and electrification intiatives, Mercedes-Benz is dedicated to introducing cutting-edge Technology and Innovation to the automotive industry in Thailand. We are ready to offer an experience that exceeds expectations in every dimension by introducing innovations such as the Hyperscreen, latest generation MBUX, Digital Light with more than 600 meters Ultra high range beam, Driver Assistance package, and Rear Axle Steering system. In addition to providing these superior innovations, delivering a Luxury Experience to our customers is also important. We communicate both internally and externally and coordinate our efforts to ensure confidence that everyone in our organization and our partners can provide an experience that exceeds customer’s expectations and establish a consistent luxury experience in all aspects according to the Mercedes-Benz standard for each and every one of our special customers.”

 

Mr. Bjoern Gustrau, Vice President of Sales & Marketing of Mercedes-Benz (Thailand) Limited, stated, “To conduct business under the motto of “Ambition to Lead”, Mercedes-Benz Thailand has applied to our marketing and communication strategy, starting with a concept transformation for showcasing our superior vehicles at the 44th Bangkok International Motor Show. This year, we have made a significant change in presenting the new era of Mercedes-Benz by showcasing cars in a new location at booth No. A19, Challenger Hall 1, which we have created public awareness through integrated online and offline communication campaigns. The special feature of the Mercedes-Benz booth this year is the design under the concept “Ambition to Lead”, offering an unforgettable experience to visitors from the moment they step into our booth until they decide to own a Mercedes-Benz vehicle. In addition,
the booth is divided into zones for showcasing all models of Mercedes-Benz vehicles, including ICE and PHEV, BEV under the Mercedes-EQ brand, high-performance vehicles under the Mercedes-AMG brand, Top-End luxury cars such as Mercedes-Maybach, as well as legendary vehicles like the SL and G-Class, which are available for all Thai customers to own at the 44th Bangkok International Motor Show or through Mercedes-Benz Authorized Dealer nationwide.”

 

Mr. Putthi Tulayathun, Vice President of Customer Services of Mercedes-Benz (Thailand) Limited, said, “For the customer services department, we have prepared new digital products to present at the Mercedes Me Store, where customers can purchase additional products according to their needs, such as Rear Axle Steering which reduces car turning radius and improves control. Active Distance Assistance Distronic, a system that helps controls the distance between the cars while driving, and Individualization, which adds entertainment in various forms, such as choosing the interior atmosphere of the car, including the sound and graphics displayed on the screen or mini-games that customers can choose according to their preferences. Additionally, this year we will introduce a payment system for service fees through online systems to cover all vehicle statuses when bringing the car for additional services from the existing online system service. This includes making online appointment booking and notifying the car’s status while receiving services. Furthermore, we also offer personal assistant service through sending notification messages when the car is approaching the service interval or system check, whether it be the battery or brake system, as well as special offers and events organized exclusively for Mercedes-Benz customers, particularly for our Mercedes-Benz cars. Other services we are offering for our customers are Mercedes-Benz Genuine Parts, StarParts, or REMAN for out-of-warranty vehicles, Mercedes-Benz Original Tyres (MO/MOE), as well as body and paint repairs per Mercedes-Benz standards, and various MBSP programs that cover all customer needs according to their usage, in order to provide the best experience and highest performance throughout the use of Mercedes-Benz cars in Thailand.”

 

“Of course, one of our main goals is to grow sales in Thailand this year. We expect double-digit growth by presenting eight new models in total. One of them is the EQB 250 AMG Line, which was launched today. Mercedes-Benz is committed to developing cutting-edge technology and delivering an exceptional customer experiences, in line with the “Ambition to Lead” motto, to reaffirm our leadership position in elevating the automotive industry in Thailand.” Mr. Martin Schwenk concluded.

 

รวมข่าวในหมวดเดียวกัน

ฮอนด้าคว้ารางวัล ‘แบรนด์ที่มีบริการหลังการขายยอดเยี่ยม’ จากงาน Thailand Car Of the Year 2024 สะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ และตอกย้ำจุดแข็งด้านการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานและครบวงจร พร้อมดูแลตลอดอายุการใช้งาน ผ่านเครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ

Read More »

กระแสแรง! ฮอนด้า เปิดจำหน่าย ‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่’ พร้อมให้ลูกค้าเข้าถึงด้วยราคาพิเศษช่วงเปิดตัว เพียง 899,000 บาท พบกันที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศตั้งแต่ 28 พ.ย. 67 และงาน Motor Expo ตั้งแต่ 29 พ.ย. 67 – 10 ธ.ค. 67

Read More »