CAR ALL STYLE
คาร์ออลสไตล์ ครบเครื่อง เรื่องรถ

TESTDRIVE

THE NEW MU-X ROAD TRIP อีซูซุหนาวนี้เที่ยวภาคเหนือ หมุดหมายใหม่ไม่สิ้นสุด

หลังจากที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ได้เปิดตัวรถปิคอัพใหม่ ทั้งตระกูล ดี-แมกซ์ และรถอเนกประสงค์ มิว-เอกซ์ ใหม่ ที่ติดตั้งอุปกรณ์ทั้งในด้านความสะดวกสบาย รวมถึงการตกแต่งเพิ่มความหรูหรา สง่างามของรูปลักษณ์ภายนอกและภายในห้องโดยสาร เพิ่มเติมมากับตัวรถอย่างชัดเจน ซึ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวที่ผ่านมาผมและเพื่อนสื่อมวลชนมีโอกาสได้ไปสัมผัสและทดลองใช้ระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ หลังจากเคยทำความรู้จักกันที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์ บ้างแล้วในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ในทริปนี้ทางอีซูซุจึงได้จัดให้ผู้สื่อข่าวได้ลองขับ มิว-เอ็กซ์ ใหม่ ในสภาพการใช้งานจริง โดยเริ่มต้นที่จังหวัดลำปางเพื่อให้เราได้ขับรถท่องเที่ยวกันตามเส้นทางมุ่งสู่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเราได้เป็นทั้งผู้ขับ และผู้โดยสารสลับกับเพื่อนผู้สื่อข่าวที่ร่วมเดินทางด้วยกัน ซึ่งรถทั้งหมดในขบวนคาราวานได้มารอพวกเราอยู่ที่สนามบินลำปางเพื่อเราได้ลองสมรรถนะและความสะดวกสบายตามสภาพการใช้งานจริงทั้งใน และนอกเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย

เราได้ขับ อีซูซุ มิว – เอ็กซ์ หมายเลข 5 อยู่คันสุดท้ายของขบวน ซึ่งเป็นรุ่น MU-X 1.9 Ddi เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC คอมมอนเรล ไดเรค อินเจคชัน เทอร์โบแปรผันแบบครีบ VGS พร้อม อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Sequential Shift พร้อม Manual Mode มีตำแหน่ง + / –  ให้การขับที่เร้าใจยิ่งขึ้น พร้อมรองรับน้ำมันดีเซล B20 ได้ด้วย

ช่วงแรกเราได้ขับลัดเลาะอยู่ในตัวเมืองลำปางเป็นช่วงๆ ในระยะทางไม่ไกลนัก เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับตัวรถ เบาะผู้ขับขี่สามารถปรับด้วยไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง ส่วนเบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบ Auto Brake Hold ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ในช่วงที่รถเคลื่อนที่หรือจอดช่วงติดสัญญาณไฟโดยที่เราไม่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์แต่อย่างใด พอคันหน้าเคลื่อนที่ เราก็เหยียบคันเร่งเดินทางต่อได้เลย

ขับไปสักครู่ก็แวะดื่มกาแฟกันที่ MIXIRISTA คาเฟ่สุดฮิตในนครลำปางและรับฟังข้อมูลของกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในทริปนี้ หลังจากนั้นขบวนรถทั้งหมดก็ออกเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านแสร้งว่า ร้านอาหารไทยร่วมสมัยที่มีรสชาติดี ผ่านเมนูหลากหลาย หลังจากท้องอิ่มเรียบร้อย เราเดินทางกันต่อไปที่ พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี บริเวณตัวเมืองลำปางที่มีเรื่องราวประวัติความเป็นมาของบริษัทในเครือธนบดี ซึ่งเป็นต้นกำเนิดเซรามิค และชามไก่ ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมองลำปางที่เราต่างรู้จักดี พร้อมชมการสาธิตผลิตชามไก่แบบโบราณดั่งเดิมให้พวกเราได้ชมกันด้วย รวมถึงการผลิตเซรามิคแบบอุตสาหกรรมสมัยใหม่ในยุคปัจจุบัน เทคนิคการวาดลวดลายไก่บนถ้วยชาม และ ณ จุดนี้เราได้มีโอกาสร่วมกิจกรรม Work Shop วาดลวดลายบนชามเซรามิคก่อนจะนำไปเข้าเตาอบอันเป็นจบสิ้นกระบวนการผลิต ทั้งยังได้ถ้วยซึ่งมีลวดลายสวยๆ จากฝีมือเราเองกลับบ้านเป็นที่ระลึกอีกด้วย

คราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะได้ทดลองขับอีซูซุ MU-X 1.9 ใหม่กันอย่างจริงจังเป็นระยะทางมากว่า 100 กิโลเมตร บนเส้นทางลำปาง-เชียงใหม่ ระหว่างทางต้องผ่านเขาขุนตาลที่เกือบตลอดทางเต็มไปด้วยโค้งสลับซ้ายขวาขึ้นลงเขา ลัดเลาะไปตามไหลเขาสูงต่ำสลับกันไป เรายังคงมุ่งมั่นค้นหาคำตอบผ่านการเดินทางด้วยความเร็วที่ 80-110 กม./ชม. อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ใหม่ เป็นรถที่ให้ความสะดวกสบายมาก ด้วยที่นั่งแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 ตำแหน่ง การตกแต่งภายในใช้วัสดุคุณภาพ การให้สีสันเน้นความเรียบหรู แม้ว่ารถรุ่นใหม่นี้จะใช้ขนาดล้อถึง 20 นิ้ว ระบบรองรับแรงสั่นสะเทือนปรับเซทมาเน้นความนุ่มนวลแต่ก็ยังคงให้การควบคุมบังคับที่ดีในช่วงความเร็วเดินทางตามกฏหมายกำหนด

การขับที่ความเร็วสูงอาจจะต้องใช้สมาธิเพิ่มขึ้นในการควบคุมรถที่ไม่ได้เซ็ทมาแบบเน้นการขับขี่แนวสปอร์ต แต่เป็นรถที่ขับง่ายแม้ตัวรถจะมีขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่ จาการที่มีตัวช่วยเช่น กล้องมองหลังในขณะถอยจอด การเตือนในขณะเปลี่ยนช่องทางวิ่งเมื่อมีรถขับอยู่ด้านข้างในมุมอับ ระบบเสียงเตือนเมื่อตัวรถขับออกนอกช่องทางจราจร ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีผู้ขับหรือผู้โดยสารไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย ฯลฯ

สำหรับการเดินทางไกลเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 บล็อคนี้ใช้รอบเครื่องค่อนข้างต่ำ ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. เข็มวัดรอบกวาดไปที่ตำแหน่งแค่ 1,500 รอบต่อนาทีเท่านั้น ซึ่งนั้นหมายถึงอัตราการประหยัดเชื้อเพลิง และลดการสึกหรอรวมไปถึงเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ลงไปได้มากทีเดียว การเดินทางไกลอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเมื่อดูจากมาตรวัดที่หน้าปัดจะอยู่ที่ราวๆ 12-13 กม./ลิตร ถือว่าประหยัดน้ำมันพอสมควรจากตัวรถที่มีขนาดใหญ่ แม้จะใช้เครื่องยนต์แค่ 1.9 ลิตร แต่ก็สามารถวิ่งเข้าขบวนกับเพื่อนๆ บางคันที่ใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ได้โดยไม่ต้องเค้นมากมาย อัตราเร่งในช่วงออกตัว และโดยเฉพาะในช่วงตีนต้นทำได้ดี ให้ความคล่องตัวในการใช้งานในเมือง แต่ที่ความเร็วสูงๆ เกิน 120 กม./ชม.ไปแล้วความเร็วจะไต่ระดับขึ้นช้าหน่อยจากการใช้เครื่องยนต์แค่ 1.9 ลิตร แต่เมื่อลอยตัวแล้วก็ไหลตามรถเพื่อนๆ ในขบวนไปได้อย่างสบายๆ

การขับเข้าโค้งตามเนินเขาช่วงขุนตาลการควบคุมบังคับยังคงเป็นไปด้วยดี โดยที่เราสามารถเปลี่ยนเกียร์ด้วยแพดเดิลชิฟท์ที่ด้านหลังพวงมาลัยเพื่อเพิ่มอัตราเร่งโดยเฉพาะในจังหวะเร่งแซง หรือหน่วงชะลอความเร็วก่อนเข้าโค้งที่ให้การตอบสนองการขับขี่ได้เป็นอย่างดีและปลอดภัย เป็นรถที่นั่งสบายมากกว่าจะใช้งานที่ความเร็วสูงเป็นประจำ ในขณะที่เข้าโค้งเร็วเกินไปและตัวรถเสียอาการ จะมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC รวมไปถึงระบบป้องกันการลื่นไถล เข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยอย่างรวดเร็วโดยอัตโนมัติ

ในช่วงก่อนเข้าเมืองเชียงใหม่ เรามีโอกาสได้ลองใช้ระบบ Active Cruise Control : ACC ที่ทำงานได้อย่างเฉลียวฉลาด และแนบเนียนเป็นธรรมชาติแม้จะเป็นช่วงขึ้นและลงสะพานหรือขึ้นลงอุโมงค์ข้ามแยก เพิ่มความสะดวกสบายในการขับรถโดยเฉพาะเมื่อขับระยะทางไกล เพียงแค่เราตั้งความเร็วในระดับที่เราต้องการ เมื่อเจอรถคันหน้าที่วิ่งช้ากว่ารถเรา ระบบจะทำการชะลอรถโดยที่เราสามารถเซ็ทระยะห่างจากรถคันหน้าได้หลายระดับตามต้องการ และเมื่อรถคันหน้าเพิ่มความเร็วมากขึ้น รถเราก็จะวิ่งเร็วขึ้นตามจนไปถึงความเร็วที่เรากำหนดไว้ รถจะสามารถชะลอความเร็วไปจนถึงจุดหยุดนิ่ง และถ้าจอดในระยะสั้นๆ แค่ 2 วินาที แล้วรถคันหน้ามีการเคลื่อนที่ต่อ รถเราก็จะขยับตามโดยที่เราไม่ต้องเหยียบคันเร่งเลย แค่ถือพวงมาลัยควมคุมทิศทางก็พอแล้ว ระบบนี้ให้ความสะดวกสบายมากทีเดียวโดยเฉพาะการใช้งานนอกเมือง

 

 

เราใช้เวลาเดินทางกันราวชั่วโมงครึ่งก็มาถึงอีกจุดหนึ่งที่เราจะแวะเข้าชมคือ Tiger Kingdom หรือ คุ้มเสือ แห่งเชียงใหม่ ที่เลี้ยงแต่เสือไว้หลากหลายพันธุ์ร่วม 40 ตัว ซึ่งเปิดบริการมาราว 15 ปี จัดกรงและวางผังการเดินชมไว้เป็นอย่างสะดวก ทำให้เราได้รับความรู้และใกล้ชิดกับเสือซึ่งเป็นสัตว์ดุร้ายได้ราวกับเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านเลยทีเดียว หลังจากนั้นเราก็เดินทางเข้าไปรับประทานอาหารมื้อค่ำกันแถวแยกนิมมานที่ร้าน Ginger Farm Kitchen ที่มีอาหารหลากหลายทั้งพื้นเมือง อาหารฝรั่ง อาหารไทยหลากรสเลยทีเดียว และได้มีโอกาสเดินเล่นบริเวณตลาดนัดใกล้ๆ ร้านอาหารที่เริ่มมีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยว นั่งกินดื่มกันอย่างหนาตา ราวกับเรากำลังเดินอยู่ที่ต่างประเทศเลยทีเดียว

จากนั้นเราก็เดินทางเข้าที่พักโรงแรม X2 Chiang Mai Riverside ริมแม่น้ำปิง บริเวณโดยรอบที่พักมีธรรมชาติ และรายละเอียดในการตกแต่งตัวอาคารอย่างมีสไตล์ เราตื่นมายามเช้าท่ามกลางอุณหภูมิ 21 องศา น้ำปิงช่วงนั้นไม่สูงมากนัก และเราเดินทางไปในช่วงวันธรรมดาทำให้บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างเงียบสงบไม่พลุกพล่าน หลังจากรับประทานอาหารเช้าแสนอร่อยเป็นที่เรียบร้อย เรามีเวลาพักผ่อน ท่ามกลางความร่มรื่น จนได้เวลาก่อนเที่ยง จึงได้เวลาล้อหมุนกันอีกครั้งเพื่อไปทานอาหารเที่ยงในบรรยากาศรอบทุ่งนาแถบแม่ริมที่ร้านครัวหลองข้าว ที่เน้นความอร่อยของอาหารพื้นเมืองทางเหนือเป็นหลัก

ในวันนั้นเราขับรถอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่เป็นนระยะทางไม่ไกลนัก เพื่อแวะดื่มชา กาแฟที่มีเมนูเครื่องดื่มหลากหลายที่ร้าน Roast8ry Coffee Flagship Store แถวย่านนิมมาน เราใช้เวลาดื่มด่ำกับเครื่องดื่นรสกลมกล่อม และบรรยากาศโดยรอบกันราว 1 ชม. ก่อนปิดทริปการเดินทางที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันงดงามตลอดการเดินทางครั้งนี้

THE NEW MU-X be UNCHARTED…หมุดหมายใหม่ไม่สิ้นสุด รถอเนกประสงค์ที่พร้อมตอบรับไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ กำหนดหมุดหมายใหม่ทั้งในด้านดีไซน์ ความสะดวกสบาย เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันชาญฉลาดตลอดจนความรู้สึกในการขับขี่ที่แตกต่างจากรถอเนกประสงค์ที่คุณเคยสัมผัสอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยราคา 1,154,000 – 1,651,000 บาท

ใหม่ สีน้ำเงินกลาเซียร์ ไมก้า (Glacier Blue Mica) หรูหราโดดเด่น เต็มอารมณ์สปอร์ต
ใหม่ กระจังหน้า Black Chrome พร้อมชุดแต่งรอบคัน เฉดสี Magnetite Gray ดุดันลงตัว
ใหม่ ไฟท้าย LED สไตล์ Winglet Signature เล่นระดับแบบ 3 มิติ อารมณ์สปอร์ตโทนเทาดำ
ใหม่ ล้ออัลลอย Dynamic Rotor Blade สี Magnetite Gray ปัดเงา ขนาด 20 นิ้ว และ ใหม่! ล้ออัลลอย Aeroscrew ขนาด 17 นิ้ว

ใหม่ ภายในโทนสี Macchiato Brown อารมณ์นุ่มลึกสีน้ำตาลเทาสลับสีน้ำตาลเข้ม เพิ่มอารมณ์หรูด้วยวัสดุ Piano Black และ Chrome และเบาะนั่งโอบกระชับรับสรีระยิ่งขึ้น พร้อมด้วยเทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อน
ใหม่! ฝาท้าย Smart Tailgate เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ทำงานร่วมกับระบบ Step Sensor

นอกจากนี้ “THE NEW MU-X” be UNCHARTED…หมุดหมายใหม่ไม่สิ้นสุด มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัย ISUZU MATRIX SAFETY INTELLIGENCE แบบฉบับยนตรกรรมพรีเมียม พร้อมด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS แบบมีกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน มีให้เลือกทั้งในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ขับขี่เร้าใจบนถนน และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมออกลุยบนเส้นทาง Off-road มั่นใจกว่าด้วยระบบ Terrain Command สวิตซ์เปลี่ยนการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อ เป็น 4 ล้อ ให้เหมาะกับทุกสภาพพื้นผิวทางวิ่ง และ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเบรกให้เหมาะสมเพื่อสามารถผ่านอุปสรรคได้ดียิ่งขึ้น