คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

ข่าวสารยานยนต์

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย รักษาสเตตัสผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย 3 ปีซ้อน พร้อมเดินหน้าสู่ความสำเร็จควบคู่ไปกับความพึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภค

  • บีเอ็มดับเบิลยูและมินิครองตลาดรถยนต์นั่งอันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมของไทยด้วยยอดจดทะเบียนรวม 15,010 คันในปี พ.ศ. 2565 เติบโต 36.1% จากปีก่อนหน้า ครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 6%
  • บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มเครื่องยนต์ขนาด 500 ซีซีขึ้นไปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 10.3% และมียอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์รวม 1,293 คันในปี พ.ศ. 2565
  • รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ มียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 535 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าจากปี พ.ศ. 2564 ครองส่วนแบ่งทางการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มพรีเมียมเพิ่มขึ้นเป็น 8%
  • รถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า 100% เปิดตัวในตลาดประเทศไทยแล้วถึง 6 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู iX3 บีเอ็มดับเบิลยู iX บีเอ็มดับเบิลยู i4 บีเอ็มดับเบิลยู i7 มินิ คูเปอร์ เอสอี และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบีเอ็มดับเบิลยู CE 04
  • คะแนนความพึงพอใจของผู้บริโภค (NPS Score) ขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งด้านการขายและการให้บริการ

 

กรุงเทพฯ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความสำเร็จครั้งสำคัญต่อเนื่อง ด้วยผลการดำเนินงานประจำปี พ.ศ. 2565 พร้อมยอดจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ การเติบโตของยอดจดทะเบียนในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักล้วนมาจากความต้องการยนตรกรรมล้ำสมัยที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค และการดำเนินการตามกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในปีที่ผ่านมา ปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยูและมินิยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์ระดับพรีเมียมในประเทศไทยเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่องกัน โดยรถยนต์ทั้งสองแบรนด์มีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมเป็น 46.6% ของตลาดรถยนต์พรีเมียม ด้วยยอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 15,010 คัน เพิ่มขึ้น 36.1% จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นบีเอ็มดับเบิลยู 13,572 คัน และมินิ 1,438 คัน

มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า  “บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการผลักดันธุรกิจให้ก้าวหน้าและครองความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นว่าความตั้งใจของเราตลอดปี พ.ศ. 2565 ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม และการสร้างประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดให้กับลูกค้าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี แม้จะมีความท้าทายอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ทั้งเราเองและผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูและมินิอย่างเป็นทางการทุกคน ก็พิสูจน์ให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเราสามารถก้าวข้ามสภาวะทางเศรษฐกิจที่มีความท้าทายไปได้และยังดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมเพื่อตอบรับการให้บริการที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าของเรา”

“กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่น่าดึงดูดใจซึ่งขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืนของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่งจากกลุ่มลูกค้า สะท้อนให้เห็นจากส่วนแบ่งทางการตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ระดับพรีเมียมที่สูงถึง 40.8% ด้วยยอดจดทะเบียน 535 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าจากปีก่อนหน้า จาก 5 รุ่นที่เปิดตัวในตลาดไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู iX3 บีเอ็มดับเบิลยู iX บีเอ็มดับเบิลยู i4 บีเอ็มดับเบิลยู i7 และมินิ คูเปอร์ เอสอี นอกเหนือจากนั้น บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในกลุ่มเครื่องยนต์ขนาด 500 ซีซีขึ้นไป ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.3% และยังคงสร้างผลงานที่แข็งแกร่งจากผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายด้วยยอดจดทะเบียนในปี พ.ศ. 2565 ทั้งหมด 1,293 คัน เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และยังพร้อมก้าวเข้าสู่เซกเมนต์มอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า 100% กับบีเอ็มดับเบิลยู CE 04 ที่เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงปลายปีที่ผ่านมา”

“การครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทยถึง 3 ปีติดต่อกัน ยังเป็นข้อพิสูจน์ถึงการทำงานหนัก และความทุ่มเทของพนักงาน ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ และพันธมิตรทุกรายของเรา ที่ร่วมแรงร่วมใจในการสร้างความพึงพอใจระดับสูงให้แก่ลูกค้า ช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์และความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จนส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานทางธุรกิจที่โดดเด่นในระยะยาว โดยในปีที่ผ่านมา เรายังได้คะแนนด้านความพึงพอใจของลูกค้า หรือ NPS Score เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งในด้านการขายและบริการ ก้าวต่อไปข้างหน้า เราจะยังคงมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในทุกสิ่งที่เราทำ และจะยังคงให้บริการลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ทรงประสิทธิภาพพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์พรีเมียมให้กับพวกเขา”

ในปี พ.ศ.2565 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยังคงเติบโตและครองตำแหน่งอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมระดับโลก โดยได้ส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และโรลส์รอยซ์รวม 2,399,636 คัน ให้กับลูกค้าทั่วโลก ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยูก็ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกันในประเภทรถยนต์ไฟฟ้า ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เติบโตขึ้นเท่าตัวจากปี พ.ศ. 2564 ด้วยยอดส่งมอบรวม 215,755 คันจากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ พุ่งสูงขึ้นถึง 107.7% และเมื่อรวมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 372,956 คันตลอดทั้งปี เพิ่มขึ้น 35.6% จากปีก่อนหน้า สะท้อนความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดทำสถิติยอดขายสูงสุดครั้งประวัติศาสตร์ของบริษัท ด้วยยอดส่งมอบมอเตอร์ไซค์และสกู๊ตเตอร์รวม 202,895 คันทั่วโลก

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ก้าวสู่ที่สุดแห่งอนาคต การเติบโตเชิงบวกของยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณภาพและการออกแบบที่แตกต่างของบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ตลอดจนชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการผลิตยนตรกรรมที่ตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป จึงเป็นเครื่องการันตีถึงตำแหน่งผู้นำของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในตลาดยานยนต์พรีเมียมไทย 3 ปีซ้อน

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทจะยังคงดำเนินงานตามแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวในการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการสร้างการเติบโตและการพัฒนาให้กับพนักงาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังมองไปข้างหน้าโดยมีเป้าหมายที่จะส่งมอบสุนทรียะแห่งการขับขี่ เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และพลังแห่งทางเลือกให้แก่ลูกค้า และมั่นใจในศักยภาพที่จะขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จแห่งอนาคต

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย  

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสี่บริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยูและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตชิ้นส่วนสำหรับการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ จังหวัดระยอง  

ในปี 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 11,032 คัน โดยแบ่งเป็นยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 9,982 คัน และยอดจดทะเบียนรถยนต์มินิ 1,050 คัน ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดรวม 1,197 คัน  

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี นอกจากนั้นบีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยูมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก  

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 18 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็มดับเบิลยู X5 บีเอ็มดับเบิลยู X6 และบีเอ็มดับเบิลยูู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 4 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e และบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e  

รวมข่าวในหมวดเดียวกัน

อีซูซุ ส่งทัพยนตรกรรมขุมพลังใหม่ “2.2 Ddi MAXFORCE” พร้อม “ISUZU DRAGONMAX” ร่วมโชว์ ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ISUZU Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย”

Read More »