“เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี” และ “มิชลิน ไกด์” สานต่อความร่วมมืออันยาวนานในการแสวงหาความสมบูรณ์แบบและงานฝีมือที่ไม่ธรรมดา เพราะไม่ว่าจะอยู่บนถนนหรือในครัว ทั้งสองแบรนด์ต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นที่สุดเสมอ “High Performance Chef” บทใหม่จึงถือกำเนิดขึ้น ผ่านการขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่น เอาใจใส่ และไล่ล่าในสิ่งที่ใจรัก

Mercedes-AMG X MICHELIN Guide ขอเชิญชวนคุณมาร่วมสัมผัส Performance รูปแบบใหม่ที่จะสร้างแรงบันดาลใจสู่สูตรความสำเร็จไปด้วยกัน โดยล่าสุดเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน “MICHELIN Star Revelation 2023 Thailand” งานประกาศรายชื่อร้านอาหารในประเทศไทยที่ได้รับดาวมิชลินประจำปี 2566 โดยเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีได้นำเอารถยนต์ Mercedes-AMG G 63 มาร่วมจัดแสดงภายในงานด้วย

มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ทั้งเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และ มิชลิน ไกด์ เป็นสองแบรนด์ที่ต่างนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นที่สุดเสมอ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ด้วยอารมณ์และประสาทสัมผัสทั้งหมดถึงคุณภาพและความเป็นเลิศในทุกรายละเอียด การออกเดินทางเพื่อไปแสวงหาความสุขจากรับประทานอาหารที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดีนั้น ยานพาหนะที่จะพาคุณไปถึงจุดมุ่งหมายได้ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและความปลอดภัยสูงสุดย่อมต้องเป็น เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี กับยางที่มีคุณภาพจากมิชลิน ที่จะช่วยให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ในการเดินทางที่แตกต่าง”

มร. เดวิด ฮาร์ทวิก หัวหน้าเชฟจากร้าน IGNIV Bangkok ที่สามารถคว้ารางวัลหนึ่งดาวมิชลิน มาครองได้สำเร็จ กล่าวว่า “ในการทำอาหาร ผมแข่งกับตัวเองทุกวัน โดยใช้ทั้งฝีมือและความมีใจรัก รวมทั้งการมีทีมเวิร์คที่ดี นั่นคือปรัชญาในการทำงานของผมซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาของรถยนต์เอเอ็มจี ที่มอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ด้วยความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์สูงสุดและความมีใจรัก โดยส่วนตัวผมคิดว่า การได้ทำในสิ่งที่อยากทำ และสิ่งที่เรารัก คือหนทางเดียวที่เราจะใช้ชีวิต”

ทางด้าน มร. แดน บาร์ก เชฟชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี และเจ้าของร้าน Cadence by Dan Bark ซึ่งสามารถคว้ารางวัลหนึ่งดาวมิชลินมาครอบครอง บอกว่า “เชฟก็เหมือนศิลปิน เราต้องทำอาหารให้ออกมาสวยงามก็จริง แต่ในที่สุดแล้วอาหารจานนั้นต้องอร่อยด้วย นี่คือการทำงานฝีมือที่หลอมรวมกับความมีใจรัก ไม่ต่างกับเวลาเลือกรถยนต์ เมื่อเราได้พบกับรถยนต์ที่มอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาแค่ 4.9 วินาทีอย่างเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี นั่นแหละคือความแตกต่างที่ทำให้ผมอยากเป็นเจ้าของรถยนต์คันนั้น”